เพกา…สมุนไพรต้านมะเร็ง
เพกา…มีชื่อเรียกขานตามท้องถิ่น ว่ามะลิดไม้ มะลิ้นไม้ ลิดไม้ หมาก ลิ้นก้าง หมากลิ้นช้าง ลิ้นฟ้า กาโด้โด้ง ดอก๊ะ ด๊อกก๊ะ ดุแก เมโก โดยจะเจริญเติบโตได้ในดินแทบทุกชนิด ฝักอ่อนมีรสขม นิยมรับประทานเป็นผัก ซึ่งก่อนรับประทานอาจนำฝักอ่อนไปเผาไฟให้ไหม้เกรียม แล้วขูดเอาผิวที่ไหม้ออกจากนั้นนำไปหั่นเป็นฝอย แล้วคั้นน้ำทิ้งไปหลายๆ ครั้ง และนำไปปรุงอาหาร อย่างเช่น ผัด แกง กระทั่งรับประทานเป็นผัก แกล้มลาบ ก้อย หรือยำ อาจนำมารับประทานเป็นผักสด หรือลวกรับประทานกับน้ำพริก ส่วนยอดอ่อนของเพกานั้น สามารถรับประทานเป็นผักจิ้มน้ำพริกได้เช่นเดียวกัน ขณะที่ฝักเพกาที่แก่แล้วจะแตกออกเมล็ดภายในฝักมีปีกบางๆ สีขาว ปลิวล่องลอยไปตามลม มักนำไปเป็นส่วนผสมน้ำจับเลี้ยง มีฤทธิ์เป็นยาเย็น แก้ไอ ขับเสมหะ
เพกาสามารถใช้ได้ทั้งส่วนของใบ เปลือก ราก เมล็ด และฝักอ่อน โดยใบของเพกามีฤทธิ์เป็นยาเย็นใช้ต้มน้ำดื่ม แก้ปวดข้อ ปวดท้อง ช่วยให้เจริญอาหาร เปลือกต้นมีรสฝาดเย็น และขมเล็กน้อย เป็นยาสมานแผล ช่วยให้น้ำเหลืองเป็นปกติ ขับน้ำเหลืองเสีย ขับเลือดดับพิษโลหิต บำรุงโลหิต แก้เสมหะจุกคอ แก้บิด แก้อาการจุกเสียด รากมีรสฝาดขม เป็นยาแก้ท้องร่วง มักใช้รากฝนกับน้ำปูนใส ทาแก้อาการอักเสบ ฟกบวม ดับพิษโลหิต แก้น้ำเหลืองเสีย เมล็ดใช้เป็นยาถ่าย เมล็ดแก่ใช้เป็นยาระบาย แก้ไอ ขับเสมหะ
ฝักอ่อนรับประทานเป็นผัก ช่วยขับลม บำรุงธาตุ หมอยาพื้นบ้านใช้เป็นยาโป๊ว (ไม่ใช่โป๊นะ)
หมอยาบอกว่า ฝักอ่อนของเพกา มีสรรพคุณบำรุงร่างกายในลักษณะเป็นยาโป๊ว ที่ไม่เป็นสองรองใคร สามารถใช้ได้ทั้งชายและหญิงในความหมายของยาโป๊วตามทฤษฏีการแพทย์แผนไทย หมายถึงยาที่มีสรรพคุณในการบำรุงร่างกายทั้งระบบ ไม่ได้บำรุงเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง เมื่อร่างกายทั้งระบบทำงานดี เรื่องอื่นๆ ก็จะดีตามไปด้วย จากฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ที่ค้นพบก็ทำให้น่าเชื่ออยู่ว่า เพกามีสรรพคุณเป็นยาโป๊วจริงๆ รายงานทางเภสัชวิทยาพบว่า เพกามีฤทธิ์ลดโคเลสเตอรอล ซึ่งการช่วยลดโคเลสเตอรอลนั้น ก็จะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น นั่นเอง ในใบและเมล็ดของเพกา มีสารประกอบฟลาโวนอยด์ ช่วยลดการอักเสบ ลดบวมและต้านทานการแพ้ รวมทั้งมีฤทธิ์ในการยับยั้ง การบีบตัวของกล้ามเนื้อเรียบในลำไส้อีกด้วย นอกจากนั้นยังมีงานวิจัยจากสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณท์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดย เกศินี ตระกูลทิวากร พบว่า จากผักทั้งหมด 48 ชนิด เพกาเป็นผักหนึ่งในสี่ชนิดมีฤทธิ์ในการต้านสารก่อมะเร็งสูงสุด เนื่องจากในใบเพกามีวิตามินซีสูงถึง 484 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ในขณะที่มะนาวมีเพียง 20 มิลลิกรัม ทั้งยังมีวิตามินเอ 8,221 มิลลิกรัม ต่อ 100กรัม เป็นปริมาณที่มากพอๆกับตำลึง หากใครกำลังมองหาพืชผักที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระต้องการที่ทำให้เกิดมะเร็ง เพกาน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
แหล่งข้อมูล หญิงไทย ปี 39 ปักษ์หลัง กันยายน 2557
One thought on “เพกา…สมุนไพรต้านมะเร็ง”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
เคยกินไหม และหากเคยเห็นของจริงไหม น่าจะถ่ายภาพมาลงประกอบด้วยจะน่าสนใจมากขึ้น