พาแม่นั่งรถไฟล่องใต้…สงขลา

ในช่วงเดือนธันวาคม มีวันหยุดติดต่อกันหลายวันเหมาะแก่การไปเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ช่วงวันหยุดเช่นนี้วางแผนเที่ยว ปีนี้ไม่ได้วางแผนไปเที่ยวที่ไหน แต่ก็มีเหตุให้ต้องเดินทางไกลลงใต้ ไปส่งน้องซึ่งทำงานที่จังหวัดสงขลา

 

การเดินทางครั้งนี้ไปแบบกระชั้นชิด มีเวลาให้เตรียมตัวน้อยมาก ตอนแรกคิดไว้ว่าจะไปกันอย่างไรดี จะเอารถที่บ้านไปเอง หรือจะเช่ารถไป ด้วยทางบ้านมีภาระงานจำนวนมาก และช่วงนี้ภาคใต้เป็นช่วงฤดูฝน จึงตกลงกันว่าจะเดินทางโดยรถไฟ ไปกันสามคน แม่ ดิฉัน และน้อง จำได้ว่า ครั้งแรกที่นั่งรถไฟไปนครศรีธรรมราช ตอนนั้นไปด้วยกัน 3 คน คือ พ่อ แม่ และดิฉัน ลองนับเวลาดู โอ้โห ประมาณสิบปีได้ ภาพความทรงจำในครั้งนั้นได้เลื่อนลางไปบ้าง ซึ่งปีนี้เหมือนพาแม่มารำลึกอีกครั้ง

 

เมื่อรู้วันเดินทางที่แน่ชัดแล้ว จากนั้นดิฉันและน้อง ช่วยกันดูว่ามีขบวนไหนบ้างที่ไปสงขลา โดยเลือกลงที่สถานีชุมทางหาดใหญ่ ซึ่งมี 4 ขบวน ด้วยกัน คือ
ขบวนที่ 171 รถเร็ว กรุงเทพอภิวัฒน์-สุไหงโก-ลก
ขบวนที่ 31 รถด่วนพิเศษ กรุงเทพอภิวัฒน์-ชุมทางหาดใหญ่
ขบวนที่ 37 รถด่วนพิเศษ กรุงเทพอภิวัฒน์-สุไหงโก-ลก
ขบวนที่ 169 รถเร็ว กรุงเทพอภิวัฒน์-ยะลา

 

และแล้วก็ลงความเห็นกันว่า จะไปขบวน 31 รถด่วนพิเศษ กรุงเทพอภิวัฒน์-ชุมทางหาดใหญ่ ด้วยเหตุผล 1) ขบวนนี้สวย นั่งสบาย (ชอบตรงนี้แหละ เหตุผลหลักคืออยากให้แม่นั่งแบบสบาย ๆ) 2) ขบวนนี้นั่งยาวไปสุดสายปลายทางที่หาดใหญ่ จึงไม่ต้องรีบร้อนตอนลงสถานี และ 3) เวลาที่ขึ้นรถไฟและเวลาถึงหาดใหญ่กำลังพอดี คือ ขึ้นจากสถานีนครปฐม เวลา 15.53 น. ถึงหาดใหญ่ เวลา 7.25 น. ดิฉันจึงทำหน้าที่จองตั๋วรถไฟ เพราะอยู่ใกล้สถานีรถไฟมากที่สุด วันที่ไปจอง ตั้งใจว่าจะไปจองชั้น 1 ตู้ Lady ปรากฏว่า มีที่ว่างหัวขบวนกับท้ายขบวน ของตู้ Lady จึงเปลี่ยนมาจองชั้น 2 ตู้ Lady แทน ผลคือ เตียงล่างเต็มเหลือแต่เตียงบน กลัวว่าแม่จะปีนขึ้นไม่ไหว สุดท้ายจึงมาลงตัวที่ ชั้น 2 แบบรวม ซึ่งตู้นี้นั่งได้ทั้งชายและหญิง ที่สำคัญได้ที่นั่งติดกันสามคน

 

วันออกเดินทาง เรานัดเจอกันที่สถานีนครปฐม เมื่อขึ้นบนรถไฟหาที่นั่งเสร็จสรรพเรียบร้อย อากาศเย็นสบายมาก (มีดิฉันคนเดียวที่ต้องหยิบเสื้อตัวหนามาใส่ ส่วนแม่กับน้องบอกว่าเย็นกำลังดี) นอกจากแอร์เย็นฉ่ำ ห้องน้ำดีแล้ว ในตู้ขบวนยังมีจอที่แสดงให้เห็นว่าตอนนี้ถึงสถานีไหนแล้วและจะถึงสถานีต่อไปเวลาใดแจ้งให้ทราบด้วย ในแต่ละเตียงจะมีปลั๊กไฟ สำหรับใครที่ต้องการชาร์ตแบตโทรศัพท์ หรือ ชาร์ตไฟอื่นๆ ส่วนใครที่ต้องการอ่านหนังสือก็มีไฟส่องสว่างให้ด้วย จะมีเจ้าหน้าที่ประจำตู้สอบถามตลอดว่าต้องการกางเตียงไหม เปลี่ยนจากที่นั่งเป็นเตียงนอน ทั้งสามคนขอชมวิวก่อนจึงยังไม่กางเตียง เมื่อวิวข้างนอกเริ่มมืดค่ำผู้คนต่างเริ่มแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มากางเตียง ซึ่งทำงานได้รวดเร็วมาก จากนั้นก็แยกย้ายกันนอน แม่และดิฉันนอนเตียงล่าง ส่วนน้องเลือกนอนเตียงบน เช้าวันรุ่งขึ้นบางคนก็ขอให้เจ้าหน้าที่เก็บเตียงกลับสู่ที่นั่ง บางคนก็ยังขอนอนต่อ จนใกล้จะถึงชุมทางหาดใหญ่ เจ้าหน้าที่จะแจ้งเก็บเตียง คนที่นอนหรือนั่งเล่นบนเตียงต่างก็ลุกจากเตียงเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เปลี่ยนจากเตียงนอนกลับมาเป็นที่นั่ง เมื่อถึงสถานีชุมทางหาดใหญ่ ซึ่งถือได้ว่าทำเวลาได้ดีมาก ใกล้เคียงกับที่แจ้งไว้ในตั๋ว เราสามคนจึงมารอคนรู้จักที่จะมารับไปตัวเมืองสงขลา ซึ่งลงมารอไม่ถึง 10 นาทีก็มีเจ้าหน้าที่รถไฟออกมาจากขบวนเช่นกันแวะทักทายกันก่อนที่เจ้าหน้าที่จะแยกย้ายไปพักผ่อน ในช่วงระหว่างรอก็จองตั๋วเดินทางกลับด้วยเลย จะได้ไม่ต้องเข้ามาจองอีก (สำหรับคนที่มีบัตรเครดิต จะจองออนไลน์ก็ได้ค่ะ) หลังจากจองตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมานั่ง ถามแม่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง แม่บอกว่า สบาย นอนหลับสบาย ที่นั่งนุ่มสบายดีไม่ปวดหลัง นับว่าภารกิจครั้งนี้ประประสบความสำเร็จค่ะ

 

หลังจากที่รถมารับแล้ว พี่ที่มารับใจดีพาเราขับรถเที่ยวเมืองสงขลา แวะให้ลงสักการะศาลหลักเมือง เราสามคนต่างไม่รอช้ารีบเข้าไปสักการะขอพรท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายในยามเช้าตรู่ จากนั้นก็ขึ้นรถชมย่านเมืองเก่าสงขลา Street Art Songkhla เขาตังกวน หาดสมิหลา ได้แต่ชื่นชมความงามผ่านกระจกรถเพราะฝนตกหนักไม่สามารถลงไปถ่ายรูปได้ (มาในช่วงหน้าฝนของทางใต้ ฝนตกชุก ยิ่งปีนี้ฝนตกมากกว่าปีที่ผ่านมา) ขับผ่านเขาตังกวน ซึ่งอยู่ใกล้กับที่พักของน้อง วันที่สองพอจะมีช่วงฝนซาลงบ้าง เราจึงไปสำรวจสถานที่กันในตอนเย็น เช่น หอนาฬิกา ถนนคนเดินซึ่งจะมีวันศุกร์กับวันเสาร์

 

วันเดินทางกลับนครปฐม เรากลับกันสองคนคือ แม่กับดิฉัน ระหว่างที่รอขบวนรถไฟจะมา จึงไปเดินตลาดกิมหยงกัน และแวะซื้อไก่ทอดหาดใหญ่มากินระหว่างทางด้วย รถไฟมาจอดที่สถานีตั้งแต่ เวลา 16.00 น. ผู้โดยสารต่างทยอยขึ้นรถไฟ เมื่อถึงเวลา 17.45 น. รถไฟเคลื่อนขบวน ขากลับเราได้นั่งชมวิวแค่นิดหน่อยเพราะอากาศข้างนอกมืดเร็ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กางเตียง ครั้งนี้แม่นอนเตียงล่างเช่นเคย ส่วนดิฉันนอนเตียงบนปีนขึ้นสนุกดี ขากลับใช้เวลานานกว่ามาถึงล่าช้ากว่าเวลาในกำหนดการแต่ก็คุ้มค่าเพราะได้ชมวิวตลอดเส้นทาง (ตอนขาไปมืดค่ำก่อน จึงมาชมตอนขากลับแทน)

จบทริปนี้มีเรื่องให้แม่ไปคุยกับญาติ ๆได้

เปลี่ยนจากที่นั่งเป็นเตียง

ลิงที่เขาตังกวน

ถนนคนเดิน