สังคมใหม่จากการขายต้นไม้ออนไลน์

จากการโพสต์ขายต้นออนไลน์ของดิฉัน  ในแต่ละรอบการขายจะมีลูกค้าหลากหลายจากทั่วประเทศเข้ามาซื้อ ส่วนใหญ่จะเป็นการแพคส่งไปรษณีย์ จนกระทั่งมีลูกค้าหญิงรายหนึ่งอายุ 72 ปี ในครั้งแรกได้ซื้อต้นไม้ประมาณ 4 ต้น ค่าต้นไม้ประมาณ 5000-6000 บาท + ค่าจัดส่งตามจริง เป็นการส่งไปรษณีย์เช่นกัน ซึ่งลูกค้าได้แจ้งว่าจะขอโอนตอนสาย ๆ  เนื่องจากตนเองตื่นประมาณ 10 โมง ตนเองไม่ทำธุรกรรมเอง โดยจะเอาเงินสดให้แม่บ้าน (คนรับใช้) เป็นผู้ทำธุรกรรมแทนตนเอง โดยลูกค้าได้โทรศัพท์มาสนทนาสอบถามดังนี้

ลูกค้า :  จะทราบได้อย่างไรว่าค่าจัดส่งเ่ท่าไร

ดิฉัน :  ดิฉันจะส่งสินค้าก่อนแล้วจะแจ้งหลักฐานการจัดส่งไปให้พร้อมแจ้งยอดค่าสินค้า+ค่าขนส่ง

ลูกค้า :  ส่งมาก่อน ไม่กลัวลูกค้าโกงหรือคะ?

ดิฉัน :  ไม่กลัวค่ะ เพราะเราคิดดี ทำดี ต้องได้ดี ใครอยากโกงก็แล้วแต่เค้า แต่เราเชื่อใจลูกค้าทุกคน

ลูกค้า : ดีจังเลย เราไม่เคยเจอแม่ค้าแบบนี้  เพราะส่วนใหญ่จะให้โอนทันทีภายในกี่นาที กี่ชั่วโมง มิฉะนั้น จะตัดสิทธิ์ทันที  แต่เราก็เข้าใจเค้านะ เค้าไม่รู้จักเรา เค้าก็ไม่วางใจเรา

ดิฉัน : มีลูกค้าประเภทจองแล้วไม่โอนเยอะเหมือนกันนะคะ ก็เข้าใจแม่ค้ามืออาชีพนะคะ เพราะเขาต้องการความแน่นอน หากไม่รับเค้าจะนำไปโพสต์ขายคนอื่นได้  และดิฉันก็เข้าใจลูกค้าเช่นกันเพราะปัจจุบันก็ทำงานบริการอยู่ งานขายต้นไม้นี้เป็นเพียงงานอดิเรก จึงไม่ซีเรียสมากค่ะ

ในคืนนี้ได้สนทนากับลูกค้ารายนี้หลายชั่วโมงจนกระทั่งตีสาม ลูกค้าได้เล่าประสบการณ์ชีวิตส่วนตัวอันหรูหราให้ดิฉันฟังมากมาย เช่น ที่บ้านมีเนื้อที่ใหญ่มากเกือบ 20 ไร่ มีคนรับใช้ประมาณ 10 คน มีคนสวน 10 กว่าคน คนขับรถฯ บินไปฉีดโกรทฮอร์โมนเข็มละ 1 ล้านบาท ที่เยอรมันทุกปี แต่ปีนี้คงไปไม่ได้เพราะติดโควิด-19 ด้วยความที่บ้านมีแลนด์สเคปที่ค่อนข้างใหญ่  ดังนั้น  ต้นไม้ที่จะเอามาปลูกในบริเวณบ้านจึงเน้นเฉพาะต้นใหญ่ ๆ เพราะเล็ก ๆ ไม่เหมาะสมและไม่มีที่จะวางแล้ว  เมื่อได้ฟังดิฉันแอบคิดไม่ได้ว่า ลูกค้าพูดจริงหรือเปล่านะ แล้วทำไมต้องมาเล่ารายละเอียดให้เราฟังมากมาย แต่ดิฉันก็ฟังแบบตั้งใจไม่ได้ขัดใด ๆ หลังจากนี้เราก็ได้คุยกันอีกหลายคืน แต่ลูกค้าก็ไม่เคยบอกว่าตนเองเป็นใคร แต่ดิฉันทราบว่าลูกค้ารายนี้ต้องการสินค้าแบบใด

จนกระทั่งวันหนึ่งดิฉันหาต้นไม้ใหญ่ที่ลูกค้าต้องการได้ จึงได้นำเสนอลูกค้ารายนี้ คือ เศรษฐีวิลสันด่าง อายุประมาณ 10 ปี ราคาขาย 8500 บาท พร้อมนำส่งถึงบ้านที่เขาใหญ่ ลูกค้าตอบตกลง หลังจากนี้ดิฉันได้วางแผนการแพคต้นไม้และนัดวันเดินทางเพื่อไปส่งต้นไม้ถึงหน้าบ้าน เนื่องจากต้นไม้ใหญ่ไม่สามารถส่งไปรษณีย์ได้  ลูกค้าได้ส่งข้อความมาแจ้ง location พร้อมส่งเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวให้ ทั้ง ๆ ที่ลูกค้าเคยบอกว่าเราไม่เปิดเผยตัวตน ไม่ทำธุรกรรมออนไลน์ ไม่เคยให้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวกับใคร ปกติจะให้เบอร์คนขับรถ โดยให้เจรจาผ่านคนขับรถเท่านั้น  ทันทีที่ได้รับเบอร์โทรศัพท์จากลูกค้าก็รู้สึกประทับใจว่าเราได้รับความไว้วางใจใช่ไหม?  เนื่องจากลูกค้าเคยบอกเสมอว่า ไม่เคยให้เบอร์ใคร ไม่ชอบให้ใครเรียกว่าพี่ ป้า น้า อา เพราะไม่ใช่ญาติของคนเรียก  ไม่ชอบให้ใครเรียกแม่ เพราะตนเองไม่เคยมีบุตร ไม่เคยรับรู้ความเป็นแม่ นอกจากนี้ ยังไม่ชอบอื่น ๆ อีกมากมายที่บรรยายให้ดิฉันฟัง

ทันทีที่ดิฉันและสามีเดินทางไปถึงบ้านลูกค้า ประมาณ 11.00 น. ได้โทรศัพท์ไปแจ้งลูกค้าว่าอีก 2 กม. จะถึงหน้าบ้าน ลูกค้าก็ส่งคนสวนลงมารอเปิดประตู ในตอนแรกที่เห็นจากภายนอกก็เข้าใจว่าเป็นบ้านเศรษฐีปกติ แต่เมื่อเข้าไปถึงบ้านนำต้นไม่ลงจากรถก็รู้สึกตกใจถึงความอลังการของบ้าน ยืนรอสักพักลูกค้าซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเดินออกมาต้อนรับ ได้ยินคนสวนเรียกว่านาย/คุณนาย/คุณท่าน ประมาณนี้ และลูกค้าก็เชิญให้เราเข้าไปยังห้องรับแขกที่ยื่นไปในภูเขา โอบล้อมด้วยเขาใหญ่ บรรยากาศเย็นสบายมาก ๆ  ลูกค้าให้แม่บ้านจัดเตรียมน้ำ/ของว่างไว้บนโต๊ะ เป็นฝรั่งสวนคุณยาย ซึ่งมีชื่อเสียงและราคาสูงมาก ๆ ในย่านนี้  ในระหว่างนั่งดิฉันแอบเกร็งนั่งไม่เต็มเก้าอี้รับแขก และแอบมองไปข้างหน้า/ข้างซ้าย/ข้างขวา คือ ภูเขาทั้่งนั้น ลูกค้าจึงได้พาเดินชม พร้อมอธิบายว่าเขาที่เห็นข้างหน้า คือ โบนันซ่า เขาใหญ่  ตัวบ้านอยู่สูงมาก มีสระว่ายน้ำยื่นออกไป บรรยากาศเหมือนกับการว่ายน้ำในท่ามกลางภูเขา ลูกค้าอธิบายต้นไม้แทบทุกต้นที่ซื้อมาพร้อมราคา หลังจากนั้น เราก็มานั่งสนทนาที่โต๊ะรับแขกอีกประมาณ 3-4 ชั่วโมง ลูกค้าได้เปิดเผยว่าตนเองเป็นภรรยาของเจ้าของบริษัทก่อสร้างชื่อดังระดับประเทศ ดิฉันและสามีก็รู้สึกตกใจ เพราะรู้จักชื่อเสียงของบริษัทนี้  หลังจากที่สนทนาจนเกือบค่ำจึงได้ขอตัวลากลับก่อนเนื่องจากจะต้องเดินทางไปหาเพื่อนที่โคราชต่อ แต่ปรากฎว่าหลังจากที่ลากลับ ลูกค้าก็ลุกพาออกมาเหมือนจะส่งกลับ แต่กลายเป็นนำชมห้องพระพร้อมอธิบายรายละเอียด คำนวณราคาแล้วห้องพระน่าจะประมาณ 3-5  ล้านบาท และเมื่อออกจากห้องพระก็นำชมไปยังหน้าบ้านห้องรับแขก ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องแต่งตัว  ฯลฯ สรุป ราคาแล้วบ้านหลังนี้น่าจะราคาหลายร้อยล้านบาท  ก่อนกลับยังได้นำน้องแมวมาให้เล่น เป็นแมวพันธุ์โคราชที่ลูกค้าเลี้ยงเหมือนลูกตามที่เคยสนทนากันทางโทรศัพท์ หลังจากนี้ ได้ลากลับประมาณ 17.00 น. ลูกค้าได้สั่งให้แม่บ้านนำฝรั่งพร้อมพริกเกลือมอบให้กลับมาทานบนรถอีกด้วย ก่อนจากกันก็ได้สวัสดีพร้อมกล่าวลาลูกค้ารับไหว้พร้อมกับบอกว่า “ว่างก็แวะมาเที่ยวอีกนะ”

ในวันนั้น ระหว่างขับรถเดินทางกลับบ้านดิฉันและสามีรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากลูกค้ารายนี้ ในตอนแรกเข้าใจว่า เราก็เป็นเพียงคนมาส่งต้นไม้ก็เหมือนคนส่งของทั่ว ๆ ไป ท่านไม่จำเป็นต้องออกมาต้อนรับเราแบบนี้ก็ได้  ทันทีที่เดินทางกลับถึงบ้านดิฉันก็ได้ส่งข้อความถึงลูกค้ารายนี้ว่า  รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รู้จักคุณท่าน ดิฉันและสามีขอกราบขอบพระคุณที่ท่านได้ให้ความไว้วางใจและให้เกียรตินำชมบ้าน หลังจากนี้ ดิฉันได้มีการเดินทางไปส่งต้นไม้อีกครั้งหนึ่ง เป็นต้นไม้ที่ลูกค้าช่วยซื้อเนื่องจากดิฉันขายแบบไม่เอากำไร คิดเพียงค่าจัดส่งเพราะต้นใหญ่มาก ใบบอบบางมาก หากขายคนอื่นไม่สามารถจะจัดส่ง ปณ. ได้ และรอบนี้ดิฉันได้ซื้อต้นไม้สวย ๆ ต้นหนึ่งไปฝากลูกค้าด้วย และสามีได้นำหลวงพ่อวัดไร่ขิงไปมอบให้ท่านด้วย  เดินทางไปถึงบ้านท่านประมาณบ่ายโมง ท่านออกมาให้การต้อนรับเป็นอย่างดีเช่นกัน และในวันนี้ เราทั้งคู่จึงได้เรียกท่านว่า “คุณท่าน” ตลอดการสนทนา จนกระทั่งขอตัวกลับในเวลาประมาณเกือบ 6 โมงเย็น ก่อนกลับท่านเรียกให้ไปรับต้นไม้ที่ตั้งใจมอบให้หลายต้นซึ่งราคาหลายพันบาท  ในตอนท้ายก่อนกลับท่านได้เรียกชื่อดิฉันว่า “หนิง” ให้มาทางที่ท่านยืนเพื่อจะให้ดูต้นไม้  คาดว่าท่านจะจำมาจากที่สามีเรียกชื่อดิฉันให้ท่านได้ยิน และท่านได้ขอให้เราทั้งสองอย่าเรียกท่านว่า “คุณท่าน” อีก แต่ดิฉันก็ทำเป็นไม่ได้ยินและยังคงเรียกอยู่อย่างนั้นเพราะเกร็งไม่รู้ว่าเรียกอย่างไรจึงจะเหมาะสมและถูกใจ หลังจากเดินทางกลับ ดิฉันจึงได้ส่งข้อความไปแจ้งว่าเดินทางถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว ท่านก็รับทราบ พร้อมส่งข้อความมาอีกว่าคราวหลังอย่าเรียกว่า “คุณท่าน” อีกนะ ดิฉันจึงรับปากและได้ส่งข้อความกลับไปสอบถามว่า “ขอเรียนถามว่าจะให้เรียกคุณท่านว่าอะไรดีจึงจะเหมาะสมนะคะ” ท่านก็เงียบไม่ตอบกลับ ดิฉันจึงส่งไปว่า “ขออนุญาตเรียกว่าคุณอาจะได้ไหมคะ” ท่านก็ตอบกลับมาทันทีว่า “ได้นะ” ดิฉันรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากในครั้งแรกที่รู้จักกันลูกค้าจะบอกว่าไม่ชอบให้ใครมาเรียก พี่ ป้า น้า อา เพราะไม่ใช่ญาติ แต่ในวันนี้ อนุญาตให้เราเรียกว่า “อา” ได้  ดิฉันรู้สึกดีใจที่ได้กัลยาณมิตรที่ดีนับเป็นอานิสงส์จากการขายต้นไม้ออนไลน์ ในการขายบางครั้งได้กำไร บางครั้งไม่ได้กำไร แต่ได้มิตรภาพและกัลยาณมิตรที่ดีก็เพียงพอสำหรับดิฉันแล้ว

ปล. ทุกครั้งที่เดินทางไปอยากเก็บภาพบรรยากาศ แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะเราต้องให้เกียรติเจ้าของบ้าน จึงได้แต่เก็บไว้ในความทรงจำ