คุณครู…กับไม้เรียว
ขอแบ่งปันความคิดเห็นกับเพื่อนๆชาวบล็อก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาคุณครูประจำชั้นฟ้องว่าบุตรสาวของตนเองนั้น ไม่ยอมทำการบ้านในห้องตามที่คุณครูสั่ง ชอบชวนเพื่อนคุย ไม่สนใจเรียน ดิฉันจึงบอกกับคุณครูว่าอนุญาตให้ลงโทษได้เลยค่ะ ถ้าต้นข้าวทำผิด เพราะคุณครูไม่กล้าที่จะตี กลัวว่าผู้ปกครองจะไม่พอใจ จะกลายเป็นเรื่องร้ายแรง ผู้อำนวยการโรงเรียนเคยเล่าให้ฟังว่า มีผู้ปกครองบางคนจะนำลูกมาเรียนที่นี่ถามว่าที่โรงเรียนนี้ตีเด็กมั๊ย ถ้าตีก็จะไม่ให้มาเรียนที่นี่ ก็ขอนำเรื่องนี้มาเชื่อมโยงเกี่ยวกับการลงโทษเด็กด้วยไม้เรียว โดยความเห็นส่วนตัวคิดว่าการใช้ไม้เรียวกับนักเรียนเสมือนเป็นดาบ 2 คม ถ้าคุณครูตีนักเรียนเพื่อระบายอารมณ์ของตนเองแบบไม่มีเหตุผล หรือใช้ไม้เรียวเกินกว่าคำว่า “เพื่อว่ากล่าวสั่งสอนให้หลาบจำ” ส่วนทางอ้อมอาจจะกระทบจิตใจต่อตัวเด็กเองซึ่งอาจจะแสดงพฤติกรรมต่อต้าน โดยส่วนตัวคิดว่าควรสนับสนุนให้คุณครูใช้ไม้เรียวในการลงโทษเด็กได้ แต่ครูก็ต้องมีเหตุผลในการชี้แจงให้เด็กได้เข้าใจก่อนที่จะทำโทษเด็ก ครูนั้นเปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่สองของเด็ก เด็กย่อมเชื่อฟังเป็นพื้นฐานอยู่ก่อนแล้ว แต่ครูต้องมีจิตใจโอบอ้อมอารี รักและเมตตา ไม่ใช้ไม้เรียวจนขาดสติ
ยังจำได้สมัยเด็กก็เคยโดนไม้เรียวกับครู ทุกเช้าก่อนเข้าแถวเคารพธงชาติ พวกที่มาสาย ก่อนเข้าโรงเรียนหน้าประตูจะมีครูเวรยืนหน้าประตูทางเข้า ถือไม้เรียวไว้คอยจัดการกับพวกนักเรียนที่ออกนอกลู่นอกทาง เช่น หนีเรียนไม่เข้าห้องเรียน แต่งตัวผิดระเบียบ และพวกที่ไม่ส่งการบ้าน ทะเลาะกับเพื่อนจนเกิดชกต่อย ถ้าเป็นเรื่องเบาๆ ก็จะโดนตีในห้องเรียน ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ๆ ก็จะโดนหน้าเสาธงให้เห็นกันทั้งโรงเรียน เสียงไม้เรียวที่กระทบลงก้น น้ำตาแทบเล็ดด้วยความเจ็บปวด แล้วก็จะไม่ทำอีก ทั้งอายทั้งเจ็บ แต่การตีเด็กในสมัยนี้ต้องเป็นข้อตกลงระหว่างผู้ปกครองกับทางโรงเรียนว่าอนุญาตให้ตีเด็กได้ ดังสุภาษิตไทย “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี” ด้วยพื้นฐานของครอบครัวผู้ปกครองบางคนอาจจะไม่เคยตีลูก ก็ไม่อยากให้ครูมาตีลูกของตัวเอง และคนสมัยก่อนเชื่อว่า “ไม้เรียวสร้างคนให้เป็นคนดี” เมื่อกาลเวลาและสังคมเปลี่ยนไป ครูจำนวนไม่น้อยที่ละทิ้งจริยธรรมและคุณธรรมของความเป็นครู ที่ใช้ไม้เรียวเป็นเครื่องระบายอารมณ์ ผู้ปกครองจึงไม่ต้องการให้ครูลงโทษเด็กด้วยการตี อาจนำมาสู่เป็นการละเมิดสิทธิ
ด้วยเหตุนี้เมื่อรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการได้แก้ระเบียบการลงโทษนักเรียน หรือนักศึกษาใหม่ โดยยกเลิกการใช้ไม้เรียว จึงมีผู้ปกครองไม่น้อยที่เห็นด้วยกับความคิดนี้ ระเบียบการลงโทษแบบเดิมที่เคยวางไว้ พ.ศ. 2515 นั้น กำหนดให้ครูทำโทษนักเรียนด้วยการตีเด็ก โดยใช้ไม้เรียวขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 0.7 เซนติเมตร และตีไม่เกิน 6 ทีติดต่อกัน ส่วนระเบียบการลงโทษใหม่ที่ยกเลิกการลงโทษเด็กโดยใช้ไม้เรียว แบ่งเป็นการลงโทษออกเป็น 5 ประการ คือ 1. ว่ากล่าวตักเตือน 2. ทำกิจกรรม 3. ทำทัณฑ์บน 4. พักการเรียน และ 5. ให้ออก
สรุปจากความเห็นส่วนตัวเราควรปลูกฝังคุณธรรมให้กับลูก เมื่อทำผิดควรได้รับการลงโทษ เพื่อเตือนให้เขาอย่าทำในสิ่งที่ผิด และต้องลงโทษอย่างมีเหตุผล