ดูแลมารดาให้มีความสุข

วันแม่ปีนี้ แม่ป่วย เข้าไป รักษาอยู่ที่ โรงพยาบาลศิริราช แม่หายใจไม่สะดวก หมอต้องรักษาแม่ คนเป็นลูก ก็ต้องดูแล เนื่องจากแม่มีเสมหะมาก กว่าแม่จะออกจากโรงพยาบาล ได้ก็ต้องนับวันรอ  กว่าจะเอาสายออกจากร่างกาย ก็รอด้วยความหวัง  เมื่อออกจากรพ. แล้ว ก็ต้องดูแลพักฟื้น เนื่องจากผู้สูงอายุเกิดภาวะเปราะบางได้ง่าย ข้าพเจ้าก็ได้รับกำลังใจ จากเพื่อน ๆ ให้แม่มีกำลังต่อสู้ กับโรค หมอแจ้งว่า แม่เป็นไข้หวัด เป็นโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ แม่ต้องใ้ห้ oxigen และให้ยาทางสาย

ยาที่รับประทาน เป็นประจำ หมอห้ามให้งดกินเด็ดขาด ให้กินยาที่หมอสั่งเท่านั้น

แม่ไม่ถ่ายเลย น่าสงสาร ทำให้แม่นอนไม่หลับ เมื่อแม่มีทุกข์ ก็ต้องให้แม่ทำกรรมฐาน สอบถามเพื่อนๆ เรื่องแม่ไม่ถ่าย  เรื่องมีอยู่ว่า แม่ไม่ค่อยได้เดินทำให้ลำไส้ไม่ปั่นป่วน  เราเลยตัดสินใจ แม่ ลูก รับประทานยาเพิ่มมากขึ้น ทำให้ถ่ายออกมาบ้าง  หากไม่ถ่ายจริง ๆ  แม่ต้องกินน้ำมะขามเปียก ต้มน้ำร้อน

ทุกวัน แม่จะไอมีเสมหะเหนียว แม่ต้องพยายามเอาเสมหะออกมาด้วยความยากลำบาก ต้องคอยบอกแม่ว่า กะปิ บอกว่าให้แม่ สู้ สู้ สู้ ดูแล้วแม่ต้องการคนอยู่ใกล้ ๆ เรียกหา ครั้งใด ต้องมีคนอยู่เป็นเพื่อน

เมื่อแม่กลับมาอยู่บ้าน เพื่อน ๆ นำของกิน, สิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นมาให้แม่ บางคนก็ให้สตางค์ เพื่อซื้อของกิน  และสิ่งจำเป็นให้แม่  แม่บอกว่า ขอบคุณมากขอให้มีความสุข

แต่ในส่วนตัวของข้าพเจ้า คงไม่ได้มีโอกาสตอบแทนเพื่อนๆ มีแต่บุญที่ได้จากปฏิบัติธรรมเท่านั้น

เพื่อนที่ นำของมาให้แม่ แม่จะถามทุกครั้ง เช่น พี่กะปิ น้องมะอึก พี่จุ๋ม คุณจันทร์เพ็ญ พี่หนาม น้องแอ๊ะ น้องเขียด  น้องสมพร แม่จะให้พรทุกครั้ง และยกมือสาธุ บางครั้งแม่ไม่มีแรง แม่ก็จะบ่นทำไม่เป็นแบบนี้ เราต้องคอยบอกแม่

ขออานิสงส์ผลบุญที่เพื่อนๆ ได้กระทำในคร้้งนี้  เป็นปัจจัยให้ได้ถึงพระนิพพาน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ธรรมอย่างไร ชอให้เพื่อนๆ มีส่วนรู้ตามธรรมของพระองค์ แม้ต้องเกิดอยู่ในภพชาติใดๆ ขอให้เกิดภายใต้ร่มเงาแห่งบวรพระพุทธศาสนา ได้พบสัตบุรุษผู้รู้ธรรมอันประเสริฐ ม่ีกรรมสัมพันธ์ที่ดี ได้เกิดท่ามกลางกัลยาณมิตร และเป็นสัมมาทิฏฐิทุกชาติไป มีโอกาสฟังธรรมและประพฤติธรรม จนเป็นปัจจัยให้เจริญด้วยสติและปัญญาญาณตามส่งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป จนถึงพระนิพพานในกาลอันควร

ขอบคุณหัวหน้างานฯ ที่ช่วยเหลือมาโดยตลอด รู้สึกได้ถึงความเมตตาที่มีให้แก่กัน ทีุ่ทำให้ได้ดูแม่ ในช่วงที่ลำบากที่สุดของชีวิต

ขอบคุณหอสมุดฯ ที่ยังมีงานให้เราได้ทำ ประกอบสัมมาอาชีว

และได้ดูแลมารดาให้มีความสุข

สิ่งสำคัญที่สุด คือ การรับประทานยา ต้องตรวจสอบ และสอบถามผู้รู้ให้ถี่ถ้วน

ยาที่แม่ได้รับใหม่ ได้แก่

  1. Rosuvastatin Tab 20 Mg. (Vivacors)   รับประทานครั้งละ 1 เม็ด ก่อนนอน (ยาลดโคเลสเตอรอล)
  2. ฺBerodual Inhaler 200 Dose  ให้พ่นสูดทางปาก  2 ที  ทุก 8 ชั่วโมง
  3. VIT. D2 CAP.20.000U  รับประทานครั้งละ 1 เม็ด ทุก 1 สัปดาห์ เฉพาะวันเสาร์
  4. Lercadip Tab 20 Mg   รับประทานครั้งละ 1 เม็ด ก่อนอาหารเช้า (ยาโรคระบบไหลเวียนโลหิต)
  5. CalTab Tab 1,000 Mg รับประทานคร้้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า (แคลเซียม)
  6. Senokot Tab รับประทานครั้งละ 2 เม็ด ก่อนนอน (ยาระบาย)
  7. Milk of Magnesia 240 mL. (Emulax MOM) รับประทานครั้งละ 30 ซีซี (เวลาท้องผูก ยาลดกรด และยาระบาย (ถ้าท้องผูก)
  8. Aspirin รับประทาน 1 เม็ด (ยาเดิมที่แม่เคยกิน)
  9. Cmeprazole   (Miracid)  20 Mg  รับประทาน 1 เม็ด ก่อนอาหารเช้า 30 นาที (ยาเดิมที่แม่เคยกิน)  (ยาลดการหลั่งกรด ห้าม หัก บด เคี้ยว
  10. Losartan Tab 50 Mg (Lanzaar) รับประทานครั้งละ ครึ่งเม็ด  วันละ 1 ครั้ง หลังอาหารเช้า
  11. Bromhexine (Disol) รับประทานครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า  กลางวัน   เย็น (ยาละลายเสมหะ)

หากแม่หายใจพอได้ ก็ให้หยุดการพ่นยา ให้สังเกตุ ดูว่า หายใจวีด วีด เมื่อไหร่ ให้เริ่มพ่นยา

ทั้งนี้ เราสามารถสอบถาม ภกญ. ดวงกมล จันทร์มิตรสกุล ในเรื่องของการใช้ยา เพิ่มขนาดของยาระบายให้มากขึ้น

แพทย์ผู้ทำการรักษาแม่ คือ อ.พญ. ปิณิดา สกุลรัตนศักดิ์

หมอนัดแม่ วันที่ 20 สิงหาคม 2563 แต่ไม่ใช่หมอคนเดิม เลยไม่ได้พบหมอที่รักษาแม่

อาการของแม่ ก็ยังไอและมีเสมหะ แม่ก็ยังไม่หลับ สงสารแม่

ได้สอบถามอาการไอ จากเพื่อนๆ และผู้รู้ ว่า ถ้าไอแบบมีเสมหะ จะต้องมีวิธีการช่วยเหลือผู้ป่วนอย่างไร บางคนก็ให้คำตอบว่า ให้ซื้อสายดูด น้ำลายและเสมหะ จะได้ช่วยได้  แต่น่าเสียดาย แม่กลัวเกินกว่าที่จะใส่สายเสียแล้ว

ทุกวันแม่ต้องนำเสมหะ ออกมาให้ได้ด้วยตนเอง แม่บอกหมดแรงเลย แต่อย่างไรก็ตาม

แม่ก็ยังสู้กับเสมหะ ที่ติดเหนียว  แม่หลับไปตอนใกล้เช้า แม่เริ่มหลับตอน ใกล้ ตี ๔