ได้เรียนหลักสูตรออนไลน์ของ ก.พ. เรื่อง การวิเคราะห์ความจำเป็นในการฝึกอบรม ได้ความรู้เรื่องวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีต่าง ๆ ว่า แต่ละวิธีมีข้อดีและข้อด้อยอย่างไร ซึ่งในหลักสูตรอ้างอิงมาจากหนังสือของ ศ.ดร. ดีลาฮาเย เรื่อง Human resource development: Adult learning and knowledge management มีรายละเอียด ดังนี้
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล (Data Collecting Methods) |
ข้อดี ( Advantages) |
ข้อด้อย (Disadvantages) |
การสัมภาษณ์ (Interview) | -ได้รับข้อมูลโดยตรงจากตัวบุคคล
-ทำให้ทราบข้อมูลที่มีความซับซ้อน -ในระหว่างการสัมภาษณ์ สามารถกระตุ้นกระบวนการที่ทำให้เกิดความรู้ใหม่ ๆ ในขณะที่มีการสนทนาได้ -ทำให้ทราบข้อมูลเชิงลึกของกันและกัน ทั้งผู้สัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์ระหว่างการสนทนา -การสัมภาษณ์สอดคล้องกับหลักการโดยทั่วไปที่ว่าคนเรามักจะแสดงความเห็นและเปลี่ยนทัศนะกันในประเด็นที่ยังไม่มีข้อยุติผ่านการสนทนา -การสัมภาษณ์มีข้อดีในเรื่องที่มักจะมีความยืดหยุ่นในประเด็นที่สนทนันไปตามสถานการณ์ -การสัมภาษณ์ช่วยทำให้ทราบถึงความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ และประเด็นปัญหาจากการสนทนา |
-ใช้เวลานาน
-ผู้ให้สัมภาษณ์บางคนอาจรู้สึกว่าเป็นการละลาบละล้วงความเป็นส่วนตัว -ต้องอาศัยทักษะของผู้สัมภาษณ์อย่างมาก -การแประความหมายมีความเป็นอัตวิสัย(Subjective)คือขึ้นอยู่กับการตีความของแต่ละบุคคล |
2.การประชุมกลุ่มย่อย
(Focus Group) |
-เป็นรูปแบบการใช้เวลาที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการสัมภาษณ์ เนื่องจากทำเป็นกลุ่มครั้งละหลายคน
-ผู้เข้าร่วมการสนเทนากลุ่มจะสามารถแสดงความคิดเห็นสลับกันไปมาในวงสนทนากลุ่มในประเด็นที่ใช้ประชุมกลุ่มได้ -เป็นวิธีที่ช่วยทำให้เกิดความรู้ใหม่ ๆ โดยผ่านการความเห็นและแลกเปลี่ยนกันในวงสนทนากลุ่ม -เป็นเวทีที่ทำให้มีการสังเคราะห์ และตกผลึกความรู้ร่วมกันในวงสนทนากลุ่ม -เป็นวิธีการสำรวจวินิจฉัยความจำเป็นที่มีความยืดหยุ่นในประเด็นที่มีความหลากหลายได้ |
-การจัดบรรยากาศและลำดับในการสนทนามีความยากลำบากในระดับหนึ่ง เฃ่น บทบาทของผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้ให้ข้อมูล ผู้อำนวยความสะดวก รวมทั้งการจัดอุปกรณ์ประกอบ ห้องประชุม โต๊ะประชุมก็ต้องจัดให้เหมาะสม
-ผู้ให้ข้อมูลหรือผู้ทรงคุณวฒิในวงสนทนากลุ่ม อาจมีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ที่มีอิทธิพลเหนือผู้อื่นในวงสนทนา ทำให้ไม่สามารถได้ข้อมูลจากทุกคนได้ครบถ้วน -ในวงสนทนากลุ่มบางคนอาจจะไม่สะดวกใจที่จะแสดงความเห็นในประเด็นที่ยังเป็นข้อถกเถียงกันในสังคม เนื่องจากเป็นเวทีใหญ่ ซึ่งอาจจะแตกต่างจากการสัมภาษณ์เชิงลึกที่สนทนากันตัวต่อตัว -ในวงประชุมกลุ่ม การตีความของแต่ละบุคคลยังมีลักษณะความเป็นอัตวิสัยหรือเป็นความเห็นส่วนตัวคล้ายกับการสัมภาษณ์ |
3.การสำรวจด้วยแบบสอบถาม (Survey Questionnaires) | -การใช้แบบสอบถามสามารถใช้ได้ดีกับผู้ให้ข้อมูลที่มีจำนวนมากในประเด็นเดียวกัน ซึ่งทำการสำรวจ
-การวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามมีความเป็นปรนัย เช่น ค่าสถิติที่แสดงค่าไว้ชัดเจน -ประเด็นที่ทำการสำรวจสามารถกำหนดให้เฉพาะเจาะจงได้ -ข้อมูลที่ได้จากแบบสำรวจสามารถนำมาสรุปวิเคราะห์โดยอาศัยวิธีการทางสถิติซึ่งทำการวิเคราะห์ได้โดยง่ายและสามารถนำมาเสนอในรูปรายงานที่เข้าใจได้ง่าย -ผู้ที่ต้องทำการตัดสินใจ บางคนชอบใช้ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจซึ่งมีการแสดงค่าเป็นตัวเลขที่ชัดเจน -ค่าใช้จ่ายในการทำสำรวจมักจะไม่ค่อยสูงเมื่อเทียบกับวิธีอื่น |
-การสำรวจด้วยแบบสอบถามไม่เปิดช่องทางให้มีความยืดหยุ่นในการให้ข้อมูล เพราะต้องตอบไปตามแบบสำรวจเท่านั้น
-มีความเป็นไปได้ที่แบบสำรวจอาจจะมีอคติ สอดแทรกอยู่ตามความรู้สึกนึกคิดของผู้ออกแบบสำรวจ -เป็นวิธีที่การมีส่วนร่วมของบุคลากรเกิดขึ้นได้น้อย -ในรายงานการสำรวจต้องอาศัยแบบสอบถามที่ตอบกลับคืนมาจำนวนมากเพียงพอที่จะใช้มาทำนายความต้องการของส่วนใหญ่ได้ -รายงานผลการวิเคราะห์ต้องมาจากผู้เกี่ยวข้องที่มีทักษะความชำนาญ เช่น การบันทึกข้อมูล การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ประมวลผล -การใข้ข้อมูลเชิงปริมาณยังมีข้อจำกัดในด้านความสามารถและข้อจำกัดของการใช้ข้อมูลในการอธิบายถึงต้นตอหรือสาเหตุของปัญหาและทางออก |
4. การพิจารณาจากข้อมูลรายงานต่าง ๆ ขององค์การ | -การพิจารณาจากรายงานขององค์การทำให้มองเห็นภาพรวมได้ดี
-ข้อมูลในรายงานมักจะระบุถึงความเป็นมาของประเด็ฯที่กำลังสำรวจ -การอ่านจากรายงานสามารถทราบถึงปัญหาที่แท้จริงได้ จากสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วและที่สามารถวัดประเมินได้ -รายงานอาจจะทำให้พอทราบถึงจุดที่เป็นปํยหาหรือประเด็นความยุ่งยาก -ข้อมูลต่าง ๆ ในรายงานสามารถรวบรวมจากฝ่ายต่าง ๆ ที่รับผิดชอบได้โดยไม่ยาก |
-ข้อมูลในรายงานมักจะไม่ชี้ชัดลงไปถึงสาเหตุและผล
-ตัวรายงานมักจะให้เพียงแต่ข้อมูลในอดีตที่ผ่านมา -ข้อมูลในรายงานมักจะไม่สะท้อนถึงความซับซ้อน ลงลึกไปในแต่ละประเด็น |
5.การสังเกต (Observation) | -เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูลทางตรงโดยผู้สังเกตกระทำเองแต่เพียงผู้เดียว ผู้อื่นจะเข้ามาร่วมตีความหมายชี้นำไม่ได้
-ข้อมูลที่สังเกตได้จะต้องมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับประเด็นที่กำลังทำการสำรวจอย่างแท้จริง -เป็นวิธีการที่เหมาะสำหรับใช้ในการสอบทานร่วมกับวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลวิธีอื่น ๆ |
-การปรากฎตัวของผู้ที่เข้าไปทำการสังเกตอาจจะทำให้ผู้ที่กำลังถูกสังเกตหรือถูกเฝ้ามองจะเกิดการวางตัวที่ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ อาจทำให้ได้รับข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง
-เป็นวิธีที่ต้องใช้ทักษะของผู้สังเกตในระดับสูงทั้งในกระบวนการสังเกตและการเตรียมพร้อมด้านความรู้ในเชิงเนื้อหาต่อประเด็นที่ทำการสังเกต -มีความเป็นไปได้ว่า การจะได้ข้อมูลมาหรือไม่อาจขึ่นอยู่กับความโชคดี เพราะบางครั้งสิ่งที่เฝ้าสังเกตอยู่อาจจะปรากฎให้เห็นหรือไม่ก็ได้ |
6.การใช้วิธีประเมินที่หลากหลาย หรือศูนย์กลางการประเมิน (Assessment Centers) | -วิธีนี้เหมาะสำหรับการสำรวจวิเคราะห์หาความจำเป็นในการฝึกอบรมและการเรียนรู้ของตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง
-เป็นวิธีที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลที่มีความซับซ้อนมาก |
-เสียค่าใช้จ่ายสูง
-การประเมินด้วยวิธีที่หลากหลายจะส่งผลในเชิงจิตวิทยาต่อผู้ถูกประเมินด้วย ถ้าจะต้องเผชิญหน้ากับการได้รับทราบผลการประเมินที่เกี่ยวกับจุดอ่อนที่ตนเองมี และรับไม่ได้ |
7.การพิจารณาจากเหตุการณ์สำคัญ หรือเหตุการณ์วิกฤติที่เกิดขึ้นในองค์การ
(Critical Incident Technique) |
-เหมาะกับการรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์และมีจำนวนมาก ซึ่งมีความเหมาะสมและเกี่ยวข้องกับประเด็นที่กำลังสำรวจ
-โดยทั่วไป ปัจเจกบุคคลมักจะสร้างความเชื่อมโยงเหตุการณ์สำคัญ ๆ กับข้อมูลที่มีความเกี่ยวเนื่องกันโดยธรรมชาติ |
-ไม่สามารถทำให้มั่นใจได้ว่าเหตุการณ์วิกฤติเหล่านั้นจะมีความเชื่อถือได้
-การนำเอาข้อมูลมาใช้ จะต้องมั่นใจว่าข้อมูลเหล่านั้นเป็นตัวแทนที่สามารถใช้อธิบายเหตุการณ์สำคัญนั้นได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด |
Delahaye, B. (2005). Human resource development: Adult learning and knowledge management. John Wiley & Sons Australia.