การอ่าน มีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตประจำวัน เพราะการอ่านในแต่ละครั้งเราต้องถ่ายทอดข้อมูลทั้งหมดที่อ่านได้ หรือนำเสนอข้อมูลที่อ่านในเวลาต่อมาได้ กรณีทำไม่ได้ถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จจากการอ่าน เราสามารถนำข้อมูลไปใช้งานได้ก็ต่อเมื่อเราซึมซับและวิเคราะห์ข้อมูลให้เข้าใจก่อน
หลักการประมวลผลข้อมูลมี 3 ขั้นตอน 1) การซึมซับ 2) การวิเคราะห์ และ 3) การนำความรู้ไปใช้ สิ่งสำคัญในการอ่านคือ สมาธิ ถ้าไม่มีสมาธิก็จะไม่เข้าใจเรื่องที่อ่าน และไม่สามารถประมวลผลข้อมูลได้ถูกต้อง จำข้อมูลได้ไม่ดี ดังนั้น สมาธิ ความเข้าใจ ความจำ เป็นสิ่งที่เกี่ยวโยงกัน
นอกจากนี้เรายังพบปัญหาใหญ่ภายในหนึ่งวัน คือ เราลืมข้อมูลที่อ่าน หรือได้ยินประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ และภายในหนึ่งสัปดาห์ จะเพิ่มขึ้นเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ เช่น ถ้าเราอ่านบันทึกเพื่อนำไปหารือกันในที่ประชุมสัปดาห์หน้าเราจะนำสิ่งที่อ่านไปถ่ายทอดได้เพียง 20 เปอร์เซ็นต์ และยังพบว่าสิ่งที่เราลืมบ่อยที่สุด ภายในระยะเวลาหนึ่งวัน ลืมข้อมูลที่ซึมซับประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่เกี่ยวกับอายุ สติปัญญา สิ่งที่เราลืมบ่อยที่สุด บางอย่างอาจเป็นสิ่งที่คุ้นเคย มีดังนี้
- 27 % ชื่อ
- 25 % เบอร์โทรศัพท์ที่เพิ่งรับ
- 18 % จุดที่วางบางอย่างไว้ (โทรศัพท์ กุญแจ รีโมททีวี)
- 12 % การนัดหมาย
- 11 % สิ่งที่เพิ่งคิดจะทำ
- 10 % วันสำคัญ (วันเกิด วันครบรอบ)
- 9 % คำ
3 ขั้นตอนที่เราใช้ในการประมวลผล
ข้อมูล: 1) การซึมซับ 2) การวิเคราะห์ และ3) การนำไปใช้ เรามาดูว่า 2 ขั้นตอนแรกคือ 1) การซึมซับ และ2) การวิเคราะห์ ซึ่ง 2 ขั้นตอนนี้ยังแบ่งได้อีก 5 ขั้นตอน 1) การซึมซับ 2) การทำความเข้าใจ 3) การวิเคราะห์ 4) การเก็บ และ 5) การเรียกมาใช้
ขั้นตอน | เป้าหมาย | หลักการของสมอง |
1. ซึมซับ | – รักษาสมาธิ ขณะซึมซับข้อมูล
– ซึมซับข้อมูลอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ |
– อุดช่องวาง
– ทำงานทีละอย่าง – ใช้สมองเยอะ ๆ – อย่าเรียนรู้มากเกินไป |
2. ทำความเข้าใจ | – เข้าใจเนื้อหา | – ทำงานทีละอย่าง
– ต่อจุด – ใช้สมองเยอะ ๆ |
3. วิเคราะห์ | – เห็นความแตกต่างระหว่างประเด็นสำคัญกับประเด็นยิบย่อย
– เห็นการเชื่อมโยง – สร้างข้อมูลรูปแบบใหม่ ๆ |
– ต่อจุด – ใช้สมองเยอะ ๆ
|
4. เก็บ | – เก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจำ | – ทำงานทีละอย่าง
– ต่อจุด – ใช้ภาพ – ใช้ความคิดสร้างสรรค์ – อย่าเรียนรู้มากเกินไป |
5. เรียกมาใช้ | – เรียกข้อมูลจากหน่วยความจำมาใช้ในภายหลัง | – ต่อจุด
– ใช้ภาพ – ใช้สมองเยอะ ๆ |
วิธี UseClark ช่วยให้เราพิจารณาแต่ละขั้นตอนได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีสมาธิขณะซึมซับข้อมูล และขณะประมวลผลข้อมูล มีหลักการ 8 ข้อ ดังนี้
1) เป็นเรื่องของวิธีล้วน ๆ ความสามารถในการรักษาสมาธิและจำข้อมูลนั้นขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอายุหรือระดับสติปัญญาสักเท่าไร 2) อุดช่องว่าง สมองของเราคิดเร็วกว่าที่เราพูดหรืออ่าน ผลคือเราจะเหลือพื้นที่สมองให้คิดถึงสิ่งอื่น ๆ ซึ่งในทางปฏิบัติ หมายถึง ในระหว่างที่อ่านหรือฟังคนอื่น ความคิดของเราจะฟุ้งซ่านได้ง่าย ถ้าอุดช่องว่างเราจะเหลือพื้นที่ให้คิดสิ่งอื่น ๆ น้อย ทำให้สมาธิดีขึ้น 3) ทำงานทีละอย่าง สมาธิแบบรู้ตัวของเราจดจ่อได้แค่ทีละอย่าง และทุกครั้งที่สลับงานไปมาเราจะเสียทั้งเวลา ความทุ่มเท และพลังงาน ถ้าเราพยายามทำงานทีละหลาย ๆ อย่าง หรือสลับงานไปมาอย่างรวดเร็ว ระดับความสามารถและประสิทธิภาพของเราจะต่ำลง ด้วยเหตุนี้จึงต้องจดจ่อกับงานทีละอย่าง 4) ต่อจุด ข้อมูลที่อยู่เดี่ยว ๆ แทบไม่ค่อยมี ส่วยมากมักจะเชื่อมโยงกับข้อมูลอื่นเสมอ การมองในภาพรวม การใช้ความรู้ของตัวเราเอง หรือการจัดโครงสร้างข้อมูลจะทำให้สมองประมวลผลข้อมูลได้ง่ายขึ้น 5) ใช้สมองเยอะ ๆ ยิ่งใช้สมองในการซึมซับหรือทบทวนข้อมูล ก็ยิ่งประมวลผลข้อมูลได้ดี 6) ใช้ภาพ การเปลี่ยนข้อมูลให้เป็นภาพ คือการพูดภาษาที่สมองเข้าใจได้ดีที่สุด ผลคือเราจะจำข้อมูลได้รวดเร็วและนานขึ้น 7) ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ความคิดสร้างสรรค์ช่วยให้เราเก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจำได้อย่างผนึกแน่นมากขึ้น ความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลกับข้อมูลจากแหล่งอื่น และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ จากการเชื่อมโยงดังกล่าว ยังเป็นลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งของมนุษย์เราด้วย และ 8) อย่าเรียนรู้มากเกินไป เป็นไปได้ที่เราจะเรียนรู้มากเกินไป หรือนานเกินไป แต่ได้ผลลัพธ์ที่แย่ลง ถ้าทำงาน เรียนรู้ อ่านหนังสือ หรือซึมซับข้อมูลพร้อมกัน รวดเดียวมากเกินไป รับรองได้เลยว่าเราจะจำข้อมูลได้ไม่นานนัก
การอ่านสำคัญต่อการคิด การตัดสินใจ และการทำภารกิจแทบทุกอย่าง และคิดว่าเราอ่านเป็นจริง ๆ แต่กลับ พบว่า 93 % เราเสียสมาธิในการอ่านง่ายเกินที่จะอ่านทั้งหมด วิธี UseClark ทำให้การซึมซับ การประมวลผล การจำข้อมูลทำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้เราทราบว่าในการทำงานแต่ละวันนั้นเราจะเสียเวลาจากการขัดจังหวะและสิ่งรบกวนโดยเฉลี่ยวันละ 2.1 ชั่วโมง และเมื่อถูกขัดจังหวะเราจะเสียเวลาโดยเฉลี่ยครั้งละ 20 นาที เพื่อกลับมาทำสิ่งนั้นใหม่อีกครั้ง
จาก…
ติกเคลาร์, มาร์ก. (2561). อ่านเร็ว เข้าใจ ไม่มีวันลืม. พิมพ์ครั้งที่ 2. แปลโดย จิรประภา ประคุณหังสิต. กรุงเทพฯ: อมรินทร์ฮาวทู.