ธรรมเนียมก่อนตรุษจีน

 

ตรุษจีน เป็นประเพณีสำคัญของลูกหลานชาวจีน ที่มักคุ้นกันดีว่ามีวันสำคัญที่ต้องเตรียมดำเนินการ อาทิ วันส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ วันจ่าย ซึ่งเป็นวันก่อนวันไหว้ 1 วัน วันนี้พี่น้องชาวจีนจะไปจับจ่าย ซื้อหาข้าวของเพื่อมาเตรียมสำหรับจัดไหว้ในวันรุ่งขึ้น และวันรุ่งขึ้นหลังจากวันไหว้ ก็จะเป็นวันที่ 1 ตามปฏิทินจันทรคติแบบจีน ซึ่งพี่น้องจีนก็จะนับวันนี้เป็นวันถือ ที่จะพูด ทำ แต่ในสิ่งดีๆ อันเป็นมงคล พร้อมทั้งพากันไปไหว้เจ้าขอพร รวมทั้งไปอวยพรแก่ญาติสนิทมิตรสหายและท่องเที่ยว แต่ท่านทราบหรือไม่ว่า ธรรมเนียมก่อนตรุษจีนนั้น มีมากกว่า การส่งเจ้า การจับจ่ายข้าวของเตรียมไหว้ตรุษจีน

 

ธรรมเนียมก่อนตรุษจีนมีวันที่พี่น้องจีนที่ยังคงธรรมเนียมเดิมเคร้งครัด ยังคงถือปฏิบัติอยู่ คือ

 

วันปิดบัญชี เชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่เราๆ มักทราบกันดี คือ ชาวจีนเป็นชนชาติหนึ่งที่มักจะประกอบอาชีพในการทำมาค้าขายเป็นสำคัญ ในการค้าขายนั้นก็จะต้องมีการทำบัญชี ซึ่งสำหรับชาวจีนนั้นถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งยังเกี่ยวข้องกับวันตรุษจีน กล่าวคือ ชาวจีนที่ทำการค้าขาย จะถือเอาวันที่ 16 ของเดือนที่ 12 ซึ่งก็หมายถึงกลางเดือนสุดท้ายของปี เป็นวันปิดบัญชีการค้าขายในแต่ละปีนั้นเอง

 

วันทำความสะอาดบ้านเรือน โดยก่อนถึงวันตรุษจีน พี่น้องชาวจีนก็จะหาฤกษ์ยาม ซึ่งในปัจจุบันเข้าใจว่าส่วนใหญ่ก็มักถือเอาฤกษ์สะดวก ซึ่งควรจะแล้วเสร็จก่อนวันที่จะรับเจ้าเตากลับจากสวรรค์ ในการทำความสะอาดบ้านเรือน ซึ่งนอกจากการปัดกวาดล้างถูแล้ว ตามธรรมเนียมก็จะมีการทาสีรั้วและประตูบ้านเพื่อขจัดฝุ่นละอองสิ่งสกปรกให้หมดสิ้น โดยถือว่าเป็นการขจัดสิ่งชั่วร้ายให้หมดสิ้นไปด้วยนั่นเอง ที่บ้านพี่พร้อมเล็กเองที่ตลาดนั้น จำได้ว่าคุณพ่อกับบรรดาพี่ๆ สมุนฝ่ายชายจะถูกเกณฑ์แรงงานกันถ้วนทั่วหน้า บางปีหากมีการทาสีในตัวบ้านด้วยรุ่นโตๆ ก็จะมีหน้าที่ปีนบันไดสูงรุ่นเล็กก็ทาสีประตูบ้านไป ส่วนสามสาวอย่างพี่พร้อมเล็กกับพี่สาวน้องสาว ก็มีหน้าที่ช่วยคุณแม่ทำความสะอาดภายในครัว รวมทั้งจัดเตรียมอาหารคาวหวานไว้เลี้ยงแรงงานยามดึก ซึ่งส่วนใหญ่คุณแม่ก็จะทำอาหารชามเดียวง่ายๆ อย่างข้าวต้มเครื่อง หรือ หมี่เตี๊ยวน้ำ ทานอุ่นๆ กัน ด้วยว่าเป็นช่วงปลายปี ซึ่งสมัยนั้นอากาศยังหนาวอยู่ แถมด้วยขนมหวาน อย่างถั่วเขียมต้มน้ำตาลบ้าง บัวลอยไข่หวานบ้าง สุดแต่คุณแม่จะคิดทำในแต่ละปี

 

เมื่อจัดการบ้านช่องสะอาดเรียบร้อยดีแล้วก็จะตกแต่งความสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นการแขวนติดโคมไฟประดับประดาประตูทุกแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ประตูใหญ่ สังเกตได้ว่าจะมีการแขวนโคมไฟคู่ใหม่ ที่เรามักได้ยินเรียกว่า เต็งลั้ง ซึ่งก่อนตรุษจีนก็มักจะเห็นบ้านชาวจีนส่วนใหญ่เปลี่ยนโคมสีแดงสวยงามคู่ใหม่ขึ้นแขวนที่ประตูหน้าบ้าน ส่วนภายในบ้านก็จะติดรูปเจ้า 2 องค์ คือ เจ้ายูชีกั๋ง กับ เจ้าฉินจูเป่า เพื่อให้คอยปัดเป่าไม่ให้ภูติผีปีศาจผ่านประตูเข้ามาทำความเดือดร้อนให้กับคนในบ้านได้นั่นเอง ส่วนภายในห้องต่างๆ ทุกห้องจะถูกจัดใหม่ประดับด้วยภาพเขียนใหม่ ตัวหนังสือใหม่ติดตามฝา มีเครื่องเย็บปักถักร้อยบนไหมคลุมเครื่องเรือน มีการตามตะเกียงสวยๆ ไว้ในห้องโถง

 

วันเลี้ยงส่งเจ้าเตา หลังจากทำความสะอาดและตกแต่งบ้านแล้ว ก็จะมีการทำอาหารเพื่อเลี้ยงส่งเจ้าแห่งครัว ที่เรามักได้ยินพูดว่ามีการเลี้ยงส่งเจ้าเตา นั่นเอง การส่งเจ้าองค์นี้ถือว่ามีความสำคัญมาก คือส่งเพื่อให้ท่านเดินทางขึ้นไปเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้บนสวรรค์ เพื่อไปรายงานผลการประพฤติ การทำความดี ความชั่วของคนในครอบครัวที่เจ้าเตานั้นสิงสถิตอยู่เป็นประจำทุกปีนั่นเอง

 

อาหารที่ทุกบ้านทำเลี้ยงเจ้าเตาจะเน้นที่มีรสหวาน ก็คือขนมหวานนั่นเอง ด้วยการถือเคล็ดว่าเมื่อเจ้าเตาได้ทานอาหารหวานๆ เข้าไปแล้วก็จะได้ไปรายงานแต่สิ่งที่ดีๆ ไพเราะหวานหูให้แก่เง็กเซียนฮ่องเต้ ขนมหวานที่ทำก็มักจะกวนจนเหนียวเพื่อไม่ให้เจ้าเตาอ้าปากได้สะดวก จะได้ไม่พูดมากนัก สำหรับในปัจจุบันขนมหวานที่มักคุ้นเคยใช้กัน อาทิเช่น ตังกวย หรือ ฟักเขียวเชื่อม ด้วยหาซื้อได้ง่าย และผู้ที่ทำหน้าที่ตรงนี้ก็คือหัวหน้าครอบครัวนั่นเอง เมื่อเจ้าครัว หรือ เจ้าเตาเสด็จไปแล้ว หัวหน้าครอบครัวก็จะนำภาพของเจ้าเตาของเดิมที่ตั้งบนหิ้งบูชาลง พร้อมกับพูดว่า “ขอได้โปรดอย่าบ่นจู้จี้เลย จงกล่าวถึงพวกลูกช้างแต่สิ่งที่ดีงามเถิด” จากนั้นก็จะนำขนมตังกวยไปทาที่ปากของเจ้าเพื่อให้เจ้านั้นไปรายงานเรื่องที่ดีๆ ในสวรรค์ แล้วก็นำภาพนั้นไปเผาเพื่อส่งเจ้าและพาหนะให้เปลวไฟนำท่านเดินทางไปสวรรค์นั้นเอง จากนั้นสมาชิกในครอบครัวจะโยนกระดาษและหญ้าลงในกองไฟเพื่อส่งเสด็จ

 

เมื่อถึงวันที่จะรับเจ้าเตาเสด็จกลับลงจากสวรรค์ ก็จะมีการเปลี่ยนนำภาพเจ้าเตาของใหม่ขึ้นแทนที่เดิมในครัวที่ถูกจัดอย่างสะอาดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมักจะทำพร้อมๆ กับการทำความสะอาดบ้านเรือน โดยจะมีม้วนกระดาษแดง 2 ม้วน เขียนข้อความว่า “เมื่อไปสวรรค์โปรดกล่าวแต่สิ่งที่เป็นมงคล เมื่ออยู่ในโลกนี้จงนำสันติสุขและความเจริญมา” ม้วนกระดาษนี้จะถูกแขวนไว้สองข้างเตาในครัว และเมื่อครอบครัวทานอาหารค่ำแล้ว ก็จะเป็นเวลาเชิญเจ้าครัวเสด็จเข้ายังที่ มีการเชิญส่งด้วยน้ำชา ผลไม้ ขนม และประทัด เจ้าเตาก็จะอยู่เพื่อทำหน้าที่ผู้ปกปักรักษาครอบครัวนั้นต่อไปจนสิ้นปี