วัดใหญ่ กะไดหัก
โรงเรียนวัดพระปฐมเจดีย์ หรือชื่อที่ชาวบ้าน
ซึ่งเป็นคนนครปฐมตัวจริง ต้องรู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดี คือ โรงเรียนวัดใหญ่
ในครั้งเยาว์วัยด้วยความที่ลูกหลานไทยมักมีฝีปากแก่กล้าในเชิงกวี
สัมผัสคล้องจองในคลังคำจึงมีเหลือเฟือ…ไม่เว้นแม้แต่ในคำล้อเลียน
โรงเรียนวัดใหญ่ของข้าพเจ้า จึงมักโดนเพื่อนต่างโรงเรียนล้อว่า
เป็นเด็กโรงเรียน “วัดใหญ่ กะไดหัก” (บันได ภาษาเด็กคะนอง ออกเสียงอย่างคนโบราณ)
ข้าพเจ้าในฐานะเป็นศิษย์เก่าตั้งแต่ชั้นอนุบาล ซึ่งโรงเรียนวัดมีเพียงชั้นเรียนเดียว
คือ เริ่มเรียนในชั้น ก.ไก่ และเรียนจนจบประถม ๔
สมัยเด็กเคยสังเกตว่าป้ายโรงเรียนมีสร้อยท้ายชื่อว่า “มหินทรศึกษาคาร”
ก็ได้แต่สงสัยภาษาเด็ก ไม่คิดจะสืบสาวเอาเรื่องราวแต่อย่างใด
กระทั่งวันนี้ หน้าที่การงานล่วงเข้าปีที่ ๓๒
จวนเจียนเวลาที่จะอำลาวงการเข้ามาทุกขณะ
การทำงานมาหลากหน้าที่ จนมาอยู่ในจุดของศูนย์ข้อมูลภาคตะวันตก
ที่ทำให้ได้คุ้ยแคะ ค้นหา เรื่องราวหลากหลายของท้องถิ่น…นับเป็นความสุขใจ
ความทรงจำที่ค้างคาในวันเก่า ถูกรื้อค้นขึ้นมาจนกลายเป็นคำตอบ
สร้อยท้ายมหินทรศึกษาคาร ที่ได้แต่สงสัยในวันนั้น
จากการเขียนบทความเรื่อง “เจริญศรัทธา…สะพานแห่งศรัทธาของผู้เจริญ”
ทำให้ได้ล่วงรู้ที่มาแห่งสร้อยนามโรงเรียนจากประวัติของเจ้าพระยาท่านหนึ่ง
คือ เจ้าพระยามหินทรเดชานุวัตน์
ในครั้งที่ยังเป็นจางวางตรีพระยามหินทรเดชานุวัตน์ (ใหญ่ ศยามานนท์)
ดำรงตำแหน่งสมุหเทศาภิบาลสำเร็จราชการมณฑลนครไชยศรี
ซึ่งเดิมบรรดาศักดิ์ของท่าน คือ พระศรีวิชัย ปลัดเทศาภิบาลมณฑลนครไชยศรี
ต่อมาได้เลื่อนขึ้นเป็นพระยาศิริชัยบุรินทร และพระยามหินทรเดชานุวัตน์
กระทั่งเป็นเจ้าพระยามหินทรเดชานุวัตน์ชั้นยศสุดท้าย โดยลำดับ
เจ้าพระยาท่านนี้ เป็นผู้มีอุปการะคุณต่อโรงเรียนวัดพระปฐมเจดีย์
ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๙ ตามพระราชดำริของรัชกาลที่ ๕
ให้เป็นโรงเรียนหลวงแห่งแรกเพื่อสอนหนังสือไทยแก่ชาวนครปฐม
กระทั่งรัชกาลที่ ๖ ทรงประกาศใช้ พ.ร.บ.ประถมศึกษา พ.ศ. ๒๔๖๔
ซึ่งในระยะแรกได้อาศัยศาลาการเปรียญของวัดเป็นที่เรียน
ต่อมา พ.ศ. ๒๔๖๕ จางวางตรีพระยามหินทรเดชานุวัตน์
เลื่อนขึ้นเป็นจางวางโท ตำแหน่งสมุหเทศาภิบาลมณฑลนครชัยศรี
ได้รวบรวมเงินบริจาค ๑๕,๘๐๐ บาท สร้างอาคารเรียนเป็นเรือนปั้นหยา ๒ ชั้น ให้โรงเรียน
และขอพระราชทานนามชื่ออาคารเรียนว่า “มหินทรศึกษาคาร” จากรัชกาลที่ ๖
โรงเรียนแห่งนี้มีนายโสภณ (เฮง) ศุขหมอก เป็นครูใหญ่คนแรก
ถือเอาวันที่ ๑๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๕ เป็นวันก่อตั้งโรงเรียน
นับจนปัจจุบัน พ.ศ. ๒๕๖๒ หากเป็นคนก็ล่วงเข้าสู่วัยชราเต็มทีด้วยวัย ๙๗ ปี
โรงเรียนแห่งนี้ ในเวลาต่อมาเมื่อกระทรวงศึกษาธิการ
ได้ประกาศระเบียบการเรียกชื่อโรงเรียนใหม่ จึงมีชื่อว่า
“โรงเรียนวัดพระปฐมเจดีย์ (มหินทรศึกษาคาร)”
และอาคาร “มหินทรศึกษาคาร” ดังได้กล่าวในข้างต้นนั้น
ได้ใช้เป็นอาคารเรียนมายาวนานถึง ๔๑ ปี
ต่อมาภายหลังได้รื้อลงเมื่อ ๖ มกราคม ๒๕๐๗
ก่อนเวลาที่ข้าพเจ้าจะลืมตามาดูโลกนี้นานถึง ๗ เดือน