เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา ก่อนที่เชื้อโรคตัวร้าย Covid-19 จะกลับมาระบาดอีกครั้ง ได้ถูกชักชวนจากพี่ๆ ที่ทำงานแบบทริปไฟไหม้ เรียกได้ว่าเป็นทริปหนีลูกเที่ยว การเดินทางครั้งนี้จุดหมายของเราอยู่ที่หมู่บ้าน “อีต่อง” ในอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี บ้านอีต่องเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่สุดเขตแดนตะวันออก ติดกับชายแดนไทย-พม่า เคยเป็นเหมืองแร่ที่รุ่งเรืองในอดีต ชื่อว่าเหมืองปิล๊อก แต่ปัจจุบันคงเหลือเพียงซากเครื่องมือที่ไว้เล่าต่อสู่คนรุ่นหลัง ในการมาอีต่องครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 (ในครั้งแรกที่มาก็เป็นทริปหนีลูกเที่ยวเช่นกัน555) เสน่ห์ของที่นี่ คือ หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาและสายหมอก อากาศดี มีธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ผู้คนและของกินของใช้ที่เป็นของท้องถิ่น เรามาดูกันว่าทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืน ในหมู่บ้านเล็กๆ นี้ เราไปทำอะไรที่ไหนบ้าง
จุดที่ 1 — บ้านอีต่อง/ถนนคนเดิน/ตลาดอีต่อง
เป็นร้านค้าตลอดแนวภายในหมู่บ้าน สำหรับหาของกิน ของฝาก สิ่งที่สะดุดตาสุดก็น่าจะเป็น ตะเกียงพม่า ซึ่งได้มีการนำมาเพ้นท์เป็นลวดลายต่างๆ บางร้านมีให้เพ้นท์ลายได้เองตามชอบ ที่ถนนเส้นนี้ในตอนเช้าเราสามารถมารอตักบาตรพระได้เลย สำหรับสิ่งที่แปลกใหม่ในการมาครั้งนี้คือ การได้ลองชิม “ทองโย๊ะ” ทองโย๊ะเป็นขนมพื้นบ้านของชาวกะเหรี่ยง ที่ทำจากข้าวเหนียวนึ่ง งาคั่ว และเกลือโขลกรวมกัน นำมาทอดเป็นชิ้นๆ
จุดที่ 2 — วัดเหมืองปิล๊อก
เป็นวัดที่สร้างตามศิลปะแบบพม่า มีเจดีย์ทรงพม่าตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเล็กเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุมี ด้านบนอีกเนินเขาเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรัตนศากยมุนีศรีทองผาภูมิ ด้านบนอากาศเย็นสบาย วิวสวยงาม บรรยากาศเงียบสงบ
จุดที่ 3 — บ่อน้ำกลางหมู่บ้าน
หากมาพักที่หมู่บ้านอีต่อง ที่พักที่วิวดีที่สุดน่าจะเป็นแนวริมฝั่งบ่อน้ำนี้ เพราะเราจะสามารถเดินออกมาปะทะหมอก เปิดประตูออกมาสูดอากาศยามเช้าได้เลย และในตอนกลางคืนแสงไฟที่ตกกระทบน้ำก็ชวนให้เรานั่งมองนิ่งๆ ได้เป็นเวลานาน
จุดที่ 4 — สะพานแขวนป้ายไม้
ย้อนกลับไปครั้งแรกที่มาที่นี่เมื่อประมาณเดือนตุลาคม 2559 บริเวณทางเข้าหมู่บ้านที่เป็นสะพานปูน จะมีคนนำป้ายไม้ที่เขียนชื่อมาแขวนที่ราวเหล็ก ตอนนั้นยังมีจำนวนไม่มากเท่าไหร่ เวลาผ่านไปป้ายไม้ก็มากขึ้นจนเต็มทั้งสองฝั่งของสะพานปูน ป้ายไม้เราสามารถหาซื้อได้บริเวณร้านค้าริมบ่อน้ำ เขียนชื่อแล้วมาแขวนที่ระเบียงป้ายไม้ มีนักเดินทางมากมายที่มาเขียนชื่อฝากความทรงจำไว้ที่นี่
ตุลาคม 2559 >>>>>>>>>>>>>> พฤศจิกายน 2563
r
จุดที่ 5 — บ่อปลาคาร์ฟกับลูกอ๊อดยักษ์
หากเราเดินออกจากบ่อน้ำหน้าหมู่บ้านไปทางเหมืองเก่าปิล๊อก เมื่อเดินเข้าไปข้างในจะพบกับต้นไม้มากมายหลายชนิดและบ่อปลาที่เต็มไปด้วยปลาคราฟตัวโตๆ สีสันสวยงามตัดกับสีน้ำที่ใสราวกับกระจก รวมถึงพืชน้ำต่างๆ ที่อยู่ภายในสระ กลายเป็นสระน้ำขนาดเล็กที่สวยงามแปลกตา และในบ่อปลาคราฟนี้เรายังจะได้เห็นลูกอ๊อดยักษ์ สอบถามจากคนในหมู่บ้านจึงรู้ว่าเป็นลูกอ๊อดของกบภูเขา กบภูเขาจะมีขนาดใหญ่ น้ำหนักตัวหนึ่งหนักถึง 1-3 กิโลกรัม หรือมากกว่านั้น
จุดที่ 6 — เนินช้างศึก
ก่อนวันเดินทางกลับ เราและพี่ๆ ได้ติดต่อรถพร้อมคนขับกับทางที่พัก รถมาจอดรอรับตั้งแต่ตี 5 เพื่อที่จะพาเราขึ้นไปชมวิวมุมสูง และรอคอยพระอาทิตย์ขึ้นมาทักทายกันที่ “เนินช้างศึก” ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานปฏิบัติการช้างศึก ตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 135 อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ห่างจากตัวหมู่บ้านอีต่องไปประมาณ 2 กิโลเมตร เนื่องจากเส้นทางไปเนินช้างศึกค่อนข้างแคบและเป็นทางขึ้นเขา บางช่วงเป็นถนนลูกรัง บางช่วงถนนพังเป็นร่องลึก ต้องอาศัยความชำนาญจากคนขับกว่าจะถึงด้านบนได้ก็ทำเอาใจเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่แลกกับวิวข้างบนแล้วเรียกได้ว่าคุ้มค่าที่สุด