การใช้ชีวิตหนึ่งปี ในประเทศจีนครั้งนี้ นอกจากได้เรียนรู้ภาษาจีนกับเจ้าของภาษาแล้ว ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมจีน ที่สัมผัสได้ด้วยตนเอง เช่น การคมนาคม ประเทศจีนจะขับเลนขวา พวงมาลัยจะอยู่ทางด้านซ้าย ซึ่งต่างกับประเทศไทยที่ขับรถเลนซ้าย ในช่วงแรกๆที่ไปอยู่ ยังงงๆ กับการข้ามถนน เพราะเราเคยชินกับรถเลนซ้ายซึ่งเวลาข้ามจะมองทางขวาก่อนว่ามีรถวิ่งมาหรือไม่ แล้วจึงค่อยข้ามถนน แต่ประเทศจีน เราต้องมองทางซ้ายมือจากนั้นจึงมองทางขวามือ ต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่ระยะหนึ่งเลยล่ะ
การใช้บริการรถโดยสารประจำทาง มีเพียงคนขับ ไม่มีผู้เก็บค่าโดยสาร จะมีกล่องตรงใกล้ๆคนขับให้ผู้โดยสารที่ใช้บริการหยอดค่าโดยสารเอง (การเสียค่าโดยสารมี 2 แบบ คือ การจ่ายเงินสด และบัตรโดยสารแบบเติมเงิน) การขึ้นรถจะขึ้นทางประตูหน้าและลงทางประตูหลัง โดยจะมีกล้องติดไว้บริเวณใกล้ๆประตูเพื่อสังเกตผู้โดยสารขึ้นลง ซึ่งรถจอดทุกสถานีและจะมีสัญญาณตัวอักษรไฟวิ่ง และเสียงแจ้งให้ทราบว่าถึงสถานีใด อีกทั้งป้ายรถเมล์ยังบอกสถานีต้นทางถึงปลายทางว่าวิ่งผ่านที่ใดบ้าง
สำหรับเมืองที่เป็นเมืองสำคัญและเป็นเมืองเศรษฐกิจ ที่ป้ายรถเมล์จะมีบอกว่าจะมีรถโดยสารสายใดบ้างที่วิ่งผ่านและอีกกี่นาทีจะมาถึงสถานีนี้ การเดินทางโดยรถไฟสะดวกสบาย และค่อนข้างตรงต่อเวลาตามที่ระบุไว้ในตั๋วทำให้เป็นชื่นชอบและนิยมใช้บริการเป็นจำนวนมาก วัฒนธรรมคนจีน จะมีช่วงเวลาพักกลางวัน หรือที่เรียกว่าอู่ซุ่ย เพื่อให้ประชาชนได้พักผ่อนหลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จจะนอนกลางวัน (แรกๆยังไม่ชิน แต่พออยู่ไปนานๆเริ่มชินกับ อู่ซุ่ย และรู้สึกว่าการได้นอนพักกลางวัน ทำให้สดชื่นขึ้น ดิฉันซึมซับมาเต็มๆเลยทีเดียว พอกลับมาไทยต้องใช้ตัวช่วย คือ กาแฟ ซึ่งแต่เดิมก็ชื่นชอบกาแฟอยู่แล้ว)
อาหารที่นี่ส่วนใหญ่จะมีรสชาติจืด (คนไทยชอบรสจัดจ้าน) และให้ปริมาณที่มาก ขนาดถ้วยเล็กของจีน เท่ากับขนาดใหญ่ที่บ้านเรา สามารถแบ่งได้เป็นสองมื้อเลยละค่ะ นอกจากนี้ตามร้านอาหารจะมีถังขยะวางไว้ใกล้ ๆ ที่นั่งเพื่อให้ทิ้งเศษอาหาร เช่น กระดูก หรือจะวางเศษอาหารไว้ที่บริเวณโต๊ะอาหารไม่วางไว้ในจานข้าว แต่ที่ชื่นชอบคือ หม่าล่าทัง อะๆ อย่าเพิ่งคิดไปไกลค่ะ ลักษณะคล้ายก๋วยเตี๋ยวบ้านเรานั่นเอง หม่าล่า เป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่งของจีน มีกลิ่นหอม เมื่อเคี้ยวโดนจะรู้สึกชาปาก หม่าล่าทัง เป็นการนำผัก หรือเนื้อต่างๆเสียบไม้ วางไว้ด้านหน้าร้าน เราอยากกินผัก หรือเนื้อแบบไหนสามารถเลือกใส่ตะกร้าได้ตามใจชอบ จากนั้นยื่นตะกร้าให้แม่ค้าคิดราคา
นอกจากนี้ประเทศจีนมีสวนสาธารณะเป็นจำนวนมาก เพื่อให้ประชาชนได้มาออกกำลังกาย และสนทนากัน มีบางวันที่ดิฉันได้มีโอกาสมาพักผ่อนหย่อนใจที่สวนสาธารณะ ได้เห็นผู้คนหลากหลายวัยมาที่นี่ เป็นจำนวนมาก และมีกิจกรรมมากมาย อาทิ การประลองสมองกับเกมหมารุกจีน การรำมวยจีน (ไทเก๊ก) ฯลฯ เรียกได้ว่าใครใคร่ชอบสิ่งใด สามารถเข้าไปรวมกลุ่มนั้นๆได้เลยค่ะ