การทำงานในองค์กรที่มีขนาดใหญ่หรือเล็กก็ตาม ย่อมต้องมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ทั้งในเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน  ฯลฯ  การที่เราจะพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานหรือผู้ที่มาติดต่อให้ได้ผลนั้น การทราบบุคลิกของคนที่เราติดต่อด้วยจะทำให้ง่ายต่อการติดต่อ  ซึ่งจากการเรียน ออนไลน์ เรื่อง การเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์เพื่อการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทฤษฎีของ ศ.ดร หลุย จำปาเทศ ได้แบ่งบุคลิกของคนออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. บุคลิกแบบ o personality (ชอบแสดงออก)
เป็นคนคุยเก่ง เปิดเผย คล่องแคล่วว่องไว มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง แก้ไขสถานการณ์เก่ง เป็นผู้ที่ถ่ายทอดเก่ง มีความรู้กว้างขวาง เป็นแหล่งข้อมูลที่น่าสนใจ
2. บุคลิกภาพแบบไม่แสดงออก u personality (คนขรึม)
ไม่ชอบแสดงออก เป็นคนเงียบขรึม เรียบร้อย ไม่เถียง ฟังเก่ง ยิ้มอย่างเดียว ชอบทำงานที่เจาะลึกมากกว่าพบปะผู้คน มีความรู้เฉพาะทางอย่างลึกซึ้ง  รู้สึกสบายใจกว่าถ้าได้นั่งเงียบๆคนเดียว การถามคำถามกับคนบุคลิกนี้ถ้าเป็นคำถามปลายเปิดจะตอบช้า ที่ตอบช้าไม่ใช่ว่าคิดช้าเพราะคนกลุ่มนี้จะตั้งคำถามในหัวเยอะ ฉะนั้นควรถามคำถามแบบถามปลายปิด เช่น ใช่หรือไม่ ก่อน
3. บุคลิกภาพแบบทั่วไป n personality (เป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม)
แสดงออกปานกลาง ไม่พูดมากไป หรือเกินน้อยไป คนกลุ่มนี้ขาดเสน่ห์ที่สำคัญของคนช่างคุย คือ การกระเซ้าเย้าแหย่ และเสน่ห์ของคนขรึมคือ การรู้จักถ่อมตัว ซึ่งเป็นไปโดยธรรมชาติของตัวเอง
เทคนิคในการปฏิสัมพันธ์กับคนที่มีบุคลิกภาพต่างกัน
– บุคลิกแบบ o personality ต้องฟังด้วยความสนใจ การชักชวน เข้าไปไต่ถาม ความมีน้ำใจห่วงใย
– บุคลิกภาพแบบไม่แสดงออก u personality ความมีน้ำใจห่วงใย ชวนคุยด้วยคำถามปลายปิดก่อนค่อยเปิด
– บุคลิกภาพแบบทั่วไป n personality  ชักชวน ฟัง มีน้ำใจ ห่วงใย การพบกันช่วงแรกไม่ต่างจากคนขรึมนัก จึงมีท่าทีเงียบขรึม มีการปรับท่าทีได้เร็วกว่า แต่ไม่คล่องเหมือนกลุ่มโอ
การเสริมสร้างและพัฒนาทักษะกับคนที่มีบุคลิกต่างกัน
– การถ่อมตัว ซึ่งเป็นจุดเด่นของคนขรึม  การตอบรับในเรื่องที่สนทนา, ลดความเด่นของตนเองลงและ มีการชมกลับไปยังคู่สนทนา
– การกระเซ้าเย้าแหย่ เป็นลักษณะของคนช่างพูดช่างคุยที่สามารถสร้างความเฮฮาในทุกที่ที่ไป เทคนิคคือ รู้จักการพูดในเชิงลบแต่ด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรและสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ข้อควรระวังคือ ถ้าไม่สนิทกันจริงหรือไม่มั่นใจว่าสร้างเฮฮาได้ ควรใช้ความเงียบเพราะ ถ้าพลาดอาจเกิดการเข้าใจผิดได้
– การชมเชย การชมอย่างจริงใจ ชมเฉพาะในส่วนที่ดี พูดชมเชยโดยให้มีผู้อื่นรับรู้
การที่เรารู้บุคลิกลักษณะของเพื่อนร่วมงานและสามารถปรับบุคลิกของเราให้เป็นได้ทั้ง 3 แบบนั้น จะทำให้เราพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานได้อย่างราบรื่น และสิ่งที่สำคัญคือ ความจริงใจที่เราอยากจะพูดคุยหรืออยากจะมีมิตรไมตรีด้วย เพียงเท่านี้เราจะผูกมิตรกับเพื่อนร่วมงานได้มากขึ้น