พระพุทธรูป
พระพุทธรูป คือ สัญลักษณ์ แทนองค์พระพุทธเจ้า องค์ศาสดาผู้ก่อตั้งพระศาสนา เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เคารพกราบไหว้บูชา สร้างขึ้นด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น แกะสลัก จากหินหรือไม้ หล่อด้วยโลหะ ปั้นด้วยดินเผา วาดภาพลงบนพื้นผ้า หรือผนังอาคาร มีขนาดต่าง ๆ กัน ตั้งแต่องค์ขนาดใหญ่ มากประดิษฐานไว้ตามวัดวาอาราม องค์ขนาดไม่ใหญ่นัก ตั้งบูชาไว้ตามบ้านเรือน จนถึงองค์ขนาดเล็กมาก ที่นำติดตัวไปที่ต่าง ๆ ถือเป็นเครื่องคุ้มครอง ป้องกันอันตราย ที่เรียกว่า พระเครื่อง ย่อมาจากคำว่า พระเครื่องราง
คติการสร้างพระพุทธรูป
การจัดสร้างพระพุทธรูปเกิดขึ้นครั้งแรกที่แคว้นคันธารราฐ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย ในสมัยของพระเจ้ากนิษณะ แห่งราชวงศ์กุษาณะ พ.ศ. ๖๖๓ – ๗๐๕ โดยได้รับอิทธิพลจากชาวกรีกโบราณ สืบเนื่องมาจาก พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช กษัตริย์แห่งอาณาจักรมาซีโตเนีย ทางตอนเหนือของประเทศกรีซ แผ่ขยายอำนาจ คลอบคลุมดินแตนต่าง ๆ ตั้งแต่ในคาบสมุทรบอลข่าน อียิปต์ ตุรกี เปอร์เชีย มาจนถึงแคว้น คันธารราฐของอินเดีย เมื่อราวพุทธศตวรรษที่ ๓ หลังจากนั้น ชาวกรีกและชาวโรมันก็ได้เดินทางมาค้าขาย และนำวัฒนธรรมมาเผยแพร่ในดินแดนแถบนี้ รวมถึงการสร้างรูปเคารพทางพระพุทธศาสนา จนเกิดการสร้างพระพุทธรูปขึ้น เป็นรุ่นแรกที่เรียกว่า พระพุทธรูปศิลปะสมัยคันธารราฐ
เนื่องจากคติการสร้างพระพุทธรูปในอินเดียได้รับอิทธิพลครั้งแรกมาจาก กรีก ดังนั้นพระพุทธรูป สมัยคันธารราฐ
จึงมีลักษณะรูปร่าง หน้าตา และการห่มจีวรแบบชาวกรีกโบราณ ต่อมาการสร้างพระพุทธรูป มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะรูปร่างหน้าตา และการนุ่งห่มจีวร ไปจากเดิม จนเกิดเป็นสกุลช่างของอินเดียสมัยต่าง ๆ เช่น
- สมัยอมราวดี ช่วงพุทธศตวรรษ ที่ ๗ – ๙
- สมัยคุปตะ ช่วงพุทธศตวรรษ ที่ ๙ – ๑๑
- สมัยปาละ ช่วงพุทธศตวรรษ ที่ ๑๓ – ๑๖
พระพุทธรูป
ไม่ใช่รูปเหมือนของพระพุทธเจ้า แต่เป็นสัญลักษณ์ แทนพระพุทธองค์ ดังนั้นพระพุทธรูปแต่ละสกุลช่าง ที่สร้างขึ้นในแต่ละสมัย จึงมีรูปร่างแตกต่างกันไป ตามความนิยม แต่พระพุทธูป มีลักษณะที่สำคัญ ที่เรียกว่า มหาปุริสลักษณะ อันหมายถึงลักษณะของมหาบุรุษ ๓๒ ประการ เมื่อพระพุทธศาสนาเผยแผ่ ไปในดินแดนต่าง ๆ นอกอินเดีย คติการสร้างพระพุทธรูปก็เกิดขึ้นในประเทศต่าง ๆ การสร้างพระพุทธรูปในระยะแรกนิยมสร้างตามแบบสกุลช่างของอินเดีย ต่อมาได้มีการดัดแปลงรูปแบบให้เป็นไปตามความนิยมของคนในท้องถิ่น ดังนั้น ในปัจจุบันจึงเห็นความแตกต่างในด้านรูปร่างลักษณะของพระพุทธรูปในประเทศต่าง ๆ เช่น ไทย ศรีลังกา พม่า กัมพูชา จีน ญี่ปุ่น
ประเภท วัสดุ และวิธีการสร้างพระพุทธรูป
ประเภท รูปเคารพของพระพุทธรูปปรากฏเป็น ๒ ประเภทใหญ่ ๆ คือ ประเภทงานประติมากรรม และประเภทงานจิตรกรรม
- ประเภทงานประติมากรรม มีทั้งงานแกะสลักนูนต่ำ งานแกะสลักนูนสูง และรูปปั้นลอยตัว
- ประเภทงานจิตรกรรม เป็นการเขียนภาพพระพุทธรูปลงบนฝาผนัง พระอุโบสถ พระวิหาร และอื่น ๆ ส่วนใหญ่เป็นการเขียนลงบนผนังปูน แต่อาจเขียนลงบนผนังไม้ หรือเขียนลงบนผืนผ้า ที่เรียกว่า “ พระบฏ’ .งานจิตรกรรมส่วนใหญ่เป็นภาพเล่าเรื่องราวทางพระพุทธศาสนา ได้แก่พุทธประวัติและชาดก เพราะสามารถแสดงเรื่องราวได้มากกว่างานประติมากรรม
วัสดุ และวิธีการสร้างพระพุทธรูป
- ในระยะแรกเริ่ม คือ ก่อนสมัยทวารวดี และสมัยทวารวดี นิยมสร้างพระพุทธรูปจากดินเผา ปูนปั้น ศิลา (หิน) และทองสำริด ต่อมาในสมัยสุโขทัย ล้านนา อยุธยา และรัตนโกสินทร์ มีการใช้วัสดุชนิดอื่น เช่น ทองคำ เงิน นาก ไม้ หินสี ต่าง ๆ การสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่บางทีก็ใช้ศิลาแลง หรือก่ออิฐถือปูนปั้น เป็นเค้าโครงอย่างคร่าว ๆ เรียกว่า ‘โกลน” จากนั้นจึงปั้นปูนทับ ตกแต่งให้เป็นพระพุทธรูปที่สมบูรณ์ พระพุทธรูปที่สร้างด้วยปูนปั้นและหล่อยด้วยทองสำริด มักมีการปิดทองทับทั่วทั้งองค์ ทั้งนี้เพื่อความสวยงามและถูกต้องตามมหาปุริสลักษณะ
- ดินเผา
- ศิลา
- ทองสำริด
- ปูนปั้น
- งานก่ออิฐถือปูน
- ไม้ นำมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูป แล้วจึงลงรักปิดทอง ข้อดี คือ สามารถแกะสลักเป็นรูปได้ง่าย และแสดงรายละเอียดของานช่างได้ดี ข้อเสีย ไม่คงทนถาวร ผุพังและแตกหักได้ง่าย มักพบในงานศิลปะกรรมรุ่นใหม่ ๆ เท่านั้น
ปาง
ความหมายตามรากศัพท์ ของปาง หมายถึง “ครั้ง’ หรือ “เมื่อ” ปรียบสเมือนการบอกเวลา เมื่อนำมาใช้กับพระพุทธรูป ปางจึงเป็นความหมายถึง ลักษณะสมมุติในอิริยาบถต่าง ๆ ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ซึ่งเป็นการแสดงพระพุทธประวัติตอนหนึ่งของพระพุทธองค์ ในขณะที่ทรงมีสภาวะเป็นมนุษย์ ตามความเชื่อในพุทธประวัติของช่างสมัยโบราณ แห่งราชวงศ์คุปตะ ปางที่ได้รับการสร้างขึ้นครั้งแรก ได้แก่ปางสมธิ ปางมารวิชัย ปางปฐมเทศนา และปางปรินิพพาน
เมื่อล่วงสู่สมัยหลัง ได้มีการสร้างพระพุทธรูปองค์อื่น ๆ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เช่น ปางรำพึง ปางป่าเลไลยก์ ปางห้ามสมุทร ปางห้ามญาติ ปางไสยาสน์ และปางขอฝน เป็นต้น
พระพุทธรูปที่สร้างในประเทศไทยนั้น เริ่มตั้งแต่ สมัย รัชกาลที่ ๓ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ทรงรวบรวมและทรงนิพนธ์ หนังสือทางพระพุทธศาสนาขึ้น คือพระนิพนธ์พระพุทธประวัติเรื่อง ปฐมสมโพธิกถา แล้วทรงประดิษฐ์แบบอย่างพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ขึ้นตามพุทธประวัติดังกล่าว เพื่อให้ช่างสร้างเป็นพระพุทธรูปรวมทั้งหมด ๔๐ ปาง นับเป็นการกำหนดปางของพระพุทธรูปมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประเทศไทย ต่อมาได้มีผู้กำหนดปางพระพุทธรูปเพิ่มเติมอีกหลายตำรา เช่น พระพุทธรูปปางต่าง ๆ แต่งโดยหลวงบริบาลบุรีภัณฑ์ จำนวน ๔๕ ปาง ตำนานพระพุทธรูปาง ต่่าง ๆ แต่งโดย พระพิมลธรรม จำนวน ๖๖ ปาง และประวัติพระพุทธรูปปางต่าง ๆ แต่งโดย พิทูร มลิวัลย์ มีจำนวน ๗๒ ปาง
ปางพระพุทธรูปประจำวันเกิด
วันอาทิตย์ ปางถวายเนตร
วันจันทร์ ปางห้ามญาติ
วันอังคาร ปางปรินิพพาน หรือปางไสยาสน์
วันพุธ (กลางวัน) ปางอุุ้มบาตร
วันพุธ (กลางคืน) ปางป่าเลไลยก์
วันพฤหัสบดี ปางสมาธิ
วันศุกร์ ปางรำพึง
วันเสาร์ ปางนาคปรกพ
สรุป การสร้างพระพุทธรูปทั้งในอดีตและปัจจุบันนั้น เกิดจากการเลื่อมใสในพระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้มีการสักการะบูชาพระพุทธรูป ซึ่งเป็นรูปเคารพ แทนพระพุทธองค์ คนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ จะกราบไหว้ สักการะบูชา และน้อมระลึกถึงพระธรรมคำสอน เพื่อนำไปประพฤติปฏิบัติ ซึ่งเป็นหนทางแห่งความดับทุกข์
พระพุทธรูป พุทธศิลป์สูงค่าสัญญลักษณ์ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เราชาวพุทธทุกคนกราบไหว้บูชา เป็นเสมือนเครื่องเตือนใจให้ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมอันดีงามเฉกเช่นพระพุทธองค์ สาธุ สาธุ สาธุ
บรรณานุกรม
นิธิ เอียวศรี. (2546). “อานิสงส์ของการสร้างพระพุทธรูป.” ศิลปวัฒนธรรม. 24, 9 (กรกฏาคม): 64-69.
ศักดิชัย สายสิงห์. (2554). พระพุทธรูปสำคัญและพุทธศิลป์ในดินแดนไทย. กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ.
ศักดิ์ชัย สายสิงห์. (2556). พระพุทธศิลป์สมัยรัตนโกสินทร์ พัฒนาการของงานช่างและแนวคิดที่ปรับเปลี่ยน. กรุงเทพฯ: เมือง
โบราณ.
ศักดิ์ชัย สายสิงห์ และ ไพฑูรย์ พงศะบุตร. (2550). “พระพุทธรูป.” สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนโดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉบับเสริมการเรียนรู้ 8: 7-87.