จากการเดินทางจากพื้นราบขึ้นถึงบนหลังแป (ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง) ดิฉันใช้เวลาโดยรวมประมาณ 8 ชั่วโมง เมื่อเราขึ้นไปถึงบนหลังแป ครั้งแรกที่ไปภูกระดึงเข้าใจว่า “ถึงแล้ว” แต่ไม่ใช่ค่ะ ต้องเดินทางราบอีก 4 ก.ม. จึงจะถึงที่พัก/จุดกางเต็นท์ บางรายกระเป๋า/สัมภาระมาถึงก่อนเจ้าของ บางรายเจ้าของมาถึงก่อนกระเป๋า/สัมภาระ ไม่ว่าใครถึงก่อนกันก็ต้องรอวนไปจนกว่าจะได้กระเป๋า/สัมภาระ เมื่อได้รับกระเป๋าจากลูกหาบแล้วไม่ลืมที่จะจ่ายตังค์และจ่ายทิป เพราะสงสารลูกหาบเหลือเกิน ลำพังเอาสังขารตัวเองขึ้นก็ยังเกือบไม่ถึงหลังแป แต่ลูกหาบสามารถหาบได้ท่านละประมาณ 50-80 ก.ก. พึงระลึกถึงบุญคุณของลูกหาบเสมอมา เพราะถ้าไม่มีลูกหาบพวกเราก็คงไม่มีโอกาสได้ขึ้นมาเที่ยวค้างคืนบนภูกระดึงเป็นแน่ หลังจากนั้นเราก็จัดการนำกระเป๋าไปไว้ที่พัก แล้วนอนพักผ่อนกายาสักครู่ แล้วจึงไปติดต่อเช่าจักรยานล้อเล็ก (ประมาณ 60 บาท/ช่วง 17.00-19.00 น.) เพื่อไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก
หลังจากดูพระอาทิตย์ตกดินแล้ว ก็เดินทางกลับมายังที่พัก หาอาหารรับประทาน (ร้านอาหารบนภูกระดึงอร่อยเกือบทุกร้าน แอบคิดในใจอยู่บนภูยังอร่อยขนาดนี้ พื้นราบจะขนาดไหน) แล้วอาบน้ำ (ถ้าไหว) นอนดูดาว (ถ้าไหว) เพราะอากาศ 2-5 องศาฯ แล้วเข้านอน กลางดึกลมพัดแรงมาก เหมือนว่าเต็นท์จะปลิว ต้องต่อสู้กับความหนาวเหน็บ
พอรุ่งเช้าเราตื่นไม่ไหวเพราะความเพลีย จึงอดไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น หรือจะเป็นเพราะเคยดูมา 4 ครั้งแล้ว พอสาย ๆ ตื่นนอนล้างหน้าแปรงฟัน หาอาหารรับประทานมื้อเช้า ถึงจะอยู่บนภูเราก็มีกาแฟอร่อยดื่ม หลังจากนั้นก็ออกเดินทางไปชมธรรมชาติ ดอกไม้ ใบหญ้า อาทิเช่น ลานวัดพระแก้ว ลานพระพุทธเมตตา น้ำตกถ้าใหญ่ น้ำตกโผนพบ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกวังกวาง น้ำตกธารสวรรค์ สระอโนดาต ผาหมากดูก ผาจำศีล ผานาน้อย ผาเหยียบเมฆ ผาแดง เกือบทุกคนจบที่ซิกเนอเจอร์ คือ ดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก ระหว่างทางแวะกินดื่มเกือบทุกผา ราคาอาหารจะสูงขึ้นตามระยะทาง แต่ทุกคนยินดีจ่าย ไม่บ่นสักคำ ช่วยกันอุดหนุนพ่อค้าแม่ค้า เพราะนึกถึงความยากลำบากในการหาบสินค้า/วัตถุดิบขึ้นมาขาย
หลังจากชมพระอาทิตย์ตกดินแล้ว บรรยากาศก็มืดลงทันทีทันใด ทุกคนต่างรีบก้าวเดินกลับที่ทำการฯ โชคดีที่ดิฉันเช่ารถจักรยานล้อใหญ่ไว้ ถึงจะขี่ไม่ได้ตลอดทางแต่ก็ช่วยผ่อนแรงได้ไม่น้อย ขี่บ้างจูงบ้าง เพราะบางพื้นที่มีแต่ทรายละเอียดค่อนข้างหนามาก ล้อใหญ่แค่ไหนก็ไม่สามารถผ่านไปได้ เมื่อถึงที่ทำการก็หาอาหารรับประทาน ดื่มน้ำเต้าหู้ กินขนมปังปิ้ง ปาท่องโก๋ โรตี หลังจากนั้นก็อาบน้ำนอนหลับสนิท ตื่นอีกทีวันรุ่งขึ้น 8 โมงเช้า อาบน้ำ หาอาหารรับประทาน เก็บกระเป๋าและสัมภาระเตรียมพร้อมเพื่อเดินทางกลับพร้อมกับความประทับใจ
หลายคนมักบ่นว่าไม่มาอีกแล้วภูกระดึง เหนื่อยเกินกว่าจะรับไหว เหนื่อยมากเหลือเกิน ลำบากขนาดนี้มากันทำไม จ้างให้มาฟรี ๆ ก็ไม่มา กับระยะทางที่แสนโหด แต่สำหรับดิฉัน มันเป็นความเหนื่อยล้าที่แสนจะมีความสุข