เรื่องหวานๆของน้ำตาลอ้อย
น้ำตาลอ้อยหรือน้ำตาลงบหรืองบน้ำอ้อย เป็นน้ำตาลที่เกิดจากภูมิปัญญาของมนุษย์สมัยโบราณมีมาแต่ครั้งพุทธกาลโน่นเลยเชียว เป็นการนำอ้อยที่แก่จัดมาหีบแล้วนำน้ำอ้อยที่ได้นั้นมาเคี่ยวจนน้ำตาลข้นเหนียวเป็นสีน้ำตาล ทิ้งไว้ให้คลายความร้อนแล้วนำมาปั้นเป็นก้อนหรือหยอดใส่พิมพ์เป็นแว่นกลมๆหรือเป็นก้อนสี่เหลี่ยมแล้วห่อด้วยใบอ้อยเก็บไว้กินเป็นของหวาน หรือเอาไว้ใช้ประกอบอาหารก็ได้ ในแถบเอเชียเรานี้นอกจากอินเดียและจีนซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดของการทำน้ำตาลอ้อยแล้ว ทั้งประเทศเวียดนาม ลาว ไทย พม่าและเขมร ล้วนแต่ทำน้ำตาลอ้อยใช้กันเองทั้งสิ้นด้วยกรรมวิธีที่คล้ายคลึงกัน
ในสมัยพุทธกาลนั้นพระพุทธเจ้าอนุญาตให้พระภิกษุสงฆ์ที่อาพาธสามารถฉันงบน้ำอ้อยได้ ในยามที่ไม่มีแรงหรือเพิ่งฟื้นไข้ ส่วนพระภิกษุที่ไม่ได้อาพาธให้ละลายก้อนน้ำอ้อยในน้ำก่อนฉัน ซึ่งมีปรากฏอยู่ในเภสัชชขันธกะ ว่าด้วยหมวดรักษาโรค ส่วนน้ำอ้อยในแง่ของยาสมุนไพรนั้น หมอยาโบราณถือว่าน้ำอ้อยเป็นยาเย็น สามารถใช้เพิ่มพลัง(ให้พลังงาน) แก้ร้อนใน แก้ไอ แก้พิษเหล้า ขับปัสสาวะ แก้อาเจียนและแก้ท้องผูก เพราะในน้ำอ้อยนั้นมีแร่ธาตุจากธรรมชาติอยู่ครบถ้วน มีทั้งธาตุเหล็ก แคลเซียม โปตัสเซียม แมกนีเซียมและวิตามินบี 6 สำหรับผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ ถือว่าน้ำอ้อยป็นยาบำรุงเลือดเพราะมีธาตุเหล็กมาก
การทำน้ำตาลอ้อยหรืองบน้ำอ้อยแบบชาวบ้านนั้นจะเป็นการทำจากธรรมชาติล้วนๆ ไม่มีสารปนเปื้อนหรือสารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้องเลย ซึ่งต่างจากการทำแบบสมัยใหม่ในทางอุตสาหกรรมที่เรารู้จักกันในนามของ โมลาสหรือกากน้ำตาล ที่ได้จากการเคี่ยวน้ำตาลในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งโมลาสนี้มี 2 ชนิดคือ แบบที่มีสารประกอบกำมะถัน ซัลเฟอร์ไดอออกไซด์ และแบบที่ไม่มีกำมะถัน ซึ่งหากเราจะต้องใช้โมลาสควรเลือกแบบปลอดกำมะกันจะดีกว่า
ในปัจจุบันการทำงบน้ำอ้อยหรือน้ำตาลอ้อยแบบโบราณนั้นหาได้ยากยิ่งจะมีเฉพาะในบางพื้นที่หรือบางท้องถิ่นเท่านั้น ผู้บริโภคส่วนใหญ่จึงหันไปใช้น้ำตาลทรายสำเร็จรูปจากโรงงานอุตสาหกรรมอ้อยมากกว่าเพราะสะดวกหาซื้อได้ง่ายมีอยู่ทั่วไปในท้องตลาด ในบ้านเรานั้นนอกจากการทำน้ำตาลจากอ้อยแล้ว เรายังได้น้ำตาลจากจั่นมะพร้าว และงวงตาลโตนดด้วย โดยใช้กรรมวิธีจากการเคี่ยวน้ำตาลคล้ายๆน้ำตาลอ้อยเช่นกัน แต่เราเรียกน้ำตาลที่ได้จากมะพร้าวและตาลโตนดว่า น้ำตาลปี๊บ
ในภูมิภาคอาเซียนของเรานี้น้ำตาลอ้อย หรือน้ำตาลงบ หรืองบน้ำอ้อย หรือบางที่ก็เรียกว่าน้ำตาลแว่น นั้นจัดเป็นขนมหวานที่เอาไว้กินเล่นชนิดหนึ่ง ในสมัยโบราณคนในท้องถิ่นต่างๆยังไม่มีของกินเล่นหรือขนมให้เลือกกินเลือกซื้อมากมายหลากหลายดังเช่นปัจจุบันนี้ น้ำตาลแว่นหรืองบน้ำอ้อยจึงเป็นขนมกินเล่นให้หวานคอและชื่นใจได้ดีอย่างหนึ่ง ลองไปสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ในยุคก่อนดูสิ ส่วนมากเคยกินและรู้จักน้ำตาลแว่นกันทั้งนั้น แล้วประเทศหนึ่งในอาเซียนที่อยู่ใกล้ชิดติดประเทศของเราคือ ประเทศลาว ก็ถือเอาน้ำตาลอ้อย นี่แหละเป็นขนมหวานประจำชาติของเขา เรียบง่ายและไม่ซับซ้อนในกระบวนการทำแต่ก็หวานได้ใจเลยละกัน..!
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก นิยสารขวัญเรือนฉบับล่วงเวลา (ลืมจดรายละเอียดทางบรรณานุกรมไว้)
One thought on “เรื่องหวานๆของน้ำตาลอ้อย”
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.
ข้าพเจ้าก็เคยกินน้ำตาลแว่นเป็นของกินเล่น หอมหวานอร่อยมาก ถือว่าเป็นผู้เฒ่าผู้แก่คนหนึ่ง555