ความสุขวันหยุดยาว

เมื่อวันที่ 27 ก.ค.63 ได้จองทริปทัวร์กรุงเทพฯด้วย Scooter ไฟฟ้าไว้ ดิฉันกับลูกชายไปถึงที่นัดหมายก่อนเวลานัดเพียง 15 นาที ทริปของเราจะเริ่มตอน 14.00 น. สำนักงานของ Scooter อยู่แถวบางรัก รอเพื่อนร่วมทริปอีก 5 คน มาถึงเวลา 14.00 น. ไกด์ของเราชื่อ คุณโอ๋ น้อง ๆ ที่อยู่ในทริปค่อนข้างวัยรุ่น รักถ่ายรูปตัวเอง แต่ก็น่ารักดีทุกคน

คณะของเราออกเดินทางด้วย Scooter คนละค้นจากสำนักงาน เวลา 14.00 น. สถานที่แรกที่ผ่านไปคือ วัดสวนพลู อยู่ใกล้โรงแรมแชงกรีลา โบสถ์ไม่ใหญ่มากแต่สวยมาก กุฎิเป็นแบบเรือนขนมปังขิง เห็นบอกว่ามีวิหารพระพุทธไสยาสน์ และศาลพระโพธิสัตว์กวนอิมด้วย แต่ไม่ได้เข้าไปดู 

ที่ต่อไปที่เราไปถึง คือ โรงภาษีร้อยชักสาม หรือ ศุลกสถาน เป็นอาคารโบราณอายุมากกว่าร้อยปี เคยอนุญาตให้เข้าชมภายในได้ แต่ตอนที่เราไปนี่แม้แต่ถ่ายรูปยังไม่ได้เลย จึงขอนำภาพมาจาก The Cloud (https://readthecloud.co/custom-house/)

รูปถ่ายสำคัญโด่งดังของศุลกสถาน คือภาพการตกแต่งพลับพลาท่าเรือรับเสด็จริมน้ำอย่างสวยงามดูเอิกเกริก เป็นสถานที่ที่ข้าราชการ พ่อค้า และราษฎรเฝ้ารับเสด็จ เมื่อคราวรัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินกลับจากการประพาสทวีปยุโรปเมื่อ พ.ศ. 2450

 

 

 

ปัจจุบัน กิจการร่วมค้าบริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) กำลังทำการสำรวจเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในรายงานการประเมินผลกระทบต่อสิ่วแวดล้อม (EIA) เพื่อทำเป็นโรงแรม

สถานที่ที่เราผ่านต่อไปคือมัสยิดฮารูณ มีกุโบร์ชุมชนฮารูณ

ขี่ต่อไปจนถึงอาคารไปรษณีย์กลาง มีคนมาถ่ายรูปกันเยอะมาก

โบสถ์ซางตาครูส หรือวัดกุฎีจีน เป็นโบสถ์สคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ตั้งอยู่ริมน้ำเจ้าพระยาในซอยกุฏีจีน

ลัดเลาะไปตามซอกซอย จนถึงศาลเจ้าฮ้อนหว่องกุง หรือ ศาลเจ้าโรงเกือก ไกด์บอกว่าที่นี่นิยมมาขอโชคลาภ แต่ละปีจะมีการจัดงานประจำปีเนื่องในวันประสูติของเจ้าพ่อประทานลาภ (เจ้าพ่อฉ่อยลื่นหย่า)

ด้านหน้าศาลจะมีสิงโตหินคู่ เป็นเพศเมียและผู้ ไกด์บอกว่าสังเกตได้จาก เพศเมียจะมีลูกอยู่ใต้อุ้งเท้าซ้าย เพศผู้จะมีลูกบอลอยู่ใต้เท้าขวา แต่เฉพาะที่ศาลนี้สิงโตเพศผู้จะเห็นอวัยวะเพศด้วย

โอ๋ขี่ Scooter นำหน้าพวกเรา เสมือนกับเธอเคยเป็นเด็กวิ่งเล่นแถวนี้มาก่อน และก็ต้องซนมากถึงรู้จักซอกซอยขนาดนี้ (แต่ที่จริงเธอเป็นเด็กใต้ ทุกอย่างได้มาจากประสบการณ์ล้วน ๆ) มาถึงซากบ้านหลังใหญ่ ถูกต้นโพธิ์คลุมพื้นที่ทั้งหมด กลืนกำแพงบ้านที่ก่อด้วยอิฐก้อนใหญ่ หน้าประมาณ 1 ฟุต แอบมองเข้าไป เห็นมีตัวอักษรจีนที่เสาบ้าน

 

 

ถ่ายรูปข้างกำแพงบ้านใหญ่แล้ว ก็หิวข้าว หิวน้ำ จนมาเจอบ้านที่กำลังทำซาลาเปาด้วยวิธีการแบบโบราณอยู่ ถามขอซื้อ โชคดีว่าเพิ่งเสร็จหนึ่งถาด ตามปกติจะเอาออกไปขายร้านข้างนอก .. ขอบอกว่าอร่อยมาก

ขับ scotter มาตามทางเลียบแม่น้ำ มีส่งเสียงขอทาง สลับกับเสียงว้าย ๆ เนื่องจากคันหน้าเบรกกะทันหันบ้าง เฉี่ยวกันบ้าง บรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีคนตกปลา มีคนเดินเล่น เป็นสิ่งที่ดิฉันไม่คุ้นเคยเวลาเข้ากรุงเทพ เพราะจะอยู่แต่บนรถเมล์ตลอด  บ้านริมน้ำหลังนี้เป็นของเอกชน แอบถ่ายรูปมา

 

ขับขึ้นสะพานพุทธ วิวข้างบนช่วงเวลาประมาณเกือบห้าโมงเย็นนี่ สวยดีจัง ตอนเข้าชุมชนกุฏีจีน ดิฉันซึ่งชอบขนมฝรั่งกุฏีจีนมาก คาดหวังไว้ว่าจะต้องซื้อกลับ คงต้องได้เจ้าที่อร่อยที่สุด.. แต่แล้ว ขนมหมด  ซึ่งได้รับคำแนะนำว่าต้องร้านธนูสิงห์

เข้าวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร  วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร  มีพระประธานองค์ใหญ่สีทองอร่าม  ที่จริงเราต้องไปสุดท้ายที่วัดอรุณ แต่หมดเวลาเสียก่อน จึงต้องยก Scooter ลงเรือข้ามฟากกลับมาฝั่งบางรัก ถึงสำนักงานประมาณ หกโมงเย็น

ไม่แน่ใจว่า เรียบเรียงเส้นทางผิดไปบ้างหรือเปล่านะคะ จนท้ายที่สุด

บอกลูกว่าเราต้องรีบกลับนะ เดี๋ยวไม่ทันรถกลับนครปฐม ลูกบอกว่าไหน ๆ มาบางรักแล้ว ขอลองชิม โจ้กปรินซ์ ที่ได้มิชลินหน่อยนะแม่ ไปถึงร้านคนเต็มร้านเลย แต่ก็ลองดู บอกลูกว่าถ้าไม่ทันรถก็นอนกรุงเทพกันแล้วกัน กินโจ้กเสร็จ ไม่แวะกินน้ำเลยล่ะ รีบเดินไปหาสถานีรถไฟฟ้า กลับนครปฐมได้ทัน

ทริปนี้สนุกมากเลย ใครอยากไปบ้างแวะดูได้ที่  https://goscootbangkok.com/ เจ้าของเป็นฝรั่งชื่อคุณ Ray Hass หรือ ที่เพจ Fun Trip Thailand ตอนนี้กำลังมีโปรโมชั่นอยู่