ทรัพย์ในดิน สินในน้ำ

ในช่วงการระบาดของไวรัส COVID ที่ทุกคนต้องระมัดระวังในการออกนอกบ้านไปหาซื้อกับข้าว ที่บ้านสามพรานของดิฉันก็เหมือนกัน นอกจากเนื้อสัตว์ที่พี่ชายจะซื้อมาตุนำไว้ให้แล้ว พี่น้องยังได้กลับไปมีวิถึใหม่ แต่เป็นวิถีสามัญของพวกเราแต่ดั้งเดิม คือ การปลูกพืชผัก ไว้กินเอง ทั้งบนบกและในแม่น้ำ

ผักบนบกที่พวกเราปลูกไว้ มีต้นกุยช่าย (ซึ่งกลุ่มนี้เป็นพันธุ์เก่าแก่ แม่ปลูกไว้นานแล้ว ไม่ตายเลย เวลาจะกิน เราจะตัดต้นเสมอดิน แล้วสักสองสัปดาห์มันก็จะแตกต้นใหม่ให้เราไว้ตัดกินอีก ตัดสลับกันไป ดังนั้นเราก็มีกุยช่ายกินไม่ขาด), ผักกาดหอม, ผักชี, บวบ, ถั่วฝักยาว (ซึ่งแม่มีวิธีการตัดเก็บฝักให้มีฝักออกมาเสมอ เราก็จะมีถั่วฝักยาวกินจนกว่าต้นจะหมดอายุ), ผักกะหล่ำปลี ที่หัวใหญ่ สวยงามจนไม่อยากจะตัดออกมาจากพื้นดิน

ในน้ำก็มีผักบุ้ง กับผักกระเฉด เก็บไม่ชนะเหมือนกัน

ส่วนขนมที่เราทำกินกันจากวัตถุดิบที่มีอยู่ คือขนมกล้วยย่าง ที่บ้านชอบมากกว่าขนมกล้วยที่ห่อใบตองแล้วนึ่ง เพราะแบบย่างโดยใช้กาบมะพร้าวเป็นเชื้อเพลิงนี้จะหอมใบตองไหม้ อร่อยมาก

นอกจากนั้น เราจะเก็บมะพร้าวแห้งมาจากสวน เมื่อเยอะเข้าก็ต้องจัดระเบียบ วิธีการจัดระเบียบแบบนี้ ทำให้มะพร้าวไม่สุมกันจนชื้น ฝนตกก็ไม่แฉะ ไม่กลิ้งไปมา และไม่เป็นที่อยู่ของงู ตะขาบ แมงป่องด้วย

 

 

 

 

 

เมื่อแม่พอมีเวลาว่าง งานฝีมืออย่างหนึ่งที่แม่ชอบนอกจากตัดเสื้อผ้าแล้ว คือการสานตะกร้า เป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความรู้ที่ได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษแล้ว ยังต้องอดทนพยายามอย่างมาก

แม้โควิดจะทำให้พวกเรามีความยากลำบากในการดำรงชีวิตมากกว่าปกติ แต่ก็ทำให้ครอบครัวของเราที่ยังมีสิ่งแวดล้อมที่พร้อมให้พวกเรากลับคืนสู่สามัญ เห็นความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ ที่ทำให้เรามีทรัพย์ในดิน สินในน้ำ ช่วยการดำรงชีวิตให้ราบรื่น