การละคำหรือข้อความ

เวลาเขียนงาน หรือข้อความที่มีความยาวประมาณหนึ่ง แล้วเราต้องการละข้อความที่เคยกล่าวมาแล้ว หรือละข้อความที่เราไม่ต้องการกล่าวถึง หรือข้อความที่จะเขียนต่อยาวมากจนไม่สามารถเขียนให้จบได้ในพื้นที่จำกัด เราจะทำอย่างไร

ตัวดิฉันเองใช้อยู่ 2 แบบ 2 กรณี คือ 1. ใช้ … (3 จุด) แทนข้อความที่ต้องการละไว้ เพราะไม่ต้องการกล่าวถึง หรือเป็นข้อความที่เข้าใจอยู่แล้ว และไม่ต้องการเขียนให้เสียเวลา  และ2. ใช้เครื่องหมาย  ~ (Tilde) ในการละคำที่เขียนไว้แล้วข้างหน้า (วิธีการนี้ดิฉันใช้เลียนแบบมาจาก การละคำศัพท์ใน Dictionary) ทั้ง 2 แบบนี้ใช้มาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรีและโท ที่เวลา lecture อาจารย์ไม่เคยสนใจว่าคนเรียนจะจดทันหรือไม่ (ตอนเรียนปริญญาโท  ในรายวิชาที่เนื้อหาสาหัส ถึงขนาดต้องจับคู่กันเรียน คนหนึ่งจดข้อมูลบนกระดาน อีกคน lecture ตามคำพูด คำสั่ง แล้วค่อยเอามารวมกัน)

ทีนี้เมื่อมาอ่านข้อมูล ความหมายของสัญลักษณ์ที่ใช้นั้น จึงได้รู้ว่า แบบแรก ที่ใช้ … คือ “Ellipsis dots”  จากการอ่านและรวบรวมความหมายและข้อมูลของ Ellipsis dots พบว่ายังมีการเรียกอีกหลายแบบ เช่น Ellipsis points,  “dot dot dot” เป็นต้น   การใช้ … คล้ายกับการใช้เครื่องหมายไปยาลน้อย (ฯ) ของไทย เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีการตัดตอนข้อความมาบางส่วน  หรือเป็นการปล่อยให้ผู้อ่านเข้าใจข้อความที่ละไว้จากบริบทของเนื้อหา

การใช้ Ellipsis หรือ …  นั้นยังมีรูปแบบในการใช้ต่างกัน เช่น ในระบบของ The Chicago Manual of Style ให้ใช้ . . . โดยมีการเว้นวรรคระหว่าง . แต่ละจุด แต่ในระบบของ Associated Press Stylebook (AP Style) จะใช้ . แต่ละ . ติดกัน แต่ต้องเว้นวรรคระหว่างหัวและท้ายของ … และเรามักจะอ่านเครื่องหมายนี้ว่า จุด จุด จุด แต่สำนักงานราชบัณฑิตยสภา บอกว่า ให้อ่านว่า ละ ละ ละ  เพื่อน ๆ สามารถอ่านรายละเอียด และวิธีการเขียน วิธีการใช้ของ Ellipsis dots ได้จาก  https://office-watch.com/2019/ellipsis-symbol-in-word-excel-powerpoint-and-outlook/

แบบที่สองที่ดิฉันมักใช้ในการเขียนอย่างเร็วหรือ lecture คือการใช้เครื่องหมาย ~ (Tilde)  ใน  WIKI บอกว่า ~ (Tilde)   มีความหมายว่า โดยประมาณ หรือ ราว ๆ รูปแบบที่ใช้ใน dictionary หน้าตาจะเป็นแบบนี้  เครื่องหมาย ~ จะเป็นตัวแทนของคำว่า ‘look’

จาก Oxford Learner’s Dictionary of Academic English

สมัยนี้น้อง ๆ อาจรู้สึกว่าวิธีการของดิฉันอาจไม่มีความจำเป็น เพราะว่ามีโทรศัพท์เครื่องเดียวก็ทำได้ ด้วยการอัดเสียงไว้ แต่เมื่ออัดเสียงมาแล้วไม่ได้เปิดฟังอย่างตั้งใจก็จะจำอะไรไม่ได้  การจดจำผ่านมือเป็นวิธีการที่ได้ผลอย่างดีวิธีหนึ่ง อยากให้ลองดูนะจ๊ะ

https://en.wikipedia.org/wiki/Ellipsis

http://www.royin.go.th/?page_id=10363