อินกับเพลงจนได้เรื่อง!

ส่วนตัวเป็นคนชอบฟังเพลงมาก แต่อย่าถามนะนักร้องชื่ออะไร เพลงนี้ใครร้อง เพลงอะไร ตอบไม่ได้ 55555 แต่ร้องได้เกือบทุกเพลง เพลงไหนที่ชอบมาก ก็จะฟังซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่มีเบื่อ อารมณ์จะไปกับเพลง แต่ตอนทำงานไปกับเพลงไม่ได้เดี๋ยวไม่ได้งาน 55555 เคยคุยกับแฟนว่า  ถ้าไม่มีเสียงเพลงเราจะคิดงานไม่ออก แต่แฟนกลับตรงกันข้ามถ้าเขามีเสียงเพลงเขาจะคิดงานไม่ออก แต่ละคนก็มีความคิดที่แตกต่างกัน เอาเป็นว่าถ้าได้ยินแฟนเปิดเพลงเมื่อไหร่ รู้เลยเขาอยากให้เราฟังเพลงนั้นด้วย .. อุ้ย ทำไมเขิน 5555 จำได้ตอนท้องลูกสาวคนโต แฟนเปิดเพลง “รักหลับ” ของ โน๊ต อุดม ให้ฟังประจำ “นอน นอนเถอะนอน  นอน นอนเถอะนอน อยากให้เธอง่วงนอน เป็นเพลงสบายๆ เหมือนกล่อมเด็ก นึกแล้วก็ขำดี

 

กลับมากับเพลงที่อินในช่วงนี้ คือ “หนังสือเล่มเก่า” ของ คิงส์ ชนาวิทย์ ซึ่งเขาเปิดตัว single ตั้งแต่ ปี 61 เพิ่งรู้จักปลายปี 63 (ไปอยู่ไหนมาไม่รู้ 5555) ตอนทำงานเปิดฟังบ่อยมาก วันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง ล่าสุดหูฟังเสียหลายวันแล้ว คิดถึงเสียงเพลงต้องยอมจ่ายเงิน เพื่อฟังเพลงนี้ตอนทำงาน บวกกับก่อนหน้านี้ คิดงานเพื่อเขียน content คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก พอคิดออกมันก็ไม่ได้มาจากความรู้สึก มันมาจากความคิดเพียงต้องการมีงานเขียนเท่านั้น เลยไม่โอเค ไม่อินกับสิ่งที่เขียนนั้นจึงทิ้งไป เราเป็นคนฟังเพลงที่ชอบคิดตามเนื้อเพลงว่ามีความหมายอย่างไร อย่างท่อนฮุกเพลงหนังสือเล่มเก่า…

แค่หลับตา
ฉันก็ยังคงเห็นเพียงแต่เธอ
ยังคงพร่ำเพ้อยังละเมอ
ว่าเธอไม่เคยทิ้งกันไป

เธอเป็นหนังสือที่ฉันนั้นยังอ่าน
ซ้ำอยู่อย่างนั้นไม่ไปไหน
ยังอ่านมันทุกข้อความ
เว้นตอนจบของมัน

 

เราก็คิด อืม… ใช่นะ เราก็มีหนังสือที่เรายังหยิบมาอ่านซ้ำบ่อย ๆ ไม่เบื่อ หนังสือเล่มเก่า ของเราก็คือ “ใครเอาเนยแข็งของฉันไป”

“ใครเอาเนยแข็งของฉันไป” เป็นเรื่องที่อ่านง่าย เพลิดเพลิน อ่านไม่นานก็จบเล่ม เป็นเรื่องที่ให้แง่คิดดีโดยที่อ่านคิดตามแบบไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย ในเล่มจะเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเขาวงกต มีตัวละคร 4 ตัว ที่กำลังค้นหาเนยแข็ง ซึ่งเปรียบได้กับสิ่งที่เราทุกคนต้องการในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เงินทอง ความสัมพันธ์ ความรัก อิสรภาพ สุขภาพ เป็นต้น เขาวงกต คือ สถานที่ที่ใช้เวลาค้นหาสิ่งที่เราต้องการ เนยแข็ง คือ สิ่งที่เราต้องการในชีวิต ตัวละคร 4 ตัว คือ หนู มีชื่อว่า สนิฟ และ สเคอร์รี่ : มนุษย์จิ๋ว มีชื่อว่า เฮ็ม และ ฮอว์ ทุก ๆ วัน หนู และมนุษย์จิ๋ว จะใช้เวลาอยู่ในเขาวงกตเพื่อหาเนยแข็งที่เขาชื่นชอบ สนิฟ และ สเคอร์รี่ มีมันสมองธรรมดาแบบสัตว์ แต่มีสัญชาตญาณที่ดี ส่วนมนุษย์จิ๋ว เฮ็ม และ ฮอว์ มีสมองที่เต็มไปด้วยความคิด ความเชื่อที่หลากหลาย ซึ่งพวกเขามีความเชื่อว่า เนยแข็งที่ขึ้นต้นด้วย น. จะบันดาลความสุขและความสำเร็จได้ ทั้ง 4 ตัว จะแต่งตัว ใส่รองเท้าวิ่ง ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน เพื่อมุ่งหน้าไปที่เขาวงกตเพื่อหาเนยแข็ง ในเขาวงกตมีเส้นทางที่คดเคี้ยว มีทางเดินและห้องมากมาย มีทั้งมุมมืดและทางตันหลายแห่ง – สนิฟ และ สเคอร์รี่ ค้นหาเนยแข็งแบบง่าย ๆ ด้วยการลองผิดลองถูก วิ่งไปตามเส้นทางเรื่อย ๆ เมื่อไม่พบก็จะหันหลังกลับแล้ววิ่งไปอีกเส้นทางหนึ่ง – เฮ็ม และ ฮอว์ ใช้ความสามารถในการคิด เรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีต

วันหนึ่งทั้งหนูและมนุษย์จิ๋ว ค้นพบสิ่งที่ค้นหาด้วยวิธีการของตนเอง พวกเขาพบเนยแข็งที่เหมาะสมกับตนเองที่ปลายทางสถานีเนยแข็ง น. ทุกๆ เช้าหนูและมนุษย์จิ๋วจะแต่งตัวด้วยชุดวิ่งมุ่งหน้าไปสถานีเนยแข็ง น. การปฏิบัติเช่นนี้กลายเป็นกิจวัตรประจำวัน สนิฟและสเคอร์รี่ยังคงตื่นเช้าทุกวัน และเข้าไปในเขาวงกตเส้นทางเดิม แต่เฮ็มและฮอว์เริ่มตื่นสายและแต่งตัวช้าขึ้น พวกเขาไม่รู้เลยว่าเนยแข็งมาจากไหน ใครเอามา พวกเขาเพียงแต่ทึกทักว่ามันต้องอยู่ที่นั่นประจำ มนุษย์จิ๋วมีความสุขมาก เขาคิดว่าที่นี่มีเนยแข็งให้เขากินตลอด และอีกไม่นานมนุษย์จิ๋วก็ย้ายบ้านเข้ามาใกล้ๆ ที่มีเนยแข็ง พฤติกรรมของมนุษย์จิ๋ว คือ กินและกลับบ้านและก็มาที่นี่ใหม่ เพราะเขามั่นใจว่าที่นี่มีเนยแข็งให้กินตลอดแน่นอน ขณะที่หนูทั้งสอง ยังคงตื่นเช้าทุกวันและวิ่งดมรอบๆ สถานีเพื่อตรวจสอบความเปลี่ยนแปลง และเช้าวันหนึ่งพวกมันพบว่าไม่มีเนยแข็งแล้ว พวกมันไม่แปลกใจ เพราะไก้สังเกตประจำว่าเสบียงเนยแข็งเริ่มลดลง เจ้าหนูทั้งสองเริ่มหาเนยแข็งที่อื่นโดยเร็ว ส่วนมนุษย์จิ๋วไม่เคยสนใจถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น วันหนึ่งที่เขามาไม่พบเนยแข็ง เขารู้สึกผิดหวัง มีอาการซึมเศร้า วิตก เพราะเขาคิดว่าสิ่งนี้ไม่น่าเกิดขึ้นกับพวกเขา และทุกๆ เช้ามนุษย์จิ๋วยังมาที่สถานีเนยแข็ง น. อีก เพื่อหวังว่าจะมาพบเนยแข็ง แต่…ไม่มีเนยแข็งอีกแล้ว เฮ็มคิดในเรื่องนี้อย่างเดียวว่าสิ่งนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เรามีสิทธิ์ในเนยแข็งแต่คนอื่นเป็นต้นเหตุ หนูทั้งสองไม่คิดอะไรเลยนอกจากออกไปหาเนยแข็งใหม่ จนได้ไปพบเนยแข็งในสถานีเนยแข็ง ม. ทั้งสองดีใจมาก ส่วนมนุษย์จิ๋วก็ยังทำตัวเช่นเคย คือ ไปที่สถานีเนยแข็ง น. เมื่อไม่พบเนยแข็งก็กลับบ้าน พร้อมกับความวิตกและความหงุดหงิด พวกเขาเครียดจนนอนไม่หลับ อ่อนเพลีย หงุดหงิดและฉุนเฉียว

ฮอว์เริ่มออกเดินทางหาเนยแข็งอีกครั้ง เขาได้พบเนยแข็งนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้เยอะมากมายเหมือนเคย เมื่อใดที่เขาเริ่มรู้สึกท้อถอย หมดกำลังใจ เขาจะเตือนตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ แม้ว่าไม่สะดวกสบายนัก แต่ก็ดีกว่านั่งนิ่งอยู่ที่สถานีที่ไม่มีเนยแข็ง เขาคิดว่า เขาขอเป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์มากกว่ารอให้มันมาหาและเขาเตือนตนเองว่า สนิฟและสเคอร์รี่ทำได้เขาก็ต้องทำได้เช่นกัน ฮอว์จึงออกเดินทางไปเรื่อยๆ จนไปถึงสถานีเนยแข็ง ม. และได้พบเนยแข็ง ฮอว์ไม่ยอมปล่อยตัวเองให้สบายเกินไปเหมือนที่ผ่านๆ มา ดังนั้นเขาจึงออกตรวจตราสถานีเนยแข็ง ม. ทุกวันเพื่อดูสภาพว่าเป็นอย่างไรบ้าง เขาพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงความประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้คาดคิด แม้ฮอวร์จะมีเสบียงเหลือเฟือแต่เขามักจะออกไปสำรวจสถานีแห่งใหม่ในเขาวงกต เพื่อรับรู้ความเป็นไปของสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ อยู่เสมอ ส่วนเฮ็มกลับนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมโดยที่เขาไม่คิดจะทำอะไรเหลือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

ทุกครั้งที่ฮอว์ออกเดินทางจะเขียนบนฝาผนังไว้เสมอ ว่า…

  1. ถ้าคุณไม่ยอมเปลี่ยนแปลงคุณอาจสูญพันธุ์ได้
  2. คุณจะทำอะไรถ้าคุณไม่กลัว
  3. ดมกลิ่นเนยแข็งบ่อยๆ นะ จะได้รู้ว่ามันเก่าหรือยัง
  4. การเปลี่ยนทิศทางใหม่ช่วยให้คุณพบเนยแข็งใหม่
  5. หายกลัวเมื่อใดก็จะเป็นอิสระเมื่อนั้น
  6. การจินตนาการว่าได้เพลิดเพลินกับเนยแข็งใหม่ แม้จะยังหาไม่พบแต่ก็นำฉันไปให้พบได้
  7. ทิ้งเนยแข็งเก่าเร็วเท่าใดก็จะได้พบเนยแข็งใหม่เร็วขึ้นเท่านั้น
  8. การไปเสาะหาในเขาวงกตูยังปลอดภัยกว่าทนรออยู่โดยไม่มีเนยแข็ง
  9. ความเชื่อเก่าจะไม่นำไปพบเนยแข็งชิ้นใหม่
  10. เมื่อคุณเห็นว่า คุณจะพบและมีความสุขกับเนยแข็งใหม่ได้คุณก็จะเปลี่ยนเส้นทางใหม่
  11. ถ้าสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เสียแต่เนิ่นๆ ก็จะช่วยให้คุณปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นได้

 

ในการเขียน content นี้ มีผู้ร่วมกระบวนการอย่างพี่หนึ่งสุนทร หนุ่มเจ้าคารมประจำหอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ที่ช่วยคิดงานให้ออกมาเป็นงานค่ะ 🤪😆 ระหว่างที่เราสองคนช่วยกันเกลาภาษา ช่วยกันคิดช่วยกันเม้นท์ว่าคำนั้นดีไหม คำนี้ดีหรือเปล่า จะได้ยินเสียงน้องจาถามเบาๆ ว่า “นี่พี่คุยงานกันใช่ไหม” 5555555