อ่านหนังสือ เรื่อง พาแม่เที่ยวอินเดีย

หนังสือพาแม่เที่ยวอินเดีย ข้าพเจ้าขอยืมมาจากเพื่อนที่ไปอินเดีย พร้อมลูกชาย

ผู้เขียน : พระมหาพัน สุภาจาโร (แตะกระโทก)

isbn : 9789748819174

ข้าพเจ้าอ่านแล้วมีความสนใจ และศรัทธา  ชอบ พาแม่ไปเที่ยว และให้ผู้อื่นได้อ่านด้วย  ในส่วนตัวแล้วข้าพเจ้าคงไม่มีโอกาส ได้ไปอินเดีย เนื่องจากมีค่าใช้จ่าย ในการเดินทางสูงพอสมควร เกินกำลังของข้าพเจ้า

เนื้อหาของหนังสือ “พาแม่เที่ยวดินเดีย” เป็นหนังสือที่พระมหาพัน  เขียนขึ้นมาเพื่อต้องการตอบแทนพระคุณแม่ (แม่ชื่อช้าง) ท่านเล่าว่า  เมื่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านปราถนาจะไปเที่ยวอินเดียมาก  แต่พระท่านไม่สามารถทำความฝันของแม่ให้เป็นจริงได้ จึงถือโอกาสก่อนที่จะทำฌาปนกิจเผาร่างของแม่จึงได้รวบรวมเรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับพุทธสถาน และเรื่องที่ได้ประสบพบเห็นที่อินเดียประหนึ่งว่านำแม่ไปเที่ยวอินเดียพร้อมกับคณะนี้ด้วย พร้อมทั้งบรรยายเชิงพุทธประวัติผนวกกับเหตุการณ์ปัจจุบันให้ดูเหมือนกับแม่และท่านผู้อ่านอยู่กับเหตุการณ์นี้ด้วย

เรื่องมีอยู่ว่า

เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๘ ผู้เขียน ได้มีโอกาสไปศึกษาต่าอที่ประเทศอินเดีย และได้ไปนมัสการสังเวชนียสถานต่างๆ  เกิดความคิดถึงผู้มีพระคุณทั้งสอง ต้องการให้ท่านได้มีโอกาสมาไหว้พระตามรอยบาทพระศาสดาเหมือนกับที่เรากำลังทำอยู่ในขณะนี้ เมื่อกลับเมืองไทยก็จะนำเรื่องราวต่างๆ มาเล่าสู่ท่านฟังเสมอ  ข้าพเจ้าพยายามเก็บเงินบางส่วนที่เหลือจากการจ่ายค่าเล่าเรียนเพื่อที่จะนำท่านทั้งสองไปอินเดีย

ในปี พ.ศ. ๒๕๔๔  ข้าพเจ้ามีเงินพอสำหรับที่จะนำท่านไปอินเดียได้ แต่ก็มีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนนั้น ซึ่งข้าพเจ้าใช้เวลาเก็บรวบรวมมาเป็นเวลาหลายปี คือ ในปีนี้เองบ้านได้ถูกพายุลมฝนพัดหลังคาบ้านพังหมดจึงถามท่านว่า “เงินก้อนนี้จะเที่ยวอินเดียหรือว่าจะทำที่อยู่อาศัย” ท่านตอบว่า “ทำที่อยู่อาศัยก่อนเถอะ จะได้นอนหลับสบาย ถ้าไปเที่ยวอินเดียกลับมาไม่มีที่พักก็ลำบาก จึงตัดสินใจนำเงินจำนวนนั้นมาปลูกบ้านให้ท่านทั้งสองอยู่ก่อน ข้าพเจ้าต้องเริ่มต้นเก็บเงินใหม่เพื่อที่จะไ้นำท่านไปอินเดียอีกครั้ง

ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ข้าพเจ้าก็มีเงินพอ ที่จะนำท่านไปได้ จึงบอกท่านว่าปีนี้จะนำท่านไปอินเดีย กลับจากอเมริกาแล้วจะพาไปทำหนังสือเดินทาง (ข้าพเจ้าอยู่อเมริกา ๔ เดิอน)

เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น วันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ พ่อของข้าพเจ้าได้เสียชีวิตลง ยังให้ข้าพเจ้าต้องกลับเมืองไทยด่วนเพื่อมาทำฌาปนกิจศพพ่อ ในวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ หลังจากทำงานเผมศพของพ่อเสร็จได้หนึ่งอาทิตย์ ข้าพเจ้าก็นำแม่ไปทำหนังสือเดินทาง คิดว่าประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ นี้ จะพาแม่ไปอินเดีย

เพราะเดือนธันวาคม และมกราคมนี้ที่อินเดียหนาวมาก หลายคนคิดว่าไม่ควรพาท่านไปช่วงอากาศหนาว เดี๋ยวท่านจะไม่สบาย เพราะแม่อายุมากแล้ว (อายุย่างเข้า ๘๐ ปี) คงทนความหนาวไม่ไหว จึงบอกแม่ว่า”ประมาณเดือนกุมภาพันธ์นะ ผมจะพาแม่ไปอินเดีย” แม่พูดทั้งรอยยิ้มว่า “ไปเมื่อไหร่ก็ได้ถ้าลูกสะดวก” ข้าพเจ้าได้เตรียมการก่อนนำแม่ไปอินเดียได้พาท่านไปซื้อเสื้อผ้ากันหนาวและของใช้ที่จำเป็นสำหรับไปใช้ที่อินเดีย ดูแม่มีความสุขมาก แม่ต้องการจะทานอะไรไปที่ไหน แม้ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ก็แม่ก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิตของท่าน

ข้าพเจ้าได้พาท่านไปเที่ยวชมก่อนที่จะเดินทางไปอินเดีย เพื่อนบ้านทราบท่านจะเดินทางไปอินเดีย เมื่อผ่านมาทางบ้านก็จะถามว่า “ป้าช้าง ”  “ยายช้าง” จะไปอินเดียเมื่อไร อย่าลืมซื้อของมาฝากด้วยนะ แม่จะตอบพร้อมรอยยิ้มว่า ไม่รู้ดอกว่า พระจะนำไปวันไหน พระไปวันไหนก็ไปวันนั้นแหละ บ้างก็ล้อเล่นว่า ป้านี่มีบุญนะจะได้ขึ้นเครื่องบินแล้ว รู้สึกอย่างไรแล้วบอกด้วยนะป้า  ข้าพเจ้าสังเกตเห็นแม่ยิ้มอย่างมีความสุข

แล้วเหตุการณ์ทีไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับข้าพเจ้าอีกครั้งในวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๔๘ แม่เข้าไปเก็บพริกในสวนได้หกล้ม สมองของแม่ได้รับการกระทบกระเทือน ลูกๆ ได้นำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่อาการของแม่ไม่ดีขึ้นน ในที่สุด เมื่อเวลา ๑๓.00 น. ของวันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๔๙ แม่ก็มาจากลูกไปด้วยอาการอันสงบ ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจมาก และหมดโอกาสที่จะพาแม่ไปเที่ยวอินเดียได้ขณะที่ท่านยังมีลมหายใจอยู่ นี่คือแรงบันดาลใจให้ข้าพเจ้าต้องนำเรื่องพาแม่เที่ยวอินเดียมาพิมพ์แจกในงานฌาปนกิจคุณแม่ ในวันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ ข้าาพเจ้าได้บรรยายในลักษณะเหมือนกับว่านำแม่ไปในเหตุการณ์ต่างๆ ในสถานที่ต่างๆ ด้วยกัน

ท่านผู้อ่านเรื่องนี้แล้ว ให้รีบทำความดีและตอบแทนคุณพ่อ แม่เสียก่อนที่ท่านจะจากเราไปโดยไม่มีวันกลับมาเสียแต่วันนี้อย่าได้ผลัดวัน ประกันพุ่งเดี๋ยวจะเป็นเหมือนข้าพเจ้าในขณะนี้

ด้วยอำนาจบุญกุศล และคุณงามความดีต่าง ๆ ที่ลูกได้กระทำในครั้งนี้ จงแผ่ไปถึงคุณพ่อ คุณแม่ที่ล่วงลับไปแล้วและผู้ที่มีพระคุณทุกท่าน จงมีส่วนแห่งบุญนี้ด้วยกันทุกท่าน

หน้าสารบัญ

  • กรุงเทพฯ – พุทธคยา (อินเดีย)
  • มณฑลพุทธคยา
  • พุทธคยา – สารนาถ
  • พาราณสี – สาวัตถี
  • สาวัตรถี – ลุมพินี  (เนปาล)
  • ลุมพีนี- กุสินารา (อินเดีย)
  • กุสินารา – ไวสาลี
  • ปาฎลีบุตร – นาลันทา – ราชคฤห์
  • นาลันทา – พุทธคยา
  • นิคมวจนะ

พระท่านเล่าเรื่องราว และเหตุการณ์สำคัญๆ อย่างละเอียดทำให้ เห็นภาพเหมือนเดินทางไปกับท่านด้วย

สิ่งที่ได้จากการอ่าน คือ ความสุข ทราบเรื่องราวของพระพุทธศาสนา และข้อธรรมคำสอนขององค์พระศาสดา ทำให้เราเกิดศรัทธา และประพฤติ แล้วนำไปปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์

คำสอนของพระพุทธองค์ หัวข้อธรรม มีใจความว่า

” เย ธมฺมา เหตุปฺปภวา เตสํ   เหตุํ ตถาคโต เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํวาที มหาสมโณฯ”  แปลความว่า ธรรมเหล่าใด มีเหตุเป็นแดนเกิด (เกิดแต่เหตุ) พระตถาคตเจ้า ทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้นและความดับแห่งธรรมเหล่านั้นพระมหาสมณะ ตรัสอย่างนี้)

อุปติสสะ เพียงได้ฟังหัวข้อธรรมนี้ จากพระเถระเท่านั้นก็สำเร็จเป็นพระโสดาบัน เกิดธรรมจักษุ คือ ดวงตาเห็นธรรมว่า

“สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับเป็นธรรมดา”

สาธุ สาธุ สาธุ