สะเดาะเคราะห์ แก้ชงปี 2555 ที่วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่)
สะเดาะเคราะห์ แก้ชง ปี2555 ที่วัดมังกรกมลาวาส(วัดเล่งเน่ยยี่)
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมมีเหตุจำเป็นต้องเข้ากรุงเทพฯเพื่อไปประชุมผู้ปกครองนักเรียน(ของลูกชาย) จริงๆแล้วผมก็ไม่ค่อยอยากจะเข้ากรุงเทพฯสักเท่าไหร่ เพราะเป็นคนชอบเมารถยิ่งรถติดๆแล้วล่ะก็…….เบื่อ…..มาก…ๆ…
วันนั้นเริ่มประชุมประมาณ เก้าโมงกว่าๆเนื่องจากผู้ปกครองบางท่านยังมาไม่ถึง การประชุมก็จะแบ่งเป็น 2 ช่วง โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาพูดก่อน ก็จะกล่าวถึงเรื่องการเรียนแล้วก็กิจกรรมต่างๆของโรงเรียน ส่วนช่วงที่สอง ก็เป็นช่วงของกลุ่มประธานผู้ปกครอง(ห้องลูกชาย) ออกมาพุดเรื่องการนัดสังสรรค์ของผู้ปกครอง ผมฟังอยู่ได้สักพักก็มีความคิดว่าเราคงไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมกับเขาได้หรอก เพราะว่าบ้านเรามันอยู่ไกล ไป-กลับ คงลำบาก ว่าแล้วเพื่อไม่ให้เสียเวลาก็เลยแอบออกมาจากห้อง(ความจริงก็ไม่ถึงกับแอบอะไรมากมายนัก เพียงแต่อาศัยช่วงที่ผู้ปกครองหลายท่านกำลังวุ่นวายอยู่กับผลการเรียนของลูก….มันเป็นจังหวะครับ..555)
ตามแผนการผมที่เตรียมไว้เป็นอย่างดี หลังจากเสร็จการประชุมผู้ปกครอง ผมว่าจะไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ แก้ชง ที่วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ อยู่แถว ถนนเจริญกรุง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ผมบอกเป็น ถนน-เขต อาจจะงง เอาแบบง่ายๆก็คืออยู่แถวเยาวราช น่ะครับ ทีนี้เมื่อผมออกจากโรงเรียนลูก ผมจะต้องเดินไปขึ้นรถเมล์สาย1 หรือ สาย40 ผมเดินลัดเลาะไปเรื่อยๆ เห็นรถเมล์สาย40 แล้วล่ะครับ แต่ยังไม่อยากขึ้นเพราะว่ารถมันติดมาก รถไม่ค่อยจะเขยื้อนเลย ก็เลยเดินดูของที่เขาเอามาวางขายไปเรื่อยๆดีกว่าเดินผ่านสะพานเหล็ก แล้วก็เจริญกรุง เดินดูของเพลินเลยครับ เดินมาจนใกล้จะถึงวัด ก็เริ่มเห็นร้านขายอุปกรณ์ไหว้เจ้าหลายร้าน ทำให้เราเดาได้ว่าคงเดินอีกไม่ไกลก็ถึงแล้ว
วัดมังกรกมลาวาส ชื่อเดิม วัดเล่งเน่ยยี่ ตั้งอยู่ ณ เลขที่ ๔๓๒ ถนนเจริญกรุง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (พระปิยมหาราช) รัชกาลที่ ๕ ได้ทรงกรุณาโปรดกล้าฯ ให้เลือกชัยภูมิที่ตั้งวัดเนื้อที่ ๔ไร่ ๑๘ ตารางวา โดยให้พระยาโชฎึกราชเศรษฐีเจ้ากรมท่าซ้ายร่วมกับพุทธศาสนิกชนชาวจีนก่อสร้าง เมื่อปี พ.ศ.๒๔๑๔ ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ ๘ ปี จึงแล้วเสร็จให้ชื่อว่า “เล่งเน่ยยี่ ” ซึ่งมีความหมายคือ เล่ง แปลว่า มังกร เน่ย แปลว่า ดอกบัว ยี่ แปลว่า อาราม วัด การตั้งชื่อวัดตั้งตามหลักโบราณจีนคือการตั้งตามชัยภูมิ ฮวงจุ้ย ทำเลนั้นๆ ซึ่งนับเป็นสังฆารามตามลัทธินิกายมหายานที่มีศิลปะงดงามและใหญ่ที่สุดใน ประเทศไทยซึ่งภายหลังได้รับพระราชทานพระกรุณาโปรดกล้าฯจากพระบาทสม เด็จพระจุลจอมกล้าเจ้าอยู่หัว(พระปิยมหาราช) รัชกาลที่ ๕ พระราชทานนามใหม่ว่า “วัดมังกรกมลาวาส” โดยได้อาราธนาพระอาจารย์สกเห็งเป็นเจ้าอาวาส ข้อมูลจาก http://www.lengnoeiyi.com/index.php?option=com_content&view=category&layout=blog&id=40&Itemid=81
ภาพ 1 : บรรยากาศภายในห้องประชุมผู้ปกครอง(ก็คือห้องเรียนของลูกนั่นเอง)
ภาพ 2 : ด้านหน้าทางเข้าวัดชึ่งอยู่ติดกับถนน เจริญกรุง
ภาพ 3 : เมื่อเดินเข้ามาภายในวัด ด้านขวามือ จะเป็นเต็นท์ให้บริการธูป-เทียน (คนเยอะมากๆ)
ภาพ 4 : ส่วนทางด้านซ้ายมือจะเห็นเป็นตัวอักษรจีน แปลว่า….! ด้านหลังเป็นต้นไผ่ (มีคนมาถ่ายรูปกันเยอะรอตั้งนานกว่าจะได้ถ่ายกะเขามั่ง)
ภาพ 5 : เมื่อเดินเข้าไปอีกนิดนึงก็จะถึงจุดที่ทางวัดเตรียมชุดสะเดาะเคราะห์(แก้ชง) ปี2555นี้ปีที่ชงได้แก่ปี มะโรง จอ ฉลู มะแม (ส่วนปีใหนชงมาก ชงน้อย ก็คงพอจะทราบกันบ้างแล้วนะครับ)
ภาพ 6 : เมื่อเราได้ชุดสะเดาะเคราะห์มาแล้ว จะมี 1.ใบสะเดาะเคราะห์สีแดง 2.หงิ่งเตี๋ย(กระดาษทองสำหรับใช้ไหว้เจ้า)
ภาพ 7 : ชุดสะเดาะเคราะห์จะมี 2ค้าน ให้เราเขียน ชื่อ วันเดือน ปีเกิดลงไป(เพื่อความสะดวกอย่าลืมนำปากกามาด้วย)
ภาพ 8 : อธิบายถึงขั้นตอนการสะเดาะเคราะห์
ภาพ 9 : ตารางเทียบอายุ ซึ่งของเราเป็นแบบสากลอยู่ ต้องแปลงให้เป็นแบบจีน……แก่ขึ้นอีกปี..!
ภาพที่ 10 : เมื่อเขียนเสร็จ ให้จุดธูป 3ดอก
ภาพ 11 : นำธูปและชุดสะเดาะเคราะห์ เดินตรงเข้าไปที่วัดเลยครับ เข้าประตูเล็กด้านขวามือเรา วันนั้นเนื่องจากว่าเป็นวันหยุดคนเยอะมากต้องเบียดกัน(ประมาณงานองค์พระฯคืนลอยกระทง) มีทั้งมาไหว้ขอพร เสริมดวง จึงทำให้ผมหลงเข้าไปผิดที่ กว่าจะไปถูกที่ทำเอาเสียเวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง ต้องทำใจครับ เพราะผมไม่คุ้นกับเทพเจ้าของจีน บรรยากาศจีนก็คือมีภาษาไทยน้อย ต้องถามคนข้างๆ 555 คนข้างๆก็เข้ามาผิดเหมือนกัน บางคนก็ไม่รู้ สรุปแล้วถามพระดีกว่าครับ(เฮ้อ…มาผิดที่นี่เอง)
ภาพที่ 12 : ไม่ได้ถ่ายรูปตอนไหว้ด้านในมาครับเพราะคนแน่นมาก มือนึงถือธูปชูเหนือศีรษะเพราะกันธูปไปถูกคนอื่น อีกมือถือกระดาษไหว้เจ้าแล้วเดินแบบไหลกันไปพอถึงจุดก็หยุดไหว้โดยอ่านข้อความในใบสะเดาะเคราะห์สีแดง เมื่ออ่านเสร็จก็ให้เอาชุดสะเดาะเคราะห์มาปัดที่ตัวโดยให้ปัดตั้งแต่ศีรษะไปจนถึงเท้า(ปัดออกไป) ทำจนครบ13ครั้ง เมื่อเสร็จให้นำชุดสะเดาะเคราะห์วางไว้บริเวณจุดที่ทางวัดเตรียมไว้ให้ ก็อยู่แถวๆนั้นล่ะครับ แล้วเราก็ถือธูปเดินออกมา
ภาพ 13 : นำธูปมาปักที่กระถางธูป จากรูปจะเห็นคนถือธูปเดินชูเหนือศีรษะเพื่อกันธูปไปจี้ถูกคนอื่น
ภาพ 14 : บริเวณใกล้ๆก็จะมีจุดให้เราได้นมัสการ เจ้าแม่กวนอิม
ภาพ 15 : อีกมุมนึง ใกล้เข้ามาอีกนิด
ภาพ 16 : เมื่อทำพิธีแก้ชง สะเดาะเคราะห์เสร็จ ผมก็หนีจากความวุ่นวายตรงนั้นมานั่งพักเหนื่อย
ภาพ 17 : นั่งพักไปก็ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย
ภาพ 18 : มานั่งคิดดู ผมเดินมาจากโรงเรียนลูกชาย ยังไม่เหนื่อยเท่านี้เลยครับ
ภาพ 19 : สิ่งที่เป็นปัญหามากก็คือ คนแน่นมาก ร้อน และที่สำคัญคือ ควันธูปฟุ้งเต็มไปหมด ทั้งสูดดมและเข้าตา น้ำตาไหลตลอด แต่เราแก้ไขได้นะครับ คือให้มาวันธรรมดาครับคนจะน้อยหน่อย
ภาพ 20 : นั่งพักจนหายเหนื่อยแล้ว ก็เดินถ่ายรูปกันต่อ
ภาพ 21 : จุดลงชื่อทำบุญครับ
ภาพ 22 : สังเกตุควันธูป…………
ภาพ 23 : บรรยากาศภายใน ผู้คนมีความศรัทธากันมาก
ภาพ 24 : ด้านหน้าวัด
ภาพ 25 : จุดนี้ครับ ที่ผมหลงเดินเข้าไปครับ ข้างในคนแน่นมาก
ภาพ 26 : จุดนี้จะเป็นการเข้าไปไหว้เพื่อขอพร
ภาพ 27 : โรงเรียนและพิพิธภัณฑ์
ภาพ 28 : ภาพนี้เป็นสิงห์โตหิน ที่เฝ้าอยู่หน้าวัด สังเกตุเห็นคนที่ทำบุญเสร็จ เมื่อเดินออกมาจากวัด ก็จะเอากระเป๋าเงินของตนเอง นำมาลอดปากสิงห์โต สอบถามก็ได้ความประมาณว่า ให้สิงห์โตคาบเงิน เพื่อเงินทองจะได้ไหลมาเทมา
ภาพ 29 : จบแล้วครับ หนทางกลับบ้านอีกไกล เอ…! จะนั่งรถสายอะไรกลับบ้านดีน๊า…….ได้เวลาเมารถอีกแล้วเรา……
4 thoughts on “สะเดาะเคราะห์ แก้ชงปี 2555 ที่วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่)”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
นั่งรถกลับบ้านแนะนำรถไฟที่สถานีหัวลำโพงเพราะอยู่บริเวณนั้นแล้ว เมื่อ 15 ม.ค.55 ได้ไปไหว้พระวัดบวรนิเวศวิหารที่เปิดให้เข้าชมเจดีย์บรรจุพระธาตุและสถานที่ต่างๆในวัดที่ไม่เคยเปิดให้ชมมาก่อนในรอบร้อยปี แล้วไปไหว้พระพุทธรูปทองคำ วัดไตรมิตรวิทยาราม มองไปเดินอีกหน่อยเดียวก็จะถึงวัดเล่ยเน่งยี่ แต่บ่ายแก่มากแล้วจำต้องรีบกลับบ้าน เดินกลับมาหัวลำโพง นั่งรถเร็ว กท.-ยะลา ค่ารถคนละ 20 บาท ดีกว่าฝ่ารถติดเข้าเมืองกลับ นครปฐม รถขบวนนี้ไม่จอดพร่ำเพรื่อ นั่งด่วนมาเลย สบายดี ตั้งใจว่าคราวหน้าจะมาใหม่
ขอแนะนำสถานที่ไหว้ขอพรแก้ปีชง สำหรับผู้ที่มีปีเกิด ปีมะโรง,ปีฉลู,ปีจอ,ปีมะแม ที่จะเดินทางไปราชการทางภาคเหนือ ดังนี้ วัดดับภัย,วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร (พระธาตุประจำปีนักษัตรมะโรง)วัดดวงดี,วัดลอยเคราะห์,วัดเกตการาม (พระธาตุประจำปีนักษัตรจอ)…
วันนั้นผมก็กะว่าจะนั่นรถต่อไปลงที่หัวลำโพงเหมือนกันครับ แต่ไม่รู้ตารางเวลารถไฟ กลัวไปแล้วเก้อ…
อ่านแล้วอยากมีลูกเรียนสวนกุหลาบมั่ง เพราะที่เที่ยวเยอะดี 55 แถวๆ โรงเรียนลูกพีี่มีแต่ทุ่งนา และผ่านทุกวัน …ขอบคุณน้องที่ทั้งรูปและเรื่องที่เล่ามาอ่านแล้วดูแล้วเหมือนไปด้วยตนเอง จ้า