หนังสือที่ฉันจะหยิบขึ้นมาอ่านอีกครั้งในวันเกิดปีที่ 48 หากมีโอกาสอยู่ถึงอายุเท่านั้นน่ะนะ

ระหว่างการวางแผนเที่ยวต่างจังหวัดกับการคิดว่ากลับบ้านไปจะอ่านหนังสือเล่มไหน จะดูซีรีส์เรื่องอะไรดี อย่างหลังเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันตื่นเต้นมากกว่า

สถานที่ที่สวยงาม การท่องเที่ยวดื่มด่ำธรรมชาติ การเชยชมสิ่งงดงามด้านนอก สิ่งเหล่านั้นก็สามารถสร้างความสุขให้กับฉันได้เช่นกัน แต่หากต้องมีการเปรียบเทียบ ให้เลือกระหว่างการออกไปข้างนอก กับการทำงานอดิเรกที่ห้อง ฉันมักจะเลือกอย่างหลังเสมอ

การตื่นเช้า ไปทำงาน ทานข้าวกลางวัน ทำงานอีกครั้ง กลับบ้าน ทานข้าวเย็น และเข้านอน มันอาจจะเป็นกิจวัตรที่ช่างน่าเบื่อหน่าย เมื่อไหร่จะถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ให้ได้ออกไปเที่ยว เมื่อไหร่จะถึงทริปที่ได้ไปสถานที่ในฝัน แต่สำหรับคนติดบ้านอย่างเราแล้ว การได้ใช้ชีวิตวนลูปแบบนั้น โดยมีจุดจบของทุกคืนก่อนนอนคือบ้าน เป็นเรื่องธรรมดาที่สบายใจที่สุด

หนังสือเล่มนี้ “ติดบ้าน” ดึงดูดความสนใจของฉันตั้งแต่ชื่อเรื่องและหน้าปก รวมถึงความบางของเนื้อหาที่มีเพียง 158 หน้า ฉันยิ้มทันทีที่เห็นองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบเหล่านั้น หนังสือของคนติดบ้านจะมีอะไรให้พูดถึงมากไปกว่า 158 หน้านี้ล่ะ เท่านี้กำลังพอดิบพอดีแล้ว

ฉันชอบอ่านหนังสือหลากหลายประเภท วรรณกรรมเเยาวชนที่เปี่ยมไปด้วยความสดใส นิยายแฟนตาซีที่ตื่นเต้น หรือนิยายรักที่ทำให้หัวใจเต้นแรง

แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งแต่ตอนไหนที่ฉันชอบอ่านสิ่งที่ทำให้ตัวเองรู้สึกสงบมากที่สุด

ติดบ้านเป็นหนังสือที่ฉันอ่านแล้วรู้สึกแบบนั้น ฉันสงบ

เพราะว่าตอนนี้ฉันเพิ่งอายุ 25 ปี ฉันอาจจะยังไม่เข้าใจความเปล่าเปลี่ยวของสาววัย 48 ที่ผ่านการแต่งงาน การมีลูก การหย่าร้าง

ถึงอย่างนั้นฉันก็เข้าใจการอาศัยอยู่คนเดียวในบ้านดี

หนังสือเล่มนี้เล่าถึงหญิงสาววัย 48 ปี ผู้ซึ่งเลิกรากับสามี และมีลูกสาวที่ออกไปเผชิญสู่โลกกว้าง เธอย้ายที่อยู่อาศัยมาอยู่คนเดียวที่บ้านแถบชนบทติดทะเล และทำงานอยู่ในร้านของพี่ชาย เธอมีชีวิตประจำวันที่ซ้ำไปซ้ำมา แต่เธอพึงพอใจกับชีวิตของเธอเหลือเกิน

การเล่าเรื่องเป็นไปอย่างราบเรียบ มันอาจจะดูเอื่อยเฉื่อยไปสักนิด แต่ฉันรู้สึกสงบ สงบจนรู้สึกว่ามันสนุก

ฉันเชื่อเลยว่าฉันจะเป็นเหมือนเธอในวันที่ฉันอายุมากขึ้น ผ่านโลกมานานถึง 48 ปี และได้ใช้ชีวิตคนเดียว กับกิจวัตรประจำวันเดิม ๆ ฉันหลงใหลชีวิตแบบนั้นเหลือเกิน ชีวิตแบบเธอ ที่ไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรแล้ว

แค่เพราะว่าเช้าวันใหม่ยังต้องตื่นไปใช้ชีวิต ฉันจะใช้ชีวิตอย่างสงบ และเข้านอนในพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง

ถึงอย่างนั้นหนังสือเล่มนี้ก็มีอะไรมากกว่านั้น แน่นอนล่ะ หญิงสาววัย 48 ปี ที่ยังต้องใช้ชีวิตต่อไปในทุกวันก็คงได้พบเจอผู้คนใหม่ ๆ บ้าง ดึงดูดใครสักคนที่พูดคุยกันถูกคอ และไม่ตัดสินในความสงบและการติดบ้านแบบที่เราเป็น

“ฉันไม่เคยประสบเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนในชีวิต ความรัก ความอ่อนโยน มันยากนะ แต่ฉันก็ดีใจที่ยังมีโอกาสได้รู้สึกอะไรแบบนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะจบลง ฉันรู้สึกขอบคุณจริง ๆ นะ” (หน้า 62)

สำหรับฉันแล้วหนังสือเล่มนี้มอบหลายอย่างให้กับฉัน ความรู้สึกหลังอ่านจบมันตีกันยุ่งเหยิงไปหมด น่าแปลกที่ระหว่างอ่านรู้สึกสงบ แต่เมื่ออ่านจบแล้วกลับมีความรู้สึกมากมายตีกันอยู่ในหัว สุดท้ายแล้วฉันก็ได้ข้อสรุปว่าฉันชื่นชอบหนังสือเล่มนี้มาก

หนังสือที่แสนเอื่อยเฉื่อยเล่มนี้ ทำให้ฉันรู้สึกสดใสเหมือนตอนอ่านวรรณกรรมเยาวชน ตื่นเต้นเหมือนตอนอ่านนิยายแฟนตาซี และหัวใจเต้นแรงเหมือนตอนอ่านนิยายรัก ติดบ้านมอบความรู้สึกเหล่านี้กับฉันได้ในขณะเดียวกัน ระหว่างที่ฉันกำลัง สดใส ตื่นเต้น และหัวใจเต้นแรง ฉันกลับรู้สึกสงบไปด้วย

เวลาที่ฉันเจอหนังสือที่ชอบ ฉันมักจะกลับไปอ่านมันอยู่บ่อย ๆ แต่ติดบ้านเป็นหนังสือเล่มที่ฉันชอบมากที่สุด มากจนไม่อยากลืมความรูสึกของครั้งแรกที่ได้อ่านมัน

และฉันคิดว่าฉันจะหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่านเป็นครั้งที่สองในวันเกิดปีที่ 48

ขอให้ทุกวันเป็นวันที่เอื่อยเฉื่อยและสงบ

แสนนาน.


แฮร์มันน์, ยูดิธ. (2566). ติดบ้าน (นันทนา อนันต์โกศล, ผู้แปล). ไลบรารี่ เฮ้าส์. (ต้นฉบับพิมพ์ปี 2021)

Leave a Reply