การทำงาน
การทำงานให้ประสบความสำเร็จและเป็นไปได้อย่างราบรื่นในที่ทำงาน
มีคำแนะนำคือ
1. ใช้หลักบวก 80%
จากการวิจัยพบว่า เมื่อคนเรามีอารมณ์ด้านลบ เช่น ถูกวิจารณ์หรือปฏิเสธ
ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ตอบสนองต่อความเครียด (Cortisol) มากผิดปกติ
ซึ่งจะปิดกั้นการคิดวิเคราะห์ แต่สร้างกลไกปกป้องตั่วเองแทน
ส่วนคนที่คิดบวก ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความผูกพัน (Oxytocin)
ซึ่งกระตุ้นความสามารถในการสื่อสารความร่วมมือ และความไว้ใจผู้อื่น
รวมถึงกระตุ้นความคิดให้รอบด้าน นอกจากนี้ ยังต้องมีปฏิกิริยาด้านบวก 3-5 ครั้ง
จึงจะชดเชยกับอารมณ์ลบหนึ่งครั้งได้ ข้อสรุปคือ
ในการสนทนากับเพื่อนร่วมงานหรือในการประชุมควรพูดถึง
สิ่งที่ผู้ร่วมงานทำถูกเป็นสัดส่วน 80% และพูดถึงสิ่งที่ควรปรับปรุงเพียง 20%
เพื่อไม่ให้เกิดความท้อแท้ รำคาญและเกิดการต่อต้าน
2. คิดถึงพันธกิจของงาน
คุณค่าของสิ่งที่ทำอยู่คืออะไร คำตอบจะช่วยสร้างประสิทธิภาพให้กับงานมากขึ้น
โดยมีการทดลองนำรูปผู้ป่วยแนบไปกับฟิล์มเอกซเรย์ แทนที่จะให้แพทย์วินิจฉัยโรค
จากฟิล์มอย่างเดียว ซึ่งทำให้แพทย์มีความรู้สึกเห็นใจผู้ป่วยมากขึ้น
ส่งผลให้เขียนคำวินิจฉัยโรคยาวขึ้น 29% และวินิจฉัยโรคได้แม่นยำขึ้น 46%
3. ใช้ 45/15 หรือ 52/17
มีการเก็บข้อมูลในห้องเรียนที่ฟินแลนด์พบว่า หลังการเรียน 45 นาที แล้วพัก 15 นาที
นักเรียนจะมีแรงและมีสมาธิในการเรียนมากขึ้น ทำให้ผลของการเรียนดีขึ้น
และการทดลองในบริษัทผลิตโปรแกรมแห่งหนึ่งพบว่า การให้พนักงาน
พัก 10 นาที ทุกๆ การทำงาน 52 นาที ทำให้การทำงานเร็วขึ้น
และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นเราอาจจะเลือกรูปแบบการทำงานที่เหมาะสม
สำหรับประสิทธิภาพสูงสุดได้
4. ใช้การตั้งคำถามกระตุ้นการสนทนา
การตั้งคำถามที่ดี ทำให้ได้คำตอบที่เป็นประโยชน์ และลดความเครียด
ในการคิดหาเรื่องที่จะพูดกับคู่สนทนาด้วย
นักเจรจาที่ประสบความสำเร็จ ใช้เวลา 21% ของการเจรจาไปกับการตั้งคำถาม
5. หยุดชั่วขณะ ก่อนมีปฏิกิริยาตอบกลับ
ปกติเมื่อถูกกดดัน สัญชาตญาณของคนเรามักจะตอบโต้กลับทันที
ซึ่งทำให้เราต้องเสียใจในภายหลัง ดังนั้นแทนที่จะโต้ตอบทันที
เราควรกดปุ่มหยุด (ทางความคิด) ชั่วขณะ แล้วหายใจเข้าออกลึกๆ
รวบรวมความคิดใช้เหตุผลพินิจพิเคราะห์ ก่อนมีปฏิกิริยาตอบกลับไป
(เก็บความจาก Money & Wealth 13, 146 (2558))