แรงบันดาลใจในการเขียน

ดิฉันเชื่อว่าการกระทำทุกอย่างต้องอาศัยแรงบันดาลใจ เวลาใครถามว่าจะไปหาที่ไหน มักตอบว่าหาจากสิ่งรอบตัว ซึ่งบางทีเป็นเรื่องปรกติ คุ้นเคย จนไม่คิดว่าคำตอบของคำถามพื้น ๆ เช่น กินอะไรดี ใส่อะไรสวย ได้มาอย่างไร ฯลฯ ล้วนมีแรงบันดาลใจซ่อนอยู่ แล้วเราก็ใช้ชีวิตอย่างผ่อนคลายกับเรื่องเหล่านี้

พอนำคำว่า แรงบันดาลใจไปสวมกับงานในหน้าที่ บางคนถึงกลับเขม็งตึงหยุดตัวเองในทันที เช่น เราสนุกกับการอ่าน FB สนุกกับการดูใน IG หรือเพลินกับการอ่านทวิตเตอร์  พร้อมไถหน้าจอไปมาได้เป็นเวลานานๆ แต่หากเป็นงานแล้วเหมือนนับตั้งแต่เลข 0 แล้วคืบช้าๆ จนกว่าจะได้ 1 2 3 หรือ 4 …

เพื่อนๆ เคยเล่าว่าบางคนถึงกับสลัดตัวเองจากสิ่งเหล่านี้ ปิดตัวเองจากการรับรู้ ซึ่งนับว่าเสียดายโอกาสในการเรียนรู้ ซึ่งเจ้าตัวอาจไม่สน ไม่แคร์ … ดิฉันคิดว่าความจริงที่เป็นเป็นแบบนั้น แต่ความเป็นจริงซึ่งอยู่เบื้องหลังอาจตรงข้าม การทำความเข้าใจชีวิตคนน่าค้นหาเสมอ เพื่อนผู้เรียนปรัชญามักเทศน์ให้ฟังอยู่เสมอ

ปรัชญาเป็นเรื่องน่าทึ่ง เท่าๆกับมานุษยวิทยา เสียดายที่ไม่ขยันเรียนจึงพลาดวิชาที่อธิบายความเป็นมนุษย์ได้เป็นอย่างดี วิชาหลังดิฉันถูกอกถูกใจกับงานวิจัยของนักศึกษาคณะโบราณคดี ในฐานข้อมูล SURE เพราะทำให้เราเข้าใจอะไรๆ รอบตัวมากขึ้น โดยเฉพาะเข้าใจมนุษย์กับโลกใบนี้ ลองหาอ่านดู ขอใช้คำแบบเขียนใน content ว่า ชวนค่ะ 😂

กลับมาในเรื่องใกล้ตัวเช่นในแต่ละรอบของการประเมินจะมีคำถามว่า เขียน blog แล้วยัง เขียนเรื่องอะไร และอาจได้คำตอบว่ายังไม่ได้เขียน เพราะไม่รู้จะเขียนเรื่องอะไร

ดิฉันเรียกอาการแบบนี้ว่า start ไม่ได้ เริ่มไม่ถูก หลายคนทดแทนด้วยการเป็นผู้ตรวจทาน สิ่งที่ได้คือสำนวนดี ใช้คำถูกต้อง วรรคตอนเป๊ะ แต่หากไม่มีผู้สร้างสารตั้งต้นแล้วจะทำหน้าที่นั้นตอนไหน 😂

ทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียน ดิฉันถือว่าจำเป็นมาก แม้ในปัจจุบันจะบอกว่าต้องมีทักษะนั่น นี่ โน่น แต่ก็ไม่พ้น สุ จิ ปุ ลิ ที่ต้องมีทุกสิ่งเท่าๆ กัน และพร้อมงัดออกมาใช้

ตลกร้ายเกี่ยวกับเรื่องการเขียน ในชีวิตเกิดกับตัวเอง 2 ครั้ง ครั้งแรกคือ เป็นทีมที่จัดทำเนื้อหานิทรรศการ พี่ๆ เตรียมร่างไปนำเสนอ พอถึงในห้องประชุมมีผู้วิจารณ์มากจนเกินพอดี ในความรู้สึกของเด็กน้อย จึงเอ่ยเบาๆ ขอขอให้ท่านนั้นช่วยนำไปปรับจะได้เป็นเลิศ คำตอบคือ ดีแล้ว … ฟังแล้วเงียบไป 3 วิ และเราก็เรียนรู้ถึงพฤติกรรมมนุษย์ เรื่องนี้คนใกล้ชิดจะทราบว่าใครเป็นตัวละคร เช่นเดียวกับเรื่องที่สอง ซึ่งประมาณว่า บรรณารักษ์เขียน blog อะไรก็ไม่รู้ เค้าไม่อ่าน ไปอ่านของเมืองนอก อิฉันฟังแล้วร้องอืมมมกับบัดดี้แล้วบ่นว่าพวกเราเคยเห็นว่า เค้าเขียนอะไรดีๆ มั้ย อยากอ่านมาก 😂😂 เรื่องราวมันนานมาก ตั้งแต่หลายคนไปสถิตย์กันที่ gotoknow คิดย้อนไปก็ขำๆ แต่ตอนนั้นไม่ขำสักนิด

สำหรับแรงบันดาลใจในการเขียนของดิฉันนั้น หลังจากทบทวนแล้วน่าจะเกิดจากความรักในอาชีพ กับห้องสมุด จึงไม่เบื่อที่จะเขียน และอยากจะเขียนออกมาเรื่อยๆ ในหลายมุมมอง เพราะอยากให้ผู้คนรู้จักห้องสมุด ยิ่งสามารถยึดโยงสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ วารสาร ผู้คน หรืออะไรต่างๆ ที่อาจคาดไม่ถึง

เป็นความสุขแบบอัตโนมัติ เป็นการ “อิน” ตลอดเวลา ของแบบนี้ต้องใช้เวลา ⌛️ อะไรที่ใช่ก็ใช่ 🥘