รักแท้และคู่บารมีพระพุทธเจ้า


เลขเรียก BQ4570.L6 ณ62
ผู้แต่ง ณัฎฐ์ณัณญา จิณณนันท์ธัมมา, พัฒน์ สดาวงศ์วิวัฒน์
ชื่อเรื่อง รักแท้และคู่บารมีของพระพุทธเจ้า
 
พรุ่งนี้เป็นวันวิสาขบูชา (10 พ.ค. 2560) ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาทั่วโลก ผมจึงขอนำเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธเจ้ามาให้ได้อ่านกัน
 
เมื่อคิดถึงพระพุทธเจ้า คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงพระผู้ตรัสรู้ที่เรียกว่าอริยสัจ 4 ประการคือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เพื่อความหลุดพ้นทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง พร้อมคำสั่งสอนให้ประพฤติปฏิบัติตนในทางที่ดี  ดังนั้นเมื่อได้พบหนังสือเรื่อง “รักแท้และคู่บารมีของพระพุทธเจ้า” ก็สนใจและคิดว่าหลาย ๆ คนคงอาจไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าด้านนี้มากนัก
 
หนังสือเล่มนี้กล่าวนำว่าหากเปรียบชีวิตเหมือนการเดินทาง คู่ชีวิต  ก็หมายถึงคนที่จะร่วมเดินทางไปกับเราตลอดชีวิต แต่เหตุใดอัตราการหย่าร้างในปัจจุบันจึงเพิ่มสูงขึ้น หนังสือเรื่องนี้เป็นการนำเรื่องราวพุทธประวัติและคำสอนของพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับความรักมาเผยแพร่
 
ความรักของพระพุทธเจ้าก่อนที่จะทรงตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญาณนั้น ในขณะที่ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร พระองค์ก็เคยมีคู่ และคู่ของพระองค์นั้นเรียกได้ว่าเป็นคู่บารมี คือ เป็นคู่ที่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตราบสิ้นอายุขัยในทุกภพที่เจอกัน ความรักแท้  รักอย่างธรรม เย็น ไม่เร่าร้อนด้วยกิเลส ไม่หวานแต่จิตชื่นใจ เหมือนน้ำใสบริสุทธิ์  พระพุทธเจ้าและคู่บารมีของพระองค์จะทำให้รู้จักคุณค่าของความรักที่มีจุดหมาย พาไปสู่ความพ้นทุกข์ตลอดไป
 
จุดเริ่มต้นของรักแท้ของพระพุทธเจ้าและคู่บารมีไม่ได้เริ่มด้วยความพึงพอใจในรูปกาย ฐานะ ลาภยศ ชื่อเสียง แต่เริ่มด้วยศรัทธาจากหัวใจของมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ พระพุทธเจ้าได้ทรงบำเพ็ญบารมีร่วมกับพระนางพิมพามานับอเนกชาติ ในพระไตรปิฎกได้กล่าวถึงชาติแรกที่มีการตั้งอธิษฐานจิตร่วมบำเพ็ญบารมีกัน สมัยพระทีปังกรพุทธเจ้า ครั้งหนึ่งชาวอมรวดีนครได้ทูลเชิญเสด็จพระทีปังกรทศพล ซึ่งเผยแผ่ศาสนะอยู่ที่รัมมกนคร พร้อมพระสาวก 4 แสนรูปให้มารับมหาทานในอมรวดีนคร  ครั้งนั้น สุมิตตาพราหมณี ก็ได้มารอรับเสด็จพระทีปังกรร่วมกับมหาชนด้วย เธอเก็บดอกบัวมา 8 กำ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ขณะนั้นเธอแลเห็นดาบสหนุ่มผู้ทรงอภิญญาเหาะมาในอากาศ แวะลงมาถามมหาชนว่าพวกท่านมาชุมนุมกันด้วยเหตุใด มหาชนตอบว่ามารอรับเสด็จพระทีปังกรพุทธองค์ สุเมธดาบสปิติเป็นอย่างยิ่งจึงช่วยมหาชนขนทรายมาถมหลุมบ่อเพื่อปรับทางพระราชดำเนินด้วยแรงกาย มิได้ใช้อภิญญาณฤทธิ์ปรับถนน การกระทำนี้สร้างความชื่นชมให้เกิดแก่สุมิตตาพราหมณียิ่งนัก หากแต่การยังไม่เสร็จพระทีปังกรพุทธเจ้าก็เสด็จมาถึง สุเมธดาบสเห็นไม่ทันการจึงตัดสินใจทอดตัวลงนอนปิดทับแอ่งน้ำไว้ ด้วยไม่ปรารถนาให้พระบาทของพระพุทธองค์แปดเปื้อนโคลน
 
พระทีปังกรพระพุทธเจ้าเสด็จมาหยุดยืนและทรงตรวจดูด้วยสัพพัญญุตาญาณ เห็นว่าอนาคตสุเมธดาบสผู้นี้จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า สุมิตตาพราหมณีก็เกิดปิติศรัทธาท่วมท้น จึงเดินไปหาสุเมธดาบสและแบ่งดอกบัวให้ 5 กำ เธอรอให้สุเมธดาบสนำดอกบัวไปถวายพระพุทธเจ้า แล้วตัวเธอจึงนำดอกบัวอีก 3 กำที่เหลือไปถวายบ้าง พลางกล่าววาจาว่า “พระศาสดาผู้เจริญ ด้วยอานิสงส์แห่งบุญถวายดอกบัวสามกำบูชาพระองค์ผู้เป็นนายกของโลกในครั้งนี้ ขอจงเป็นปัจจัยให้ข้าพระบาทได้เป็นคู่บุญบารมี ช่วยพระดาบสสร้างสมพุทธการกธรรมจนกว่าจะตรัสรู้พระโพธิญาณอันอุดม สมดังพุทธพยากรณ์ด้วยเถิด” (หน้า 15)
 
นอกจากนี้ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นตามมาอีกหลายภพหลายชาติ กว่าที่สุมิตตาพราหมณีผู้ซึ่งอธิษฐานว่าจะเกิดเป็นคู่บุญคู่บารมี และสนับสนุนจนกว่าสุเมธดาบสจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอีก 4 อสงไขยแสนกัป   ในชาติสุดท้าย อันเป็นชาติที่ปิดตำนานรักแท้ที่สมบูรณ์ คือในชาติที่เกิดเป็นพระโคตมพุทธเจ้าและพระภัททากัจจานา ที่แท้ พระภัททากัจจานา พระเถรีผู้ทรงอภิญญา ก่อนมาบวชก็คือพระนางยโสธรา พระเทวีของเจ้าชายสิทธัตถะนั่นเอง
 
พระภัททากัจจานาได้ระลึกถึงความหลังครั้งยาวไกลด้วยสายตาที่เคารพและเทิดทูนองค์มหาบุรุษ    ผู้เคยใกล้ชิดมาไม่อาจนับจำนวนชาติได้ ได้ร่วมฝ่าฟันสร้างสมบารมีด้วยกันกับพระองค์
 
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากรักแท้ของพระพุทธเจ้าและคู่บารมี พบว่า“คนภายนอกรักกันที่เปลือกนอก แต่ความรักของพระโพธิสัตว์และคู่บารมี เกิดจากใจ คือรักที่ใจ เป็นรักที่เกิดจากศรัทธาจากหัวใจ เมื่อปฐมเหตุของความรักเกิดจากใจ ความรักนั้นจึงเป็นรักแท้” (หน้า124)   “การร่วมกันสร้างบารมี คือ การร่วมกันพัฒนากำลังใจ ที่จะทำให้เกิดความศรัทธาในกันและกัน พร้อม ๆ ไปกับการเข้าถึงความพ้นทุกข์ได้ มีสุขยิ่ง ๆ ขึ้น” (หน้า 125)
 
ความรักในภพภูมิมนุษย์ คือเรื่องความรักที่เกี่ยวข้องกับเรื่องกามราคะ คือ ติดใจในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส รู้สึกว่าการได้เสพ คือ ได้เห็น ได้ลิ้มรส ได้กลิ่น ได้ยิน ได้สัมผัสเป็นความสุข “กามนั้นทำให้คนมีความสุขจริง แต่ความสุขนั้นเป็นความสุขที่เกิดจากเหยื่อล่อที่มีเบ็ดซ่อนอยู่ เมื่อเข้าไปเสพแล้วเราก็กลายเป็นปลาติดเบ็ด ตกเป็นเหยื่อ” (หน้า 182)
 
“รักที่มีกามเป็นส่วนประกอบจึงเป็นรักแท้ไม่ได้ เพราะมันมีเหตุแห่งทุกข์ มีความแปรเปลี่ยนขึ้นลง ไม่สิ้นสุด มีสุขแล้วก็ทุกข์ รักแท้อย่างพุทธคือรักที่เป็นพรหมวิหารธรรม คือ มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา คือเป็นรักที่ไม่เจือด้วยกิเลส จึงมีความสงบเย็น มีความเต็ม ไม่ขาด ไม่เบียดเบียน” (น.183)
 
การจะรู้จักความรักขั้นสูง ต้องพัฒนาใจให้สูงตาม ไม่สามารถทำได้ด้วยการคิด หรือด้วยความอยากไม่อยาก เพราะหัวใจของพรหมวิหารคืออุเบกขา สามารถเข้าถึงด้วยการภาวนา ด้วยการเจริญมรรคเท่านั้น  การเจริญมรรคโดยย่อคือ การเจริญศีล สมาธิ ปัญญา ฝึกฝนจิตใจให้มีความสงบระงับจากนิวรณ์ (ธรรมที่กั้นจิตไม่ให้บรรลุความดี)
 

Leave a Reply

Tags

blog CONSAL KPI PULINET การจัดการความรู้ การดูแลสุขภาพ การทำงาน การท่องเที่ยว การบริการ การปฏิบัติงานล่วงเวลา การประชาสัมพันธ์ การพัฒนาตนเอง การพัฒนาบุคลากร การลงรายการ การศึกษาดูงาน การอ่าน การเรียนออนไลน์ กิจกรรมสำหรับเด็ก กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมห้องสมุด ความสุข ค่ายห้องสมุด งานบริการ ธรรมะ นวนิยาย นักเขียน บรรณารักษ์ บริการชุมชน ประกันคุณภาพ ภาพถ่าย ภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบบห้องสมุดอัตโนมัติ วัด วันสำคัญ วารสาร สัมมนา สุขภาพ หนังสือ หนังสือบริจาค หนังสือและการอ่าน หอสมุดพระราชวังสนามจันทร์ ห้องสมุด ห้องสมุด 24 ชั่วโมง อาหาร