หลังจากที่หน่วยงานเรามีภารกิจเกี่ยวกับ Green Library and Green Office เข้ามาในชีวิตของทุกคน เราจะพบว่าเพื่อน ๆ หลายคนมีอุปนิสัยการทิ้งขยะที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะตัวดิฉันเอง จากเดิมค่อนข้างมีพฤติกรรมแยกก่อนทิ้ง เทก่อนทิ้งอยู่บ้างแล้ว แต่อาจจะไม่ได้ทำกับขยะทุกประเภท แล้วแต่โอกาสและสถานที่ ตามความสะดวกและความพร้อมของถังขยะที่มีรองรับ แต่หากเป็นที่บ้านดิฉันจะค่อนข้างทำเป็นประจำสม่ำเสมอ เพราะค่อนข้างสะดวกเนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ถุงแยกขยะหลายประเภท น้ำ ภาชนะใส่ขยะย่อยสลาย ตลอดจนสถานที่ที่เราส่งขยะย่อยสลายให้ไปต่อ เป็นต้น
แรงบันดาลใจที่ทำให้ดิฉันอยากแยกขยะเกิดจากการที่ได้เคยเดินทางไปศึกษาดูงาน ณ ประเทศญี่ปุ่น จากการศึกษาดูงานในครั้งนั้น ดิฉันได้รับประสบการณ์และความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นในมุมมองที่ไม่เคยเห็นมาก่อน โดยประเทศญี่ปุ่นมีมุมมองเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่ดีมาก พวกเขาเห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมด้วยการปลูกฝังให้เด็ก ๆ โดยเฉพาะชั้นอนุบาล เด็ก ๆ เหล่านี้มาโรงเรียนโดยที่คุณครูยังไม่เน้นการสอนหนังสือ แต่เน้นการปลูกฝังวินัยให้เด็ก ๆ รู้จักประเภทขยะ การแยกขยะ การทิ้งขยะ และที่สำคัญการทิ้งขยะของที่ญี่ปุ่น จะไม่ใช่ว่า จะทิ้งอะไรก็ได้ ทิ้งเท่าไรก็ได้ ทิ้งอย่างไรก็ได้ ทิ้งที่ไหนก็ได้ ในทุกการทิ้งของพวกเขาจะมีการจัดระบบฯ จะทิ้งอย่างไรให้ประหยัดเงินค่าขยะให้มากที่สุด โดยจะมีการแยกขยะตั้งแต่ในห้องพัก/บ้านเรือน ก่อนนำไปทิ้ง ทุกครั้งของการทิ้งคือต้องเสียเงินตามน้ำหนักขยะด้วยการถูกตัดยอดเงินในการ์ด หากขยะประเภทของใช้ที่ยังพอจะใช้ได้ จะนำไปวางจุดที่ส่งต่อ คือ คนอื่นสามารถนำไปใช้ต่อได้หากเป็นประโยชน์กับตนเอง กอปรกับการสังเกตเห็นเวลารถขยะของเทศบาล/อบต. มาเก็บขยะในชุมชน ภาพที่เห็นเป็นประจำคือ น้ำสีน้ำตาลเข้มออกดำไหลจากถุงขยะไหลลงรถเวลาถูกเครื่องอัดบีบ จากนั้นน้ำขยะบนรถก็ไหลลงสู่ท้องถนนตลอดเส้นทาง ส่งกลิ่นเหม็นตลอดเส้นทางของรถขยะ เพียงเท่านี้ ยังไม่ต้องนึกถึงเชื้อโรคในขยะเหล่านั้นนะคะ ทำให้ดิฉันรู้สึกหดหู่และสงสารพนักงานเก็บขยะทุกคน ที่ต้องเกิดมาทำหน้าที่เช่นนี้ ช่างเป็นอาชีพที่ไม่มีใครใฝ่ฝัน ไม่มีใครอยากทำ แต่จะด้วยเหตุปัจจัยใด ๆ ก็ตามที่พวกเขาต้องมาทำอาชีพนี้ ดิฉันจึงอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยพวกเขาเหล่านั้นด้วยการแยกขยะก่อนทิ้ง
ปัจจุบันองค์กรเรามีการปฏิบัติตามมาตรการเกี่ยวกับ Green Library and Green Office ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าผลออกมาหน่วยงานเราจะได้รับเหรียญรางวัลในระดับใดก็ตาม หากเราทุกคนได้ร่วมมือกันอย่างเต็มที่แล้ว มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทิ้งขยะ การรักษ์สิ่งแวดล้อม การประหยัดพลังงานแล้วตั้งแต่วันนี้และในวันต่อ ๆ ไป แล้วนำแนวปฏิบัตินี้ไปใช้ทั้งที่ทำงานและที่บ้านของตนเอง มีการเผยแพร่แนะนำบอกต่อสมาชิกในครอบครัว เพื่อน ตลอดจนคนรู้จักให้ร่วมตระหนักรักษ์สิ่งแวดล้อม เพียงเท่านี้โลกเราก็จะน่าอยู่มากขึ้น กล่าวโดยสรุป ในการดำเนินงานตามมาตรการของ Green Office และ Green Library ได้ส่งผลให้บุคลากรตลอดจนผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ มีพฤติกรรมที่ดีขึ้นในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม การจัดการขยะ การใช้ทรัพยากรและพลังงาน รวมถึงการลดมลพิษ นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีในการจัดการขยะให้กับสมาชิกในครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้โลกน่าอยู่มากขึ้น
