ฝึกปฏิบัติธรรมเมื่อมีโอกาส

เมื่อหลายปีก่อนดิฉันมักได้ยินแต่คำพูดที่ว่า สวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกรม ปฏิบัติธรรม  แต่ดิฉันไม่เคยสนใจ เป็นเรื่องไกลตัว ไม่เคยใส่ใจ เข้าหุูซ้ายทะลุหูขวา จนวันหนึ่งเมื่อประมาณ 2-3 ปี ที่ผ่านมา มีเพื่อนชวนไปปฏิบัติธรรม รู้สึกเริ่มสนใจแต่ยังไม่สะดวกค้างคืน เนื่องจากเป็นคนกลัวผีมาก ๆ  จึงไม่ค่อยกล้าไปปฏิบัติธรรมแบบค้างคืนที่วัด  จึงสอบถามเพื่อนว่ามีฝึกปฏิบัติแบบกลางวันไหม เอาแบบสะดวกเราไปเช้า-เย็นกลับมีไหม  ปรากฎว่ามีจริง ๆ  คือ ที่วัดสระกระเทียม โดยท่านเจ้าอาวาสมีแนวคิดว่า จัดโครงการนี้ขึ้นมาในทุกวันอาทิตย์เพื่อให้คนในวัยทำงานได้มีโอกาสเข้ามาทำบุญที่วัด โดยในช่วงเช้าจะเป็นการใส่บาตร  ฟังเทศน์ ฟังธรรม ถวายสังฆทาน รับศีลรับพร แผ่เมตตา หลังจากนี้ จะเป็นการช่วยทำวัตร  เช็ดถูโต๊ะ ล้างจานชาม ล้างห้องน้ำ กวาดลานวัด ฯลฯ พอช่วงเวลาเที่ยงครึ่ง ท่านเจ้าอาวาสก็จะมาฝึกปฏิบัติธรรมให้ โดยมีกิจกรรมการสวดมนต์ นั่งสมาธิ เดินจงกลมและแผ่เมตตา จนถึงเวลาประมาณ บ่ายสามโมงครึ่งเป็นอันเสร็จภารกิจการปฏิบัติธรรม  เพื่อน ๆ มักโทรศัพท์มาชวนดิฉันมาปฏิบัติธรรมที่วัดนี้อยู่เป็นประจำเมื่อมีโอกาส  ครั้งแรกที่ได้มาฝึกปฏิบัติธรรม รุู้สึกอึดอัด ทรมานกับสังขารเป็นอย่างมาก คือ ร้อน เป็นเหน็บชา ง่วงหลับ สัปหงก กระสับกระส่าย หลากหลายอาการที่เกิดขึ้น แต่เมื่อมีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อ ๆ ไป ปรากฎว่า ดิฉันสามารถฝึกได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ รู้สึกมีความภาคภูมิใจที่สามารถเอาชนะใจตนเองได้ การฝึกปฏิบัติธรรมให้อะไรมากกว่าที่คิด หลังจากการฝึกปฏิบัติธรรม รู้สึกว่าชีวิตมีความสงบสุข มีสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต ได้พบกัลยาณมิตรที่ดี  เป็นต้น

สรุปว่า การปฏิบัติธรรมมีทั้งได้และเสีย  ได้ หมายถึง “การเพิ่ม”  เพิ่มศีล สมาธิ และปัญญา  เสีย หมายถึง “การลด” ลดกิเลส ตัณหา และราคะ ทำให้เรารู้จักความพอดี พอประมาณ เดินทางสายกลางแบบไม่ประมาทกับชีวิต ในอนาคตดิฉันตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องไปปฏิบัติธรรมแบบค้างคืนที่วัดให้จงได้  เพื่อน ๆ ท่านใดสนใจจะไปทดลองฝึกปฏิบัติธรรมด้วยกัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้นะคะ