ฉันและมีจองบ้างประปราย

ไม่รู้ว่าตั้งแต่ตอนไหนที่ฉันรู้สึกว่าชีวิตของฉันไม่เคยหลุดออกมาจากลู่วิ่งในสนามแข่งเลย มันเป็นสนามแข่งที่มีฉันลงไปเล่นคนเดียว วิ่งวนซ้ำ ๆ โดยไม่มีคู่แข่ง ไร้ซึ่งเส้นชัย ฉันไม่รู้ว่าฉันเริ่มออกวิ่งตั้งแต่ตอนไหน ไม่รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันทำระยะทางได้เท่าไหร่ รู้เพียงว่าฉันไม่เคยหยุดพัก

ฉันอยู่ในลู่วิ่งจนเคยชิน ออกวิ่งจนหายเหนื่อย ฉันไม่รู้สึกอะไรกับมันแล้ว แต่ยังคงรับรู้ถึงฝีเท้าของตัวเองที่ไม่เคยได้ออกมาจากเส้นขาวของลู่วิ่งในสนาม ฉันออกวิ่งเอาเป็นเอาตายในสนามที่ไกลแสนไกล ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสนามแข่งนั้นตั้งอยู่ที่หนแห่งใด รู้เพียงแต่ว่าเท้าของฉันออกเดินและวิ่งราวกับเครื่องจักรที่ไร้ความรู้สึก

“ฉันต้องทำให้ตัวเองเหนื่อยจนแบตเหลือศูนย์ ถึงจะรู้สึกว่าได้ใช้ชีวิตอย่างดี ถ้าฉันยังเหลือพลังอยู่ ฉันจะรู้สึกหนัก” 

เป็นคำพูดของมีจอง ตัวละครจากเรื่อง My Liberation Notes ปล่อยใจสู่เสรี (2022) ฉันเข้าใจประโยคนี้อย่างสุดซึ้ง เข้าใจทุกคำ ทุกพยางค์ที่มีจองตั้งใจจะสื่อออกมา 

มีจองเป็นตัวละครโปรดอันดับหนึ่งของฉันมาตลอดสองปี เธอเป็นพนักงานบริษัทธรรมดา ๆ คนหนึ่ง มีครอบครัวที่ธรรมดา สวมใส่เสื้อผ้าธรรมดา และซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง เธอตื่นขึ้นไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ และขึ้นรถกลับบ้านในช่วงค่ำ ชีวิตของเธอวนลูปแบบนั้น เรียบง่ายและธรรมดา

ฉันดูซีรีส์เรื่องนี้จบก่อนที่จะเริ่มต้นทำงานแรก และกลับมาดูเป็นครั้งที่สองในตอนที่ฉันเป็น first jobber ตอนนั้นแหละที่ฉันคิดว่าฉันเองก็กำลังเป็นมีจองอยู่เหมือนกัน 

เป็นมีจองที่ตั้งใจออกไปทำทุกวันให้แบตตัวเองเหลือศูนย์ และกลับมาชาร์จแบตให้เต็มอีกครั้ง ถ้าได้ทำแบบนั้นจึงจะรู้สึกว่าทำวันนั้นได้ดี

แต่ฉันก็ต่างจากมีจองอยู่มาก ฉันไม่ได้เงียบขรึม ไม่ได้เข้ากับคนได้ยาก และไม่ได้จมทุกข์ มีจองเองก็ไม่ได้จมทุกข์อะไรนัก เธอบอกเสมอว่า 

“ฉันไม่ได้ทุกข์ แต่ก็ไม่ได้มีความสุขด้วย ถ้าโลกแตกไปแบบนี้ ฉันก็ไม่เป็นไร”

เราต่างกันตรงที่ฉันไม่ค่อยทุกข์ และมีความสุขทุกวัน

แต่ฉันก็รักที่ตัวละครมีจองเป็นแบบนั้น เธอไม่ทุกข์ร้อนและเฝ้ามองผู้คนอย่างไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆ ต่อให้จะถูกเอาเปรียบ หรือมีใครทำไม่ดีกับเธอ เธอสามารถนิ่งเฉยได้กับทุก ๆ สถานการณ์ 

การได้รู้จักกับมีจองทำให้ฉันรู้สึกสงบมากขึ้น รวมไปถึงทำให้ฉันได้รู้จักตัวเอง ฉันไม่เคยพบเจอใครที่มีความคิดลึก ๆ เหมือนกันแบบนี้มาก่อน ตัวละครมีจองที่สงบนิ่ง ใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและธรรมดาได้ดี เฝ้ามองผู้คนโดยปล่อยให้มันเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น ไม่ควบคุมอะไร ไม่พยายามไปมากกว่านี้แล้ว 

เพราะหากมากไปมันจะไม่ใช่ความเรียบง่าย

ฉันจึงใช้ชีวิตในทุก ๆ วันโดยคิดถึงมีจองอยู่เสมอ ถ้าเป็นมีจองเธอจะปล่อยวาง ถ้าเป็นมีจองเธอจะเมินเฉย ฉันเองก็เป็นมีจองได้ดี อย่างเรียบง่ายและธรรมดาในทุกวัน

แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังคงรู้สึกว่าต้องวิ่งอยู่บนลู่วิ่งอยู่ตลอดเวลา ชีวิตของฉันดำเนินต่อไปโดยไร้การหยุดพัก การได้รู้จักกับมีจองทำให้ฉันได้รับรู้ว่าเหนื่อยก็ต้องเหนื่อย วิ่งก็ต้องวิ่ง อะไรที่ควบคุมไม่ได้อย่าไปเสียเวลากับมัน 

เพราะแบบนั้นฉันจึงไม่พยายามหาทางออกมาจากลู่วิ่งลู่นั้น แต่เลือกที่จะประคับประคองตัวเองให้ไม่บาดเจ็บ ไม่หกล้ม ไม่มองหาเส้นชัย

บางครั้งการได้อ่านหนังสือสักเล่ม ได้ดูภาพยนตร์หรือซีรีส์ดี ๆ สักเรื่อง ก็อาจทำให้เราสามารถปลดล็อกเรื่องยาก ๆ ในชีวิตลงได้ เหมือนที่ฉันได้พบเจอกับมีจอง

ฉันคิดว่ามีจองเองก็ได้พบเจอฉันด้วยในที่ที่ไกลโพ้น เพราะฉันเข้าใจเธอทุกอย่าง

สำหรับ My Liberation Notes ปล่อยใจสู่เสรี (2022) เป็นทีวีซีรีส์จากประเทศเกาหลีที่มีฉากหลังเป็นชีวิตของ 3 พี่น้องที่มีนิสัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ถ่ายทอดมุมมองชีวิตของพนักงานบริษัทหลายช่วงวัย สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของคนวัยทำงานที่ต้องพบเจอกับตัวแปรหลากหลายปัจจัย

แม้ว่าการดำเนินเรื่องจะค่อนข้างเอื่อยเฉื่อย แต่เราจะค่อย ๆ ซึมซับความธรรมดาในชีวิต เรื่องราวต่าง ๆ ที่ต้องพบเจอ และการรับมือที่แตกต่างกันไป 

อีกเส้นเรื่องสำคัญของซีรีส์เรื่องนี้ คือการรวมตัวของพนักงาน 3 คน ตั้งชมรม “อิสรภาพ” ขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนเรื่องราวในชีวิต และการรู้สึกว่าชีวิตถูกกักขังแม้ว่าจะใช้ชีวิตได้ดีในแต่ละวันแต่ทั้ง 3 คน ก็ยังต้องการอิสรภาพ 

กฎของชมรมนี้คือการไม่แสร้งมีความสุข และไม่แสร้งมีความทุกข์ ต้องแลกเปลี่ยนแค่เรื่องจริง โดยที่จะไม่มีการแสดงความคิดเห็น ไม่มีการให้คำแนะนำ ไม่มีการปลอบใจกัน 

แน่นอนว่ามีจองคือหนึ่งในสมาชิกของชมรมอิสรภาพ ฉันเข้าใจมีจองทุกอย่าง แม้ว่าในแต่ละวันจะเรียบง่ายแค่ไหน แต่ก็ยังคงรู้สึกว่าชีวิตตัวเองได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในที่ที่ห่างไกล โดยไม่มีตัวเราอยู่ตรงนั้น 

เป็นหนึ่งในซีรีส์น้ำดีที่อยากบอกต่อ หากรับชมก็อาจจะได้รับเมสเซจแตกต่างกันไป เนื่องจากค่อนข้างมีหลายแง่มุมให้เราตกตะกอนความคิดตามแต่ละตัวละคร แต่ฉันเชื่อว่าเราต่างก็จะได้รับการปลอบประโลมไม่มากก็น้อยผ่านเรื่องราวดี ๆ จากซีรีส์เรื่องนี้

 

🎬 My Liberation Notes ปล่อยใจสู่เสรี (2022)

 

Leave a Reply