โชค 9 ชั้น ลุ้นไม้ด่างด้วยการเพาะเมล็ด

โชค 9 ชั้น เป็นไม้ใบในตระกูลหน้าวัวใบ (Anthurium) เมื่อเอ่ยถึง “หน้าวัว” ทุกคนจะนึกถึงไม้ใบที่มีดอกสีสันต่าง ๆ เช่น แดง ขาว ชมพู  แต่แท้จริงแล้วไม้ในตระกูลนี้มีทั้งโชว์ดอกและโชว์ใบ ซึ่งเรียกกันว่า “หน้าวัวใบ” ซึ่งใบของแต่สายพันธุ์ก็จะมีหลากหลายลักษณะชวนหลงใหล รูปแบบแตกต่างกันไป เช่น ใบยาว ใบกลม ใบรูปหัวใจ รูปรี รูปใข่ รูปสามเหลี่ยม ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง บ้างก็มีใบบิด มีหยัก มีเว้าแตกต่างกันไป แต่ตรงกันข้ามคือ ดอกกับไม่มีความสวยงามโดดเด่นใด ๆ เมื่อเทียบกับหน้าวัวดอก  หน้าวัวใบนิยมปลูกเป็นไม้กระถางเพื่อการประดับตกแต่งสวนภายใน/ภายนอกอาคารบ้านเรือน เมื่อต้นมีอายุมากขึ้นมักทิ้งใบช่วงล่างพร้อมแตกหน่อใหม่ บางต้นมีการออกปลีดอกที่เรียวยาว หากปลีนั้นได้รับการผสมพันธุ์ก็จะติดฝัก การจะผสมพันธุ์ได้ต้องอย่าลืมว่าต้องมีต้นแม่พันธุ์มากกว่า 1 ต้นนะคะ และมีความสมบูรณ์เพศพร้อมผสมพันธุ์ ฝักเมื่อแก่จัดจะมีเนื้อนุ่มหุ้ม เมื่อสุกจะมีสีแดงอมส้ม ในแต่ผลจะมีเมล็ดข้างในซึ่งจะมีเพียง 1 เมล็ดหรือมากกว่าแล้วแต่ความสมบูรณ์ของแม่พันธุ์ วันนี้ ดิฉันมีวิธีการลุ้นไม้ด่างด้วยการขยายพันธุ์แบบเพาะเมล็ด จากประสบการณ์่ลองผิดลองถูกส่วนตัวมาแบ่งปัน ดังนี้

  1. ตัดฝักแก่จัดออกมาวางพักไว้ หรือใส่ถุงพลาสติกผูกไว้ เพื่อให้เมล็ดทยอยหลุดออกจากฝักจนหมด
  2. นำเมล็ดพันธุ์สีแดงอมส้มเหล่านั้นมาบี้เอาเนื้อหุ้มด้านนอกออก เหลือเพียงเมล็ดข้างในเท่านั้น
  3. นำเมล็ดล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งใส่ตะแกรงตากแดด (แดดไม่แรงจัดจนเกินไป) ตากให้แห้ง
  4. การเตรียมภาชนะปลูก หากต้องการแยกระบบรากง่าย ๆ ใช้ถาดหลุมปลูก (หากใช้ถาดใหญ่/ตระกร้า เมื่อต้องการแยกต้นกล้าพันธุ์ อาจจะยากนิดนึงเพราะมีรากพันกัน)
  5. การเตรียมวัสดุปลูก มีหลายทฤษฎีไม่มีตายตัวแล้วแต่ประสบการณ์ แต่สำหรับดิฉัน ใช้ขุยมะพร้าวแช่น้ำประมาณ 5-7 คืน ทุกคืนจะต้องเปลี่ยนน้ำให้ขุยมะพร้าวใหม่ เพื่อให้สารในขุยมะพร้าวสีน้ำตาลดำออกไปให้หมด เนื่องจากว่าในขุยมะพร้าวหรือกาบมะพร้าวจะมีความฝาดหรือสารแทนนิน หากล้างออกไปไม่หมดก็จะทำให้เกิดผลเสียต่อระบบรากของพืชที่เราปลูกได้ ทฤษฎีนี้ ใช้กับการปลูกพืชทุกชนิดนะคะ
  6. เมื่อได้ขุยมะพร้าวตามที่ต้องการแล้วนำมาผสมกับดินใบไม้ก้ามปู (ละเอียด) หรือพืชมอส อัตราส่วน 1:1
  7. นำเมล็ดมาวางบนภาชนะปลูกที่ใส่วัสดุปลูกแล้ว เว้นช่องไฟตามสะดวก นำวัสดุปลูกที่เหลือโรยบาง ๆ รดน้ำให้ชุ่ม วางภาชนะไว้ในที่แดดรำไรหรือใต้โรงเรือที่มีแสลน
  8. รดน้ำทุกเช้า-เย็น พยายามสังเกตอย่าให้แห้งวัสดุปลูกแห้งหรือแฉะเกินไป (ชื้นได้แต่อย่าแฉะ)
  9. ให้ปุ๋ยเม็ดละลายช้าสูตรเสมอ 3 เดือน หรือการใช้สารอาหารเพิ่มเติม โดยดิฉันเลือกให้ธาตุอาหารหลัก (นิวทริแพลนท์) โดยการฉีดพ่นทางใบเพิ่มเติมอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ประมาณ 1 เดือน เมล็ดจะทยอยงอก
  10. เมื่อกล้าพันธุ์มีใบได้ประมาณ 4-5 ใบ ควรแยกออกมาปลูกในกระถางละ 1 ต้น เพื่อป้องกันรากพันกันและโรคพืชนะคะ