ผู้รับยิ้มได้ ผู้ให้ก็ยินดี

วันนี้จาจะมาเล่าประสบการณ์การทำ Mystery Book ให้อ่านกัน ซึ่งอยู่ในโปรเจกต์ Sharing หนังสือเพื่อแบ่งปัน ภายใต้งานจัดการทรัพยากรสารสนเทศ หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรนั่นเอง และจาจะเล่าถึงความปลื้มปริ่มใจที่ได้รับจากงานทับแก้ววิชาการในช่วงวันที่ 21-23 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ส่วนเรื่องความเป็นมาของ Mystery Book นั่น ทุกคนสามารถเข้าไปอ่านได้ที่ลิงก์ด้านล่างได้เลย

No.6 with Mystery Books

มาเริ่มกันเลย งานทับแก้ววิชาการในปี 2566 นี้ หอสมุดใช้ชื่องานว่า “หนึ่งวันในOneSilpakorn” เพื่อให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับมหาวิทยาลัย ในงานครั้งนี้ “พี่พร้อม” ของหอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ก็เตรียมกิจกรรมไว้ต้อนรับน้อง ๆ มัธยมด้วย คือ DIY สมุดทำมือ, Sharing Book, Mystery Book, นิทรรศการ Perspactive in ทับแก้ว, ตอบคำถามลุ้นรับรางวัล ซึ่งในครั้งนี้จาก็เป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของ Mystery Book เช่นเคย และจาเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจทำสิ่งใดแล้ว ผู้ที่ได้รับก็จะสามารถรับรู้ถึงความตั้งใจของเราได้ด้วยเช่นกัน เพราะจาตั้งใจตั้งแต่คัดเลือกหนังสือ ข้อความ ห่อปกแต่ละเล่ม รวมถึงเขียนข้อความเหล่านั้นลงไปบนกระดาษ ค่อนข้างใช้เวลาเลยทีเดียว รวมทั้งสิ้นได้ 45 เล่ม จาตั้งใจไว้ว่าจะโชว์วันละ 15 เล่มเท่านั้น เสมือนเป็นของ Limited Edition ก็มิปาน 555555 ส่วนหนังสือส่วนใหญ่ที่ได้ในครั้งนี้จะเป็นประเภทนวนิยาย เรื่องสั้น หรืออะไรที่อ่านง่ายไม่ซับซ้อน ให้เข้ากับช่วงวัยมัธยมฯ ด้วย ก่อนจะถึงวันงานก็แพ็กใส่กล่องแปะป้ายเรียบร้อยตามภาพ

และแล้ววันแรกก็มาถึง แต่จาติดภาระกิจจึงไม่ได้ร่วมงานในวันแรก แต่ก็ได้รับข่าวสารมาว่า Mystery Book หมดแล้วตั้งแต่เช้า หมดไวมาก แค่นี้ก็ชุบชูจิตใจคนทำแล้วค่ะ แล้วก็มาถึงวันงานวันที่ 2 และ 3 Mystery Book ก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี คือให้ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาแวะเวียนเข้ามาอ่านข้อความบนปก ถูกใจก็หยิบไปแบบลุ้น ๆ และจาก็ได้พูดคุยกับน้อง ๆ ที่แวะเวียนเข้ามา บอกถึงความตั้งใจของเราที่ออกมาเป็นงานนี้ (เรียกง่าย ๆ ว่าโม้นั่นแหละค่ะ 55555) น้อง ๆ ถึงกับออกปากชมยกใหญ่ว่า

“พี่เขียนเองจริง ๆ หรอคะ ลายมือพี่สวยมากเลยค่ะ”

“หนูอยากเขียนได้ลายมือแบบพี่บ้าง แต่หนูเขียนไม่ได้”

“หนูชอบข้อความที่พี่เขียนมากเลยค่ะ ชอบหลายเล่มเลย”

“หนูชอบลายมือพี่มาก ๆ เลยนะ หนูพูดจริง ๆ”

แหมได้ยินแบบนี้คนเขียนแทบตัวลอย แต่ลอยไม่ไหวค่ะ (หนัก 555555) พี่อ้อที่ยืนอยู่ที่บูธ ณ ช่วงเวลานั้นยังแอบหยอกน้อง ๆ ไปว่า “ใครสอบเข้ามาเป็นบรรณารักษ์ที่นี่ เขาให้คัดลายมือก่อนนะ” น้อง ๆ ก็ขำกันใหญ่ “จริงหรอคะพี่” อย่างนั้นอย่างนี้ และที่เล่ามาจนถึงตอนนี้ก็แค่อยากจะบอกทุกคนว่า มีความสุขจังเลยค่ะ แค่เราตั้งใจกับงานให้ออกมาดี ผู้ที่ได้รับชอบใจ ยิ้มได้ และมีความสุข ผู้ที่รับผิดชอบในงานนี้ก็มีความสุขเช่นกันค่ะ ♡♡♡♡

ปล.ต้องขอบคุณพี่กาญจนาและพี่รุ่งทิวา ผู้ที่คัดหนังสือด่านแรกด้วยนะคะ -/\-

จริณ.