ต้นตาลนับเป็นต้นไม้ที่เป็นสัญญลักษณ์ของจังหวัดเพชรบุรี เพราะเมื่อเดินทางผ่านจังหวัดเพชรบุรี ภาพที่คุ้นเคยก็จะทุ่งนาเขียวขจีที่มีต้นตาลขึ้นอยู่เรียงรายทั้งต้นใหญ่ต้นเล็กทั่วบริเวณ 2 ข้างทาง และผลิตผลจากต้นตาลโดยเฉพาะน้ำตาลโตนดยังเป็นส่วนผสมที่สำคัญในการทำขนมหวานเมืองเพชร ที่มีชื่อเสียงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และปัจจุบันต้นตาลของเมืองเพชรบุรีมีจำนวนลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากต้นตาลนั้นเป็นต้นไม้ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ทำให้ชาวบ้านหันมาตัดต้นตาลขายเพิ่มรายได้มากยิ่งขึ้น ตลอดจนไม่มีใครคิดที่จะอนุรักษ์ต้นตาลที่เป็นต้นไม้คู่เมืองเพชรบุรีให้คงอยู่ดังเดิม ต้นตาลมีประโยชน์มากมายมหาศาล เริ่มตั้งแต่ ราก ลำต้น ใบ ดอก ผล ไม่มีส่วนไหนต้องทิ้งเสียประโยชน์ วันนี้จะมาพูดส่วนที่ใช้ทำขนมจากตาล ลูกตาลเมื่อยังอ่อนอยู่นำมาเป็นของคาวทำกับข้าวที่เรียกว่าแกงหัวตาลส่วนมากแกงนี้มีที่จังหวัดเพชรบุรี บางคนจึงไม่รู้จักแกงหัวตาลนี้ ในลูกตาล 1 ลูก จะมีผลตาลลูกเล็กๆอีก 3-4 ลูกผลนี้ใช้ทำลูกตาลลอยแก้ว ถ้าปล่อยให้ลูกตาลแก่ก็จะนำไปทำขนมตาล ส่วนที่เหลือจะนำไปเพาะให้ออกราก เมื่อได้ที่แล้ว เรียกจาวตาล คือส่วนที่นำมาเชื่อมเมื่อเชื่อมเสร็จแล้วจะมีลักษณะใสๆ เกิดจากน้ำตาลซึมเข้า ใช้เป็นส่วนประกอบของขนม ข้าวเหนียวหน้าโตนด จะมีมะพร้าวและงาโรยหน้า (มีที่ เพชรบุรี) คล้ายกับข้าวเหนียวสังขยา แต่ใช้ลูกตาลเชื่อมแทน และส่วนของจาวตาลเชื่อมนี้ยังใช้ทำขนมที่อร่อยอีกอย่างหนึ่งคือ ลูกตาลทอดแต่คนเพขรบุรีเรียก โตนดทอด ขอบอกว่ามีเฉพาะหน้าทอดกฐินเพราะจาวตาล แก่ สุก นำมาเพาะ ให้ออกเนื้อใน ใช้เวลาน่าจะประมาณ 3 เดือน ดังนั้นตามตลาดหรืองานกฐินก็จะมีลูกตาลทอดช่วงนี้ มาดูวิธีทำลูกตาลทอด หรือโตนดทอด ขนมโบราณ คู่บ้านคู่เมืองเพชรบุรี
นำจาวตาลที่เชื่อมแล้วจะเชื่อมด้วยน้ำตาลทราย หรือน้ำตาลโตนดก็ได้ ส่วนผสมประกอบด้วย
1. แป้งข้าวเหนียว
2. กระทิ
3. น้ำตาลโตนด
นำแป้งข้าวเหนียว กระทิ และน้ำตาลโตนด ผสมให้เข้ากัน โดยนวดไปเรื่อย ๆ ค่อย ๆ เติมหางกะทิที่คั้นไว้ ค่อย ๆ ใส่ลงไป นวดให้ได้ที่ ไม่เหลวมากหรือข้นจนเกินไป ได้ที่แล้วพักไว้ นำจาวตาลเชื่อมมาผ่าครึ่ง ผ่าแล้วใส่ลงไปในแป้งที่เรานวดไว้ ตั้งกระทะให้น้ำมันท่วม รอกระทะร้อน แล้วหย่อนจาวตาลเชื่อมที่ชุบแป้งแล้วลงไปทอดได้เลย รอให้แป้งสุกจะมีสีเหลืองกรอบนอกนุ่มใน สุกใหม่ๆ จะอร่อยมากเพราะกรอบ ทิ้งไว้นานความกรอบจะลดลง