เบื้องหลังเสียงรถแห่ประชาสัมพันธ์งานทับแก้วบุ๊คแฟร์ครั้งที่ 17


แม้ว่างานทับแก้วบุ๊คแฟร์จะเดินทางมาถึงครั้งที่ 17 แล้วนั้น แต่ฉันเพิ่งมีโอกาสได้ร่วมเป็นคณะทำงานเป็นครั้งที่สอง ในครั้งแรกนั้นได้สังเกตกระบวนการทำงานในขั้นตอนต่าง ๆ

ซึ่งในด้านการประชาสัมพันธ์งานทับแก้วบุ๊คแฟร์ครั้งที่ 16 โดยรถแห่ที่ขับวนรอบเมืองนั้น “มาแล้ว มาแล้ววว” คำเกริ่นนำที่เป็นเอกลักษณ์และน้ำเสียงที่คุ้นเคยของพี่สุนทร รวมไปถึงน้ำเสียงหวานของคุณจริญญา นับว่าเป็นสิ่งที่เราได้ยินตลอดก่อนและระหว่างงานทับแก้วบุ๊คแฟร์ครั้งที่ 16 ฉันเองได้เห็นพี่ ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในงานส่วนนี้ เตรียมบทพูด พูดคุยกันเรื่องไปห้องอัดเสียง เห็นพี่จริญญานั่งตัดต่อเสียง จนได้รับฟัง spot ฉบับสมบูรณ์

และด้วยกระบวนการทั้งหมดที่ฉันได้รับรู้มาเมื่อปีก่อนนั้น คุณนภัสรพีได้มอบหมายให้ฉันเขียนบทสำหรับการอัด spot ประชาสัมพันธ์ในงานทับแก้วบุ๊คแฟร์ครั้งที่ 17

ฉันเริ่มต้นร่างบทพูดด้วยการรวบรวมรายละเอียดของกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีในงาน รวมไปถึงรายละเอียดที่สำคัญ ทั้งยังกลับไปฟังบทพูดของปีที่แล้ว “มาแล้วว มาแล้วว” อีกครั้ง

ฉันได้ทำการร่างบทพูดเป็นจำนวนสองบท เพื่อนำส่งให้คุณนภัสรพีพิจารณาและได้มีการปรับแก้กันอยู่หลายครั้ง ซึ่งคุณกรุณาได้ช่วยเหลือในการเกลาคำในขั้นตอนสุดท้าย และนั่นคือบทพูดที่สมบูรณ์ของเรา!

แต่! เมื่อถึงวันอัด spot สิ่งที่ฉันไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้น ประการแรก เราแก้ไขบทพูดใหม่ทั้งหมด แน่นอนค่ะ อ่านกันไม่ผิด เราแก้ไขใหม่ทั้งหมด เพราะเมื่อได้มาทบทวนกันอีกครั้งเราต้องการให้เป็นบทพูดที่ค่อนข้างผ่อนคลายกว่าฉบับเก่า ฉันจึงลงมือเขียนบทพูดใหม่ ณ หน้าห้องอัด ด้วยการะดมสมองกับพี่ ๆ คณะทำงาน

(บทพูดที่เขียนใหม่หน้าห้องอัดเสียง)

แน่นอนว่ามีเรื่องที่ไม่คาดคิดประการแรกแล้วก็ต้องมีประการที่สอง นั่นก็คือคุณสุนทรให้ฉันเข้าห้องอัดร่วมกับคุณจริญญา ซึ่งก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้เตรียมใจว่าจะได้มาเป็นดาราหลักเลยค่ะ (ฮ่า ๆ) ฉันเป็นแค่คนเขียนบทอยู่เบื้องหลังแท้ ๆ

แต่เมื่อได้รับความไว้วางใจและมติในคณะทำงานเห็นสมควรว่าฉันควรสองอัดดูสักครั้ง จึงลองทำดู แม้ว่าจะเป็นครั้งแรก แต่ก็พยายามเต็มที่ค่ะ ระหว่างการอัดเสียงมีการติดขัดทั้งทางด้านการใช้น้ำเสียง และความตื่นเต้นส่วนตัว ต้องขอบคุณพี่ ๆ ในคณะทำงานที่ช่วยเชียร์อัพกันอย่างดี

เราใช้เวลากว่าชั่วโมงในการอัดเสียงที่มีความยาวเพียงสี่สิบวินาที หลังจากออกมาจากห้องอัดเอเนอจี้ที่สั่งสมมาทั้งวันก็หมดลงไปกับการใช้เสียงตลอดทั้งชั่วโมงนั้นเลยค่ะ

ท้ายที่สุดแล้วเสียงรถแห่ก็ได้ถูกนำไปใช้ประชาสัมพันธ์งานทับแก้วบุ๊คแฟร์ครั้งที่ 17 ผ่านการตัดต่อและใส่เสียงเพลงโดยคุณจริญญา ซึ่งรถแห่ได้เปิดเสียงประชาสัมพันธ์ตลอดก่อนและระหว่างงานทับแก้วบุ๊คแฟร์

ทั้งหมดที่กล่าวมาคือเบื้องหลังของเสียงประชาสัมพันธ์ผ่านรถแห่ ตั้งแต่การเขียนบทแรก ร่างบทใหม่หน้าห้องอัด และการต้องเข้าห้องอัดเสียงโดยที่ไม่ได้เตรียมใจมาก่อน แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นอีกหนึ่งงานที่ฉันรู้สึกสนุก และได้ฝึกฝนประสบการณ์ในด้านที่ไม่เคยลองทำ ทั้งยังมีแต่เสียงหัวเราะกับเหล่าคณะทำงาน ที่ทำให้บรรยากาศในการทำงานวันนั้นเต็มไปด้วยความทรงจำที่ดี

Leave a Reply