วันออกพรรษา ปีนี้ตรงกับวันจันทร์ ที่ 10 ตุลาคม 2565 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 มีการทำบุญตักบาตร เข้าวัดฟังธรรม รักษาศีลอุโบสถ หลังวันออกพรรษา เป็นวันอังคารที่11 ตุลาคม 2565 แรม 1 ค่ำ เดือน 11 เราชาวพุทธไปตักบาตรเทโว ซึ่งเป็นประเพณีของชาวพุทธไทยเราแต่โบราณ ต้องมีการบำเพ็ญบุญกุศลใส่บาตรในวันออกพรรษาที่เรียกัน “ตักบาตรพระร้อยบ้าง” ตักบาตรดาวดึงส์บ้าง” , “ตักบาตรเทโว” บ้าง
ประวัติ สาเหตุของการทำบุญ มีดังนี้ สมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงอนุสรณ์คำนึกงถึงพระมารดาซึ่งถึงกาลกิริยาไปแล้วไปจุติในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จึงเสด็จขึ้นไปเทศน์โปรดพระมารดาชั่วกาลพรรษาหนึ่ง ก็ออกพรรษาก็เสด็จลงมาทางประตูเมืองสังกัสสนคร
อาศัยเหตุนี้เองชาวบ้านจึงพากันทำบุญใส่บาตรในวันออกพรรษาที่เรียกัน “ตักบาตรพระร้อย” ตักบาตรดาวดึงส์ หรือ ตักบาตรเทโว
เป็นกาลพิเศษซึ่งถือเสมือนว่าได้ใส่บาตรพระพุทธเจ้า
พระอาจารย์ (บัณฑิตอุดร) แสดงธรรมเรื่องพระพุทธองค์ ทรงเปิดโลก ดังนี้
พระเจ้าเปิดโลก
1.เป็นเหตุการณ์ที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์ ในพรรษาที่ 7 หลังจากเสด็จขึ้นไปแสดงพระธรรมเทศนา ซึ่งในโอกาสนั้นพระพุทธองค์ทรงแสดงฉัพพรรณรังสี เป็นเหตุให้โลก (ภูมิ) ทั้งหลายตั้งแต่พรหมภุมิ ไปจนถึงนรกภุมิเปิดสว่างจนแลเห็นซึ่งกันและกันได้
ในการนี้หมายถึง…วันเทโวโรหณะ เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์พระเจ้าเปิดโลกในพุทธกาล ตรงกับวันแรม 1 ค่ำเดือน 11 ของทุกปีตามปฏิทิน จันทรคติ และการตักบาตรเทโว เพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลก
2.ความสำคัญของพระเจ้าเปิดโลก พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงปาฏิหารย์จนเกิดเหตุอัศจรรย์ คือ เทวดา มนุษย์ และสัตว์นรก ต่างมองเห็นซึ่งกันและกัน เรียกว่า “วันพระเจ้าเปิดโลก” มีความสำคัญ ดังนี้
2.1) เป็นปัจจัยให้สัตว์โลกทั้งหลาย ไม่ประมาทในชีวิต
2.2) เป็นไปเพื่อให้สัตว์ บุคคลปรารภตนเองเพื่อออกจากทุกข์
2.3) เป็นเหตุปัจจัยให้สัตว์ บุคคลปฏิบัติเพื่อมุ่งตรงต่อพระนิพพาน
3.ทางปฏิบัติของพระพุทธเจ้าเปิดโลก ทรงเปิดโลกคือขณะที่พระพุทธเจ้าประทับยืนอยู่ที่บันไดแก้ว ทรงทอดพระเนตรไปทางทิศเบื้องบน เทวโลกและพรหมโลก ก็เปิดมองเห็นโล่ง
เมื่อทรงทอดพระเนตรไปในทางทิศเบื้องต่ำนิรยโลกทั้งหลายก็เปิดโล่ง ในครั้งนั้น สวรรค์ มนุษย์ และสัตว์นรก ต่างก็เห็นซึ่งกันและกันทั่วจักรวาล พระพุทธเจ้าทรงเปิดโลกในเหตุการณ์นี้มี 3 โลก คือ เทวโลก (ตั้งแต่พรหมโลกลงมาจนถึงสวรรค์ทุกชั้น)
มนุษยโลกและยมโลก (ตามแนวพระสูตร) แต่
ยังมี 3 โลก (ตามแนวพระอภิธรรม)
3.1) กามโลก (หรือกามภูมิ) แบ่งเป็น 11 ส่วนย่อย ได้แก่
1.) ทุคติภูมิ : นรกภูมิ เปรตภูมิ อสุรกายภูมิ เดรัจฉานภูมิ
2.) สุคติภูมิ : มนุสสภูมิ จาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ดุสิต ยามา นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวัตดี
3.2) รูปโลก (หรือรูปภูมิ) แบ่งเป็น 16 ชั้น เป็นที่สถิตของพรหม ซึ่งพรหมที่สถิตอยู่ต้องบำเพ็ญฌาน แบ่งออกเป็น ปฐมฌานภูมิ 3
ทุติยฌานภูมิ 3 ตติยฌานภูมิ 3 และจตุตฌานภูมิ 7
3.3) อรูปโลก (หรืออรูปภูมิ) แบ่งเป็น 4 ชั้น เป็นที่สถิตของพรหมระดับสูง ซึ่งไม่มีรูปกาย คือ
ชั้นที่ 1 อากาสานัญจายตนภูมิ
ชั้นที่ 2 วิญญาณัญจายตนภูมิ
ชั้นที่ 3 อากิญจัญยายตนภูมิ
ชั้นที่ 4 เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ
“ในกาลครั้งนี้…ไม่มีใครไม่ปราถนา…พุทธภูมิ คือความเป็นพระพุทธเจ้า”
4. ผลแห่งการปฏิบัติในพระพุทธเจ้าาเปิดโลก เป็นอานิสงส์ที่บุคคลทั้งหลายที่ได้ศึกษาและปฏิบัติตนในการพระพุทธเจ้าเปิดโลก มีดังนี้
4.1) เป็นผู้มีความสำรวมระวังในตนเป็นนิจ
4.2) เป็นผู้ปรารภความเพียรและประพฤติในศีล สมาธิ ปัญญา
4.3) เป็นผู้รู้เท่าทันโลก และความจริงของชีวิต
4.4) ย่อมเป็นผู้ขวนขวายด้วยการปฏิบัติตน เพื่อให้บรรลุถึงซึ่งพระนิพพาน
สาธุ สาธุ สาธุ