Cat Expo

“วันนี้แถวนี้รถติดมากเลย ไปไหนกันหรอหนู”  ลุงแท็กซี่ถาม

“Cat Expo ค่ะ” ฉันตอบ

“โห คนมาดูแมวเยอะขนาดนี้เลยหรอ” ลุงแท็กซี่คนเดิมถาม

แต่ฉันขำลั่น เอาจริงๆก็เข้าใจว่าคนทั่วไปที่ได้ยินชื่อว่า Cat Expo ทุกคนก็จะถามกลับมาว่าไปดูโชว์แมวหรอ เพราะชื่อก็ดันชวนให้คิดแบบนั้นเป็นอันดับแรกทุกที แม้กระทั่งฉันเองได้ยินชื่องานนี้มาก็ยังคิดแบบเดียวกันกับลุง และนี่เป็นครั้งแรกกับการที่มางาน Cat Expo ครั้งนี้ งานถูกจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 ในปี พ.ศ.2561 เอาเข้าจริงๆ ฉันก็ไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับงานนี้มากเท่าไหร่ แต่รู้แค่ว่างานนี้มีผู้จัดคนเดียวกันกับงาน Fat Festival จัดขึ้นโดย Fat Radio ในสมัยก่อน ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2544 และจัดต่อเนื่องกันมายาวนานจนถึงปี พ.ศ.2555 ก่อนที่ Fat Radio จะปิดตัวลง และเปลี่ยนรายการวิทยุออนไลน์ที่ชื่อ Cat Radio จากนั้นก็เกิด “CAT RADIO โตโต แมวแมว เสนอ CAT EXPO ตลาดเพลงไทยใหญ่ที่สุดใน AEC” ขึ้นในปี พ.ศ.2557 ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิด Cat Expo แรก

 

หลังจากที่อารัมภบทมายาวนานประมาณหนึ่งย่อหน้า ทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ก็คงจะเข้าใจแล้วว่างาน Cat Expo มิใช่งานโชว์แมวหรือเกี่ยวกับแมวแต่อย่างใด แต่ Cat Expo คืองานเทศกาลดนตรี ที่มีทั้งศิลปินอินดี้ และเป็นที่นิยม รวมความหลากหลายไว้แล้วที่งานนี้ ที่ต้องบอกว่าหลากหลายเพราะภายในงานจะมีศิลปินนับร้อยชีวิต ที่จะมาขึ้นแสดงกันแบบจุใจ 2 คืนเลยทีเดียว และแน่นอนเวทีเดียวคงจะไม่พอสำหรับศิลปินนับร้อยอยู่แล้ว เพราะงานนี้มีเวทีทั้งหมด 6 เวทีด้วยกัน ทุกคนสามารถเลือกที่จะรับชม รับฟังได้ ใครรักใครชอบศิลปินคนไหนก็ไปเวทีนั้นได้เลย งานนี้มันสนุกก็ตรงนี้แหละ และความสนุกก็ไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะว่า นอกจากดนตรีแล้ว ภายในงานยังมีบูธขายสินค้า หรือของที่ระลึก แต่ที่ไม่ธรรมดาก็คือศิลปินจะเป็นคนมาขายสินค้าเอง และเดินปะปนกับผู้คนภายในงานอย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่าเป็นงานที่อบอุ่นมากๆเลยทีเดียว (เพราะคนเยอะมากกกกกก ก.ไก่ ล้านตัว แอบร้อน ใครไปอย่าลืมของสำคัญนั่นคือ พัดลมพกพา หรือพัด เด็ดขาด เตือนแล้วนะ!! หยอกนะคะ แต่พกไปก็ดี อิอิ) แต่ศิลปินอบอุ่นเป็นกันเองจริงๆจนต้องไปซ้ำอีกครั้งใน Cat Expo 6 เลยเอาบรรยากาศมาอวดกันค่ะ

งาน Cat Expo ก็ยังจัดกันมาต่อเนื่องจนถึงปีนี้ก็เป็นครั้งที่ 7 แล้ว และผู้คนก็ให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ถือว่าเป็น Music Festival อีกงานที่ประสบความสำเร็จอย่างมากเลยทีเดียว

                      ติดตามอ่านความเป็นมาตั้งแต่งาน Fat Fastival ได้ที่ The Cloud

จริณ.