“โกโกวาโกซือ คิมิสึนิดา…” หลายคนอาจคุ้นหูและเคยได้ยินเพลงนี้จากหนังเรื่อง สควิดเกม (Squid Game) ซึ่งตอนนี้มีซีซั่น 2 ที่เข้าฉายในเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) แล้ว และเพื่อเป็นการฉลองการกลับมาในซีซั่น 2 นี้เอง จึงมีการเปิดตัว “โกโกวา” ขนาดยักษ์พร้อมกับไฮไลต์สุดยิ่งใหญ่ให้ชาวไทยได้ยลโฉมผ่านขบวนเรือที่จะเคลื่อนไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาในวันที่ 21-22 ธันวาคม 2567 โดยล่องเรือผ่านเส้นทางสะพานพระราม 8 สะพานพระปิ่นเกล้า วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร สะพานพุทธ ICONSIAM สะพานตากสิน สะพานพระราม 3 สะพานกรุงเทพ สะพานพระราม 9 และสะพานภูมิพล โดยจะมีโชว์เปิดตัวสุดอลังการให้ได้รับชมกัน 2 จุด คือบริเวณท่าเรือวัดอรุณฯ เวลา 11.30-12.30 น. และบริเวณท่าเรือ ICONSIAM เวลา 12.30-13.30 น. และ 17.30-18.30 น. หลังจากนั้น เรือจะเทียบท่าอวดโฉม “โกโกวา” ขนาดยักษ์ให้แฟนๆ ได้มาถ่ายรูปกันที่บริเวณท่าเรือ ICONSIAM ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2567 ถึง 2 มกราคม 2568 วันนี้จึงอยากจะรีวิวการเดินทางไปชม “โกโกวา” ขนาดยักษ์กับเส้นทางที่แสนยากลำบากกันค่ะ
ที่เรียกว่า “เส้นทางแสนยากลำบาก” ที่กล่าวในข้างต้นนั้นเป็นเพราะว่า หากเดินทางด้วยรถยนต์ ICONSIAM ตั้งอยู่บนถนนเจริญนคร การเดินทางจาก…
ฝั่งพระนคร : จากถนนสุขุมวิท เดินทางมาเข้าถนนสาทร จากนั้นขึ้นสะพานตากสิน แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจริญนคร
ฝั่งธนบุรี : จากวงเวียนใหญ่ ชิดซ้ายสู่ถนนลาดหญ้า แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนเจริญนคร
ซึ่งการเดินทางในย่านนี้ขึ้นชื่อเรื่องรถติดมาก อีกทั้งช่วงนี้มีผู้ให้ความสนใจในการเดินทางมาชมเจ้าโกโกวาเป็นจำนวนมากทำให้เกรงว่าจะไม่สามารถหาที่จอดรถได้ เราจึงเลือกเส้นทางเดินทางด้วยเรือ ที่สามารถใช้บริการ Shuttle Boat ของ ICONSIAM ได้ที่…
ท่าเรือสาทร : 06.00 น. – 23.30 น.
ท่าเรือ CAT Telecom : 09.00 น. – 23.00 น.
ท่าเรือสี่พระยา : 09.00 น. – 23.00 น.
ท่าเรือราชวงศ์ : 09.00 น. – 23.00 น.
แต่เส้นทางที่เราเลือกก็มิได้อยู่ในตัวเลือกที่กล่าวมา เราเลือกที่จะไปจอดรถที่เอเชียทีค เนื่องจากที่นี่มีที่จอดรถจำนวนมากและมีท่าเรือให้บริการที่สามารถเดินทางไป ICONSIAM ได้โดยเราสามารถขึ้นเรือที่จุดนี้ และไปต่อเรืออีกลำที่ท่าเรือสาทรก่อนจะตรงไปยัง ICONSIAM แต่เนื่องจากการหาข้อมูลของเราไม่ครอบคลุมทำให้เกิดการผิดพลาด เราเดินทางไปถึงเอเชียทีคเวลาประมาน 15.00 น. แต่ท่าเรือเอเชียทีคนั้นจะเปิดให้บริการ 16.30 น. เป็นต้นไป แต่ด้วยความที่เราข้ามมาอยู่อีกฝั่งของ ICONSIAM แล้วนั้น จะให้เราขับรถฝ่ารถติดไปอีกเกรงว่าจะทำให้เสียเวลาเดินทาง เมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณนั้นทำให้ทราบว่ามีท่าเรือใกล้ ๆ อีกที่หนึ่งอยู่ในวัดราชสิงขร เป็นท่าเรือด่วนเจ้าพระยา ดูเส้นทางการเดินเรือได้ที่ https://www.chaophrayaexpressboat.com/chaophrayaexpressboa
การที่จะเปลี่ยนการเดินทางจากท่าเรือเอเชียทีค ไปยังท่าเรือวัดราชสิงขรนั้น เราจะต้องเดินออกไปยังด้านหน้าตรงทางออกระยะทางประมาณ 500 เมตร แล้วเดินเลาะริมถนนประมาน 200 เมตร จึงจะถึงทางเข้าซุ้มวัด แล้วเดินผ่านวัดเข้าไปยังด้านในสุดอีก 500 เมตร แล้วจะพบกับท่าเรือที่มีเรือจอดเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก จากการเดินทางด้วยเรือโดยสารนี้เราสามารถเดินทางไปยัง ICONSIAM ได้โดยตรงแบบไม่ต้องต่อเรือ โดยมีค่าบริการคนละ 16 บาทตลอดสาย รวม 4 คน 64 บาท เรือเป็นเรือขนาดกลาง ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ เป็นเรือโดยสารแบบเปิดโล่งมีที่นั่ง และมีชูชีพวางด้านใต้ที่นั่ง ระหว่างโดยสารเรือนั้นมีเด็กน้อยงอแงเพราะว่ากลัวการนั่งเรือที่สุด
ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึง ICONSIAM อย่างปลอดภัยก่อนอื่นก็ต้องถ่ายรูป Check in ก่อน ถือว่าเราประสบความสำเร็จในการเดินทาง ต้องบอกเลยว่าคนเยอะมาก ๆ และเจ้าโกโกวายักษ์ก็อลังการสมคำร่ำลือจริง ๆ จากนั้นก็ไปเดินเล่นและหาอะไรทานก่อนจะเดินทางกลับ ซึ่งตอนขามาก็คิดว่ายากแล้ว ขากลับเราเลยคิดว่าจะไม่พลาดแล้ว เราจะต้องหาเรือที่ตรงไปยังท่าเรือเอเชียทีคโดยที่ไม่ต้องไปแวะที่จุดวัดราชสิงขรอีกเพราะหากเป็นเช่นนั้นเราจะต้องเดินกันอีกไกลดังเช่นขามา
ขากลับเราเลยไปสอบถามเจ้าหน้าที่บริเวรท่าเรือว่าหากเราต้องการที่จะไปท่าเรือเอเชียทีคโดยตรงนั้นเราจะต้องไปซื้อตั๋วที่ไหน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ชี้ไปยังแถวที่ยาวเหยียดจนม้วนไปมาหาหางแถวแทบไม่เจอ แต่แล้วคุณพี่เจ้าหน้าที่ก็พูดขึ้นมาว่าแต่ถ้าไม่อยากจะต่อแถว ก็ให้ไปซื้อกับคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ได้เหมือนกัน ซึ้งตอนแรกเราเองก็ไม่รู้ว่ามันต่างกันอย่างไร เลยถามว่าเหมือนกันไหมคะระหว่างต่อแถวยาว กับไปซื้อตรงที่มีคนยืนอยู่นั่น พี่เจ้าหน้าที่บอกว่า “เรือไปลงที่เอเชียทีคเหมือนกันเป็นเรือตรง ไม่ต้องต่อเรือที่ท่าเรือสาทร ถ้าเข้าแถวยาว ๆ นั่น ต้องลงท่าเรือสาทรแล้วต่อเรืออีกลำเพื่อไปเอเชียทีค” เราเลยคิดในใจว่าในเมื่อเป็นแบบนี้เราก็ควรขึ้นเรือตรงไปเลยสิทำไมต้องไปต่อเรือ เนื่องจากเรามีเด็กมาด้วย 2 คน การที่จะต้องกระเตงลูกขึ้นลงท่าเรือไม่ใช่เรื่องสนุกเลย เลยตัดสินใจเดินไปซื้อตั๋วกับคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แถว สอบถามเพื่อความมั่นใจอีกครั้งว่าเรือจะไปที่ไหนและราคาค่าโดยสารเท่าไร พอได้คำตอบก็ต้องตกใจเพราะค่าโดยสารนั้นคิดคนละ 60 บาท รวม 4 คน 240 บาท ในใจได้แต่ร้องคุณพระ! นี่มัน 4 เท่าของราคาที่มาเลย แถมตอนมารวม 4 คน 64 บาทเอง แต่พอเห็นหางแถวที่ขดไปมาก็เลยคิดว่า ลองดู!
พอซื้อเสร็จก็เดินมาท่าเรือพอโชว์ตั๋วเจ้าหน้าที่ก็เปิดที่กั้นให้เดินเข้าไปด้านในริมน้ำ ตรงที่วิวดีที่สุดอยู่ติดกับทางลงเรือคล้าย ๆ ว่าเป็นที่วีไอพีก็ไม่ปาน คิดแบบนี้ก็ไม่แปลกเพราะโซนที่เรายืนอยู่มีคนยืนอยู่แบบหลวม ๆ ไม่เกิน 10 คน ส่วนตรงข้าง ๆ กันเพียงแค่โซ่กั้นไว้นั้น คนยืนเบียดเสียดกันแน่นขนัดเลยคิดว่าเราอาจคิดถูกที่ซื้อแบบแพงมาเพราะมาทราบทีหลังว่าตรงที่คนยืนกันเบียด ๆ นั่น คือคนที่ต่อแถวยาว ๆ ที่เราเห็นซึ่งเรือลำนั้นจะไปลงที่ท่าเรือสาทรก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนเรืออีกลำไปเอเชียทีค แต่ที่น่าเจ็บใจคือราคาค่าโดยสารแถวยาว ๆ ที่เราไม่ได้เลิกนั้น ราคาเพียงคนละ 8 บาทเท่านั้นเอง แถมเรือโดยสารก็มาเร็วกว่าเราได้แต่มองดูเรือที่ผ่านมาแล้วก็ไปลำแล้วลำเล่าเกือบครึ่งชั่วโมงกว่าเรือที่เราจองนั้นจะมา แต่พอเรือมาก็หายเหนื่อยและโล่งใจเพราะว่าเรือที่เราซื้อตัวก็วีไอพีสมชื่อ เรือเป็นเรือขนาดใหญ่และมีให้โดยสาร 2 ชั้น คือชั้นล่างและชั้นดาดฟ้า และแน่นอนว่าเราเลือกนั่งตรงชั้นล่างที่มีที่นั่งโปร่งสบายและมีเครื่องปรับอากาศ เราใช้เวลาโดยสารในเรือประมาณ 5 นาที ก็ถึงท่าเรือเอเชียทีคแล้ว (ยังไม่คุ้มค่าโดยสารเลย)
ก่อนจะกลับก็แวะหาอะไรทานนิด ๆ หน่อยแล้วก็แวะถ่ายรูปยามค่ำคืน เพราะว่าวิวตอนกลางคืนที่นี่สวยมากหากมีเวลาอีกสักนิดก็คงจะได้แวะเล่นเครื่องเล่น อีกทั้งเด็ก ๆ บ่นง่วงนอนกันตลอด ไว้มีโอกาสครั้งหน้าค่อยพาเด็ก ๆ มาเที่ยวที่เอเชียทีคใหม่แล้วจะมารีวิวนะคะ
อ้างอิง :
https://www.matichon.co.th/entertainment/thai-entertainment/news_4966276