ความภาคภูมิใจที่ได้จาก BLOG
เรื่องนี้อาจเล่าช้าไปซักนิดทั้งที่เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบ 2 เดือน เมื่อเช้าเข้าไปตรวจสอบเมล์ตามปกติประจำวัน เหลือบแลสายตาไปเห็นเมล์เก่าที่ได้รับการตอบกลับมาจากคุณฉัตรนคร องคสิงห์ ก็ยังเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจกับสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้น สืบเนื่องมาจากว่า คุณฉัตรนคร ได้ส่งหนังสือที่ผลงานเขียนและแปลของท่านมาให้ถึงจำนวน 8 เล่ม เนื่องจากที่เราได้เขียนถึงคุณฉัตรนครไว้ใน Blog ของหอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ เนื่องเป็นนักเขียนและนักแปลที่ติดตามผลงานอยู่ตลอด แม้บางเล่มอาจจะเคยอ่านและบางเล่มยังไม่เคยได้อ่านก็ตามเถอะ หลังจากที่ไปประชุมเมื่อต้นเดือนธันวาคม และกลับมาทำงานในวันถัดมาปรากฎว่า มีกล่องพัสดุใบโตวางไว้ที่โต๊ะทำงาน พออ่านที่จ่าหน้ากล่องพัสดุเห็นเป็นชื่อคุณฉัตรนคร ก็จำได้เคยเขียนเรื่องของคุณฉัตรนครลงใน blog แต่ก็แอบสงสัยมาคุณฉัตรนครส่งอะไรมาให้ใจหนึ่งแอบคิดว่าเป็นหนังสือ แต่อีกใจก็คิดว่าจะเป็นไปได้หรือ เพราะเราก็ไม่ได้ทำอะไรให้ท่านมากมายถึงขนาดต้องส่งของมาให้ แต่พอเปิดดูก็เป็นอย่างที่คิดคือ คุณฉัตรนครส่งหนังสือมาให้ถึง 8 เล่มที่เป็นผลงานของท่าน และมีจดหมายน้อยๆ แนบมาว่าได้อ่านงานเขียนของเราใน blog ที่เขียนถึงท่านแล้วรู้สึกดีใจที่มีคนสนใจในงานของท่าน จึงส่งหนังสือมาให้ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าเราจะทำอย่างไรกับหนังสือจะเก็บไว้เองหรือบริจาคต่อก็ได้ ก็เลยตัดสินใจบริจาคเข้าหอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ อันเป็นสถานที่ที่เราทำมาหากินอยู่เพื่อที่หนังสือเหล่านี้จะได้เผยแพร่ออกไปสู่สายตาผู้ใช้บริการของมหาวิทยาลัยศิลปากร และแอบได้ข่าวมาว่า มีเพื่อนมาเลียบๆเคียงๆ จองกันหลายคนแล้ว แต่หนังสือยังในกระบวนการดำเนินการทางเทคนิคในฝ่ายวิเคราะห์ฯ อยู่อีกไม่นานก็คงออกมาใ้ห้บริการ ให้ผู้ใช้บริการได้ยืมไปอ่านกัน
จากเรื่องที่ได้รับหนังสือที่ถือว่าเป็นของขวัญที่มีค่าที่ได้จากการเขียน blog นี้ได้ไปเล่าให้สามีและลูกสาวฟัง ก็เลยได้โอกาสสอนลูกไปในตัวว่า โลกของเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ตมีทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี เพียงขึ้นอยูกับตัวเราว่า เราจะเลือกสิ่งใดเข้ามาไว้ในชีวิตเราเท่านั้น หากเรารู้จักใช้มันก็ส่งผลดีมาให้เรา
3 thoughts on “ความภาคภูมิใจที่ได้จาก BLOG”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
เหนือสิ่งอื่นใด…. เราจะเป็นความภูมิใจของลูก เป็นแบบอย่างให้เค้าเดินตาม และลูกจะเชื่อมั่นในตัวเราว่าเราเป็นที่พึ่งให้เค้า ไม่ใช่คนอื่น เรื่องพวกนี้เราสร้างและทำได้ด้อวยมันสมองและสองมือเราโดยไม่ต้องลงทุนอะไร
ความจริงของหนังสือที่เขียนโดยคุณฉัตรนคร องคศิงห์ เมื่อได้รับตัวเล่มจากอ้อ ก็ตรวจสอบการมีแล้วหรือไม่ เล่มใดมีแล้วก็จดเลขเรียกหนังสือลงในสลิป ยังไม่มีก็จัดกาเองเลย ให้ call number หัวเรื่องและเขียนลงในสลิปไว้เลย จากนั้นส่งตัวเล่มไปให้เพลินตา list รายชื่อเพื่อตอบขอบคุณซึ่งพี่ก็ลงนามตอบขอบคุณไปด้วยแล้ว และก็ลืมตัวเล่มไปเลย จนล่าสุดช่วงต้นมกราคม หรือช่วงงานbook fair (ไม่แน่ใจ) พบเพิ่งส่งลงมาจากชั้น 5 (สำนักเลขา) เท่านั้นแหละจะเหลือหรือ พี่ก็จัดการเรียบร้อย อย่าให้มีแบบนี้อีก(ส่งขึ้นไปเพื่อให้ตอบขอบคุณและส่งจดหมายออกนานแล้ว นานเกือบเดือนตัวเล่มพิ่งลงมา) อย่างไรก็ตามวันนี้ได้เร่งหนูเขียด(กรุณา) และหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์(นฤมล)แล้ว คงออกภายในไม่น่าเกินวันพุธนี้นะ อ้อก็น่าจะรู้นะว่าอะไรผ่านพี่แล้ว ต้องรวดเร็วต่อการสนองตอบผู้ให้/ผู้มีอุปการะคุณ
ดำเนินการ catalog เรียบร้อยแล้วค่ะ บางส่วนที่ตัวเล่มเป็นปกแข็งส่งติดสันค่ะ ส่วนตัวเล่มที่เป็นปกอ่อนส่งงานซ่อมดำเนินการต่อค่ะ