การเสี่ยงโชคถือเป็นความเสี่ยงที่หลายๆคนชื่นชอบ ทั้งๆที่รู้ว่านั่นคือความเสี่ยงแต่ก็อยากจะลองเพราะมันท้าทายดี แถมบางคนยังติดอกติดใจพร้อมที่จะเสี่ยงต่อไปเรื่อยๆอีกต่างหาก แล้วการสี่ยงโชคที่คนเราให้ความสนใจและได้รับความนิยมชมชอบมาตลอดกาลนั้นก็คือ “หวย” ซึ่งถือเป็นการพนันชนิดหนึ่ง แต่ในทางธรรมแล้วเรียกสิ่งนี้ว่า “อบายมุข” ค่ะญาติโยมหญิง-ชายทั้งหลาย การเสี่ยงโชคด้วยการเล่นหวยหรือเรียกอีกคำหนึ่งว่า แทงหวย นั้นโอกาสที่ท่านจะเสียมีมากกว่าโอกาสที่ท่านจะได้หลายเท่านัก แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากในทุกชนชั้นและทุกสาขาอาชีพพร้อมที่ก้าวเข้าไปเป็นนักเสี่ยงโชคมาโดยตลอดและนับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้นซะด้วย 
     เรื่องของ “หวย” นี้มีมาแต่ครั้งโบราณกาลแล้ว เจ้าตำรับต้นกำเนิดแห่ง “หวย” ต้องยกให้ประเทศจีนเขาละ สำหรับประเทศไทยเรานั้นน่าจะมีมาแต่ในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงที่มีคนจีนเข้ามาติดต่อค้าขายและอพยพโยกย้ายมาตั้งถิ่นฐานในเมืองไทยมากขึ้น ในช่วงแรกๆนั้นเป็นการเล่นหวยอยู่ในกลุ่มของคนจีนด้วยกันเองก่อน แล้วจึงแพร่เข้ามาสู่ในหมู่ของคนไทยโดยมีการเล่นหวยอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในปีพ.ศ. 2378 โดยให้มีการออกหวยวันละ 2 ครั้ง เรียกว่า หวย ก ข เจ้ามือหวยหรือนายอากรหวยคนแรกคือ พระศรีไชยบาน (จีนหง) ต่อมาการจะเป็นเจ้ามือหวยนั้นต้องมีการประมูลกันทุกปี และคนที่ประมูลได้ก็จะได้รับบรรดาศักดิ์เป็น “ขุนบานเบิกบุรีรัตน์” ได้ศักดินา 400 ไร่ ซึ่งตำแหน่งอันทรงเกียรติของเจ้ามือหวยนี้คาดว่าน่าจะกำหนดขึ้นในรัชสมัยของรัชกาลที่ 4  ซึ่งการที่ท่านขุนบานเบิกบุรีรัตน์ ได้ศักดินาถึง 400ไร่นี้ทำให้ท่านกลายเป็น “ผู้ดี” ไปในทันที เพราะในสมัยโบราณนั้นคนที่ถูกเรียกว่าผู้ดีได้นั้นต้องเป็นคนมีชาติตระกูลสืบเชื้อสายมาจากบรรพบรุษในระดับสูง ต้องมีศักดินา 400 ไร่ขึ้นไป ส่วนประชาชนชาวบ้านธรรมดานั้นต่อให้ทำดีอยู่ในศีลธรรมแค่ไหนก็จะได้ศักดินาเพียงแค่ 25 ไร่เท่านั้น แล้วตำแหน่ง “ขุนบานเบิกบุรีรัตน์”นี้จะสิ้นสุดหรือหมดวาระเมื่อมีการประมูลครั้งใหม่และจะหมดสถานะการเป็น “ผู้ดี” ไปด้วยกลายเป็นคนธรรมดาสามัญดังเดิม ยกเว้นแต่จะประมูลเป็นเจ้ามือหวยได้ใหม่อีกครั้ง
    การที่เจ้ามือหวยในยุคนั้นได้ศักดินาเป็นท่านขุนก็ด้วยเหตุผลประการเดียวคือเพื่อความคล่องตัวด้านกฎหมาย เนื่องจากผู้ผูกขาดการเป็นเจ้ามือหวยมักต้องมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลบ่อยๆ การเป็น “ผู้ดี” มีศักดินาจึงเป็นเสมือนเกราะให้ตนเอง ด้วยไม่ต้องไปศาลเองแต่สามารถแต่งตั้งทนายไปว่าความแทนให้ได้  สำหรับตำแหน่ง “ขุนบานเบิกบุรีรัตน์” เป็นบรรดาศักดิ์ที่คู่กับ “ขุนพัฒนสมบัติ” ซึ่งเป็นตำแหน่งของนายบ่อนการพนัน จึงมีศักดิ์และสิทธิ์เท่ากัน เพราะเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการพนันคล้ายคลึงกันนั่นเอง  สำหรับปัจจุบันตำแหน่งที่ไม่ธรรมดาของคนธรรมดาทั้งสองตำแหน่งนี้ไม่มีแล้วค่ะ แต่การเล่นหวยยังคงดำรงอยู่ต่อไป ตราบที่ยังมีคนพิสมัยความเสี่ยงและเฝ้าลุ้นระทึกอยู่ในทุกงวด (ส่วนตัวดิฉันไม่ชอบความเสี่ยงชนิดนี้ค่ะ)
ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ข่าวราม ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง