เล่าเรื่อง"เหล้า"ก่อนเข้าพรรษา
พรุ่งนี้เป็น วันอาสาฬหบูชา และต่อไปอีกหนึ่งวันก็คือ วันเข้าพรรษา ซึ่งสองวันสำคัญสำหรับชาวพุทธเรานั้นจะอยู่คู่กันมาโดยตลอด ในระยะหลายสิบปีมานี้มีการเชิญชวนผู้ที่ชอบเสพสุราทั้งหลายให้หันมา งดเหล้าช่วงเข้าพรรษา ถือเป็นการรณรงค์ระดับชาติกันเลยทีเดียวเพราะปัจจุบัน “เหล้า” หรือ “สุรา” จัดเป็นปัญหาระดับชาติที่หลายฝ่ายหันมาให้ความสนใจและใส่ใจอย่างจริงจัง เพราะเหล้าหรือสุรานั้นเป็นต้นเหตุของพฤติกรรมอันไม่พึงประสงค์และการกระทำที่ไม่สมควรตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนถึงขั้นร้ายแรงต่างๆ นานาของผู้ดื่มทั้งหลายดังที่ปรากฏเป็นข่าวอยู่ตามสื่อต่างๆในทุกวันนี้ ช่วงเข้าพรรษาจึงถือเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ที่ตั้งปณิธานว่าจะงดเหล้าในช่วงสามเดือนนี้หรือจะเลิกดื่มเหล้าตลอดไปเลยก็ยิ่งดีจะเป็นกุศลแก่ตนเองและครอบครัวอีกต่างหาก
“เหล้า”หรือ”สุรา” จัดเป็นเมรัยชนิดหนึ่งใช้ดื่มกิน เป็นเครื่องดื่มที่มีเอทิลแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบสำคัญ แอลกอฮอล์ในเหล้านั้นมีฤทธิ์ไปกดประสาทส่วนกลาง เหล้าเป็นน้ำเมาที่เกิดจากการหมักแล้วอาศัยยีสต์เป็นตัวเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นแอลกอฮอล์ ผลิตได้จากวัตถุดิบทุกอย่างที่มีน้ำตาล หากทำจากน้ำตาลโตนดเรียกว่าน้ำตาลเมา จากน้ำตาลองุ่นเรียกว่าไวน์ เป็นต้น
มนุษย์เรารู้จักการทำเหล้ามาเป็นพันๆ ปีแล้ว และยังรู้จักใช้เชื้อราบางชนิดมาเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาลได้ ฉนั้นพืชอะไรที่เป็นแป้งเช่น ข้าวชนิดต่างๆ ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ก็สามารถเอามาทำเหล้าได้ทั้งนั้น เฉพาะของไทยเรานั้นนิยมใช้ข้าวเป็นวัตถุดิบหลัก ด้วยการนึ่งข้าวให้สุกแล้วผสมกับลูกแป้งซึ่งเป็นเชื้อหมัก ลูกแป้งนี้มีส่วนผสมของสมุนไพรต่างๆหลายชนิด การทำลูกแป้งสำหรับเป็นตัวเชื้อหมักนี้ถือเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่น่าสนใจทีเดียว ดังนั้นเราจึงมีเหล้าพื้นบ้านที่เรียกว่า สาโท น้ำขาว กระแช่ อุ เป็นต้นซึ่งหมักจากแป้งเมื่อได้ที่แล้วก็นำมาดื่มกินได้โดยไม่ต้องนำไปกลั่นก่อน การที่รสชาดของเหล้าจะดีหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ เชื้อ(ลูกแป้ง)ที่ใช้หมัก การต้ม การกลั่น การบรรจุและการเก็บรักษา หากต้องการให้มีฤทธิ์แรงขึ้นก็นำไปกลั่นเป็นสุรา แล้วหมักบ่มต่อไปหรือจะกินเลยก็ได้เช่นกัน
นอกจากพืชจำพวกแป้งแล้วยังมีพืชที่เป็นผลไม้ต่างๆที่สามารถนำมาเหล้าได้เช่นกันในต่างประเทศนั้นก็มีการผลิตเหล้าออกมามากมายและเรียกแตกต่างกันไปเช่น ไวน์ แชมเปญ บรั่นดี วิสกี้ วอดก้า เบียร์ เป็นต้น ซึ่งเป็นเครื่องดื่มมึนเมาทั้งสิ้น การดื่มเหล้าหากเป็นปริมาณน้อยอาจทำให้รู้สึกผ่อนคลาย หรือเป็นยาได้ และในการรักษาอาการของโรคบางชนิดก็ต้องใช้เหล้าไปผสมกับตัวยาเพื่อให้ออกฤทธิ์เพื่อการรักษาด้วย เรียกว่าใช้เหล้าเป็นกระสายยา เช่น ใช้ใบพลูขยี้กับเหล้าทาเพื่อบรรเทาอาการผื่นคันจากลมพิษ หรือในสมัยก่อนนั้นสตรีตามชนบทที่คลอดบุตรใหม่ๆมักจะต้องดื่มยาดองเหล้าเกือบทั้งสิ้นเพื่อเป็นยาบำรุงแต่ในปัจจุบันไม่ค่อยพบแล้ว นอกจากนั้นในธรรมเนียมประเพณีบางอย่างเราก็ยังต้องใช้เหล้าเป็นเครื่องประกอบในพิธีกรรมด้วยซึ่งจะพบเห็นได้โดยทั่วไป ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติต่อๆกันมาแต่ครั้งบรรพบุรุษของเรา
สำหรับเหล้าหรือสุราในปัจจุบันถือเป็นเครื่องดื่มที่ผลิตขึ้นในรูปแบบของอุตสาหกรรมเพื่อธุรกิจและการค้าซึ่งทำรายได้อย่างมหาศาลให้กับเจ้าของธุรกิจ ดังนั้นผู้ผลิตและผู้ประกอบการจึงต้องสรรหาวิธีโฆษณาเชิญชวนในรูปแบบต่างๆเพื่อให้กลุ่มลูกค้าได้ทดลอง รวมทั้งพลิกแพลงรูปภัณฑ์ของสินค้าและกลวิธีการนำเสนอต่อกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มวัยรุ่นวัยเรียนทั้งหลายนั่นเอง ซึ่งอยู่ในช่วงวัยที่อยากรู้อยากลอง โดยเฉพาะตามสถานศึกษาต่างๆ จนทางรัฐต้องออกกฎหมายมาควบคุมร้านเหล้าสารพัดชนิดในทุกวันนี้ตามที่เป็นข่าวเมือเร็วๆนี้ นั่นคือโทษภัยของสุราเมรัยที่นับวันจะรุนแรงมากขึ้น เป็นต้นตอของอุบัติเหตุรุนแรงจนต้องรณรงค์กันในเรื่อง “เมาไม่ขับ” ตรวจจับกันทุกวันนี้ ส่วนในทางธรรมนั้น สุราคือสิ่งต้องห้ามในศีลข้อที่ 5 ซึ่งหมายถึงว่าในครั้งพุทธกาลนั้นสุราถือเป็นสิ่งไม่ดีอย่างยิ่งมานานนักหนาแล้วจึงได้มีบัญญัติไว้ ดังนั้นในช่วงเข้าพรรษานี้ก็ขอเชิญชวนน้องเมรีพี่เมรัยทั้งหลายงดเว้นและไกลห่างเหล้าสุราสักพรรษาเถอะนะโยม เพื่อเป็นการฟื้นฟูสุขภาพ และประหยัดทรัพย์เลิกสนับสนุนเจ้าของกิจการมึนเมาบ้างก็ดีนะ