ทริปสายบุญ : เชียงใหม่ 2566 EP.2

ต่อจาก… EP.1 http://www.snc.lib.su.ac.th/kmblog/?p=9122

เช้าวันที่ 3 (14 มกราคม 2566) วันนี้ขอตื่นสาย ๆ เพราะเมื่อคืนเรากลับมาค่อนข้างดึกมาก เช่นเคยเริ่มต้นวันด้วยความเป็นสิริมงคล เช้านี้เราเดินทางไปไหว้พระที่ “วัดพระธาตุดอยคำ” วัดนี้เหมือนเป็นวัดประจำที่จะต้องมาทุกครั้ง ซึ่งวัดตั้งอยู่บริเวณดอยคำ ด้านหลังของอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ใครที่มาวัดนี้แนะนำให้จอดรถด้านล่างแล้วนั่นรถสองแถวขึ้นไปดีกว่านะคะ เพราะทางขึ้นวัดเหมือนขับรถขึ้นเขาอย่างไงอย่างงั้น แถมขึ้นไปแล้วจะมีที่จอดรถไหมนั้นก็ต้องไปลุ้นกันอีกที ขึ้นไปแล้วเราก็เริ่มทัวร์เลยค่ะ ไหว้ทุกองค์ที่เจอจนพอใจ จิตใจอิ่มเอม

 

พอลงจากวัดตั้งใจไว้ว่าจะไปชมความงามดอกไม้ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์ต่อเลย พอไปถึงพบว่าคนเยอะมาก อาจเป็นเพราะวันที่ไปเป็นวันเด็กด้วยจึงตัดสินใจไม่เข้าด้านใน ตอนที่จะเดินกลับไปขึ้นรถนั้นหันไปเห็นกาดเล็ก ๆ (ตลาด) ที่อยู่ด้านข้างที่จอดรถ เป็นกาดที่มีของดีของแต่ละโครงการฯ มาออกร้าน อาทิ โครงการหลวงดอยอินทนนท์ โครงการหลวงโหล่งขอด โครงการหลวงดอยปุย โครงการหลวงตีนตก เป็นต้น งานนี้ได้ของกินของใช้ติดไม้ติดมือกลับบ้านหลายอย่างเลยค่ะ

เมื่อดูเวลาแล้วใกล้เที่ยง เราก็เริ่มหาร้านอร่อย ๆ ทานกัน วันนี้ได้ร้านที่แนะนำจากเพื่อน ๆ ที่เป็นคนในพื้นที่ให้ลองไปทานที่ “ร้านข้าวอุ่น” เป็นอาหารเหนือพื้นเมือง ร้านอาหารเป็นร้านเล็ก ๆ บรรยากาศอบอุ่น อาหารอร่อย ที่สำคัญราคาไม่แพง ไว้จะมาเล่าให้ฟังค่ะ ดูเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/khaooon.chiangmai เมื่อทานอาหารเสร็จก็พาเด็ก ๆ ไปเที่ยวงานวันเด็กต่อที่ Central Department Store Central Festival Chiangmai ในงานมีกิจกรรมเวที การแสดงของเด็ก ๆ และ Workshop มากมาย วันนี้มื้อเย็นเราเลือกจะไปทางสตรีมฟู้ดริมทาง เราไปตลาดโต้รุ่งที่ประตูช้างเผือก ในระหว่างทางที่จะไปทานข้าวเย็นนั้นสายตาหันไปพบสถานที่ที่หนึ่งที่รู้สึกถูกใจมาก ในใจจำชื่อสถานที่นั้นไว้และคิดว่าพรุ่งนี้ก่อนกลับจะแวะมา มื้อเย็นเราทานอาหารตามสั่งที่โต้รุ่งร้านหนึ่ง รสชาติดี ราคาไม่แพง แต่เสียดายจำชื่อร้านไม่ได่ ก่อนกลับก็ไม่ลืมแวะไปทานไอติมผัดร้านเดิมที่เคยแวะมาครั้งก่อน “Icecream Rolls” ร้านนี้มีจุดเด่นตรงที่มี “ตุ๊กตาชัคกี้” ในหลากหลายคาแรคเตอร์ ถูกใจเด็ก ๆ มาก พอกลับถึงโรงแรมก็คิดว่าจะค้นหาสถานที่ ๆ ขับผ่านเมื่อตอนเย็นว่าเป็นสถานที่อะไร แต่สมองเจ้ากรรมกลับลืมชื่อ คราวนี้ลำบากคนรอบกายต้องเปิด Google Street เพื่อดูเส้นทางที่เราผ่านมาว่ามีสถานที่ใดบ้างที่ตรงกับที่เราพบเจอตอนนั้น เดือนร้อนไปถึงน้องพนักงานโรงแรมต้องระดมสมองกันยกใหญ่ สุดท้ายก็เจอจนได้ ขอบคุณน้อง ๆ มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

เช้าวันสุดท้ายก่อนกลับบ้าน ตั้งใจจะไปสถานที่สุดท้ายที่เราตั้งหน้าตั้งตาค้นกันทั้งคืน สถานที่นั้นคือ วัดแขก(วัดเทพมณเฑียร เชียงใหม่) วัดนี้หาไม่ยาก ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามหน้าสนามกีฬาเทศบาลเชียงใหม่ ตรงบริเวณทางขึ้นจะมีกฎระเบียบที่ติดไว้ให้ปฏิบัติ จากประตูทางเข้าจะนำพาเราขึ้นไปยังชั้นบนของวัดทั้งสองฝั่ง (ขึ้นฝั่งไหนก็ได้ซ้ายหรือขวา) โดยก่อนขึ้นไปจะเจอป้ายข้อปฏิบัติตัวเวลามาที่วัด

    

อย่างเช่น แต่งกายให้สุภาพ ห้ามทะเลาะ พูดจาหยาบคาย ห้ามรบกวนศรัทธาที่มานมัสการองค์เทพ ห้ามนำเนื้อสัตว์ เครื่องคาว หรือเสพสุรา บุหรี่ ในวัด ฯลฯ เนื่องจากเรามาค่อนข้างเช้า ยังไม่ค่อยมีใครมาเลยทำให้ที่นี่สงบมาก เราจึงใช้เวลาดื่มด่ำกับความสงบที่นี่เป็นเวลานานพอสมควรก่อนเดินทางกลับ ซึ่งขากลับนี้เป็นอะไรที่ทรมานและยาวนานมากกว่าตอนมา เพราะใจเราถึงบ้านแล้ว

นี่ล่ะค่ะ ที่บอกว่า “ทริปสายบุญ” คำนี้ไม่เกินจริง เพราะนอกจากร้านอาหารแล้ว ก็มีแต่ วัด วัด แล้วก็วัด ที่เราไปกัน ไม่รู้ว่าความอยาก หรือความโหยหายที่จะไปตามสถานที่ท่องเที่ยว หรือคาเฟ่ยอดฮิตต่าง ๆ มันหายไปตอนไหน หรือเพราะว่าเราแก่แล้วนะ อุ๊บส์!!!