ฉัน รถไฟ ในวัยยี่สิบเจ็ดปี x การเดินทางเพื่อทำคอนเทนต์

ปู๊น…ปู๊น ฉึกฉัก ฉึกฉัก

คงจะไม่ต้องเดาว่านี่เป็นเสียงของอะไร ภาพจำรถไฟในวัยเด็กของใครหลาย ๆ คน คงจะหนีไม่พ้นเสียงนี้เป็นแน่แท้ รถไฟ นับว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการเดินทาง โดยการใช้รถขนส่งสาธารณะ ซึ่งมีมานานมากตั้งแต่อดีตกาลนานมาเลยทีเดียวเชียว จำได้ว่าครั้งแรกของจาที่ได้นั่งรถไฟ ตอนนั้นเรียนอยู่ประมาณ ม.2 และครั้งที่สองตอนเรียนอยู่ ม.6 เป็นการนั่งรถไฟฟรีจากสถานีราชบุรีไปลงสถานีชะอำ จ.เพชรบุรี เพื่อไปเที่ยวทะเลกับเพื่อน ๆ ขอย้ำอีกครั้งว่าเป็นรถไฟฟรี คนเยอะมาก แบบ ก.ไก่ ล้านตัว แทบจะหาที่แทรกตัวลงไปนั่งไม่ได้เลย ต้องไปยืน หรือนั่งอยู่แถวประตูทางเข้า-ทางออก เป็นการนั่งรถไฟที่เหนื่อย แล้วก็ร้อนมาก แต่พอมีเพื่อนก็ยังพอที่จะเอนจอยได้อยู่ หลังจากนั้นมา รถไฟเลยไม่ค่อยอยู่ในตัวเลือกในการเดินทางเท่าไหร่

แนบภาพประกอบสมัยละอ่อน (ม.6)

แต่! ใครจะไปคิดว่าจาจะได้กลับมานั่งรถไฟอีกครั้งในวัยทำงาน ซึ่งได้รับการชักชวนจากพี่สมปอง หัวหน้าหอสมุดฯ ของเรานั่นเอง และการนั่งรถไฟในครั้งนี้เป็นการนั่งเพื่อสำรวจเส้นทางการเดินทาง จาก “มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์” ไป “มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตวังท่าพระ” ในคอนเทนต์ที่ชื่อว่า “ศิลปากรเดียวกัน ตอน ไปท่าพระ” นั่นเอง อาจจะมีใครหลาย ๆ คนเคยได้เห็นกันแล้ว หรือถ้าใครยังไม่เห็นก็สามารถเข้าได้ติดตามอ่านได้ตามลิงก์นี้เลยค่ะ

เห็นผลการตอบรับที่ได้ก็หายเหนื่อย หายร้อนเป็นปลิดทิ้งแล้วค่า 😛

อย่างที่จาได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่าการนั่งรถไฟในวัยมัธยม ค่อยข้างเหนื่อย และร้อนมาก ก่อนการเดินทางครั้งนี้เลยแอบหวั่นใจอยู่ลึก ๆ ว่าจะเป็นแบบนั้นไหมนะ แต่ผิดคาด ถึงแม้จะเป็นการเดินทางเพื่อสร้างงาน แต่ในพาร์ทของการนั่งรถไฟก็รู้สึกสบายอยู่ไม่น้อย เราสองคน พี่น้องสองวัย เริ่มจากเดินไปซื้อตั๋วสองใบ ก่อนหน้านั่นก็ต้องยื่นบัตรประชาชนของทั้งสองคนก่อน บอกว่าไปสถานีธนบุรี จ่ายเงิน แล้วจากนั้นก็จะได้ตั๋วมาโดยมีรายละเอียดต่าง ๆ คือ ชื่อเจ้าของตั๋ว ชื่อขบวน เวลาออก-เวลาถึง เลขที่นั่ง และอีกมากมาย รวมถึงราคาที่แสนจะย่อมเยา เพียง 40 บาทเท่านั้น ตามภาพนี้เลย ระหว่างที่รอก็ขอเก็บภาพเพื่อประกอบคอนเทนต์หน่อย

และระหว่างนี้จาก็จะขอเล่าความรู้สึกเกี่ยวกับคอนเทนต์นี้คร่าว ๆ คนริเริ่มความคิด “ศิลปากรเดียวกัน” นั้นเริ่มจากพี่สมปอง เนื่องจากมหาวิทยาลัยศิลปากรของเรามีทั้งหมด 3 วิทยาเขตด้วยกัน คือวิทยาเขตผู้พี่ วังท่าพระ ต่อมาคือวิทยาเขตพี่รอง สนามจันทร์ และสุดท้ายวิทยาเขตน้องเล็ก คือ สารสนเทศเพชรบุรี นักศึกษาที่เรียนอยู่แต่ละวิทยาเขตอาจจะคิดว่าเราอยู่ห่างไกลกัน แต่ว่าพวกเราก็เป็นคนศิลปากรเหมือนกันทั้งนั้น สามารถเชื่อมถึงกันได้ ไปมาหาสู่กันได้ จึงเริ่มเกิดเป็น “ตอน ไปท่าพระ” ขึ้น โดยเลือกการเดินทางที่อาจจะไม่ค่อยมีใครเลือกกัน คือการเดินทางโดยรถไฟ ในนามพี่พร้อมก็เลยอยากเสนอให้หลาย ๆ คนเห็น ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาใหม่ นักศึกษาเก่า หรือคนในจังหวัดนครปฐมเองก็ดี ได้มีตัวเลือกในการเดินทางเพิ่มขึ้นมาอีกช่องทาง นอกจากนี้การเดินทางไปมาหาสู่กันก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นการที่เราเป็นหนึ่งในฝ่ายของสำนักหอสมุดกลาง จึงอยากนำเสนอในส่วนของการใช้บริการ หรือทรัพยากรสารสนเทศของแต่ละวิทยาเขตว่า ใครก็ก็ตามที่เป็นประชาคมศิลปากร ไม่ว่าอยู่วิทยาเขตไหนก็สามารถเข้าถึงบริการ หรือทรัพยากรสารสนเทศของหอสมุดทุก ๆ วิทยาเขตได้เช่นกัน

กลับมาต่อ รถไฟมาแล้ว เห็นชื่อขบวนเป็น “นครปฐม-ธนบุรี” ขึ้นได้!!! คนโล่งมาก นั่งสบาย เนื่องจากคนน้อยก็สามารถจับจองเลือกที่นั่งได้เลย ผิดกับประสบการณืในวัยเด็กมาก ด้วยเช้าวันนั้นอากาศเป็นใจ เพราะคืนก่อนเดินทางฝนตกตลอดทั้งคืน ตอนเช้าก็เลยอากาศดี๊ดี รถไฟออกจากชานชาลาลมพัดสบาย ไม่ต้องง้อเครื่องปรับอากาศเลย อากาศดีจนเกือบจะหลับ 555555

แล้วไม่นานพี่น้องสองวัยก็มาถึงสถานีธนบุรี จากนี้หมดช่วงเวลาสบายแล้วสิ เพราะแดดเมืองไทยนั้น… แต่ไม่เป็นไรจากสถานีธนบุรี เดินไปอีกไม่ไกลก็ถึงวังหลังแล้ว แต่ก็ต้องพึ่งเครื่องมือนำทางอย่าง Google Maps พากันเดินลัดเลาะไปจนถึงตลาดวังหลัง หรือใครจะเดินลัดเลาะด้านในโรงพยาบาลศิริราชก็ได้นะ อาจจะร้อนน้อยกว่า แต่ถ้าใครไม่อยากเดินหน้าสถานีก็จะมีพี่วินคอยถาม “ไปไหนครับ?” เลือกวิธีที่ทุกคนสะดวกได้เลยค่ะ พอถึงตลาดวังหลังแล้วระหว่างนั้นก็แวะเติมพลังหาของอร่อยกันก่อน แอบเก็บภาพมากฝากยั่ว ๆ จ้า

คราวนี้ท้องอิ่มก็ได้เวลาเดินทางต่อ เราจะไปท่าเรือข้ามฟากวังหลังกัน เดินไปอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว ภารกิจศิลปากรเดียวกัน ตอน ไปท่าพระ กำลังจะเสร็จสิ้น หลังจากนี้ขออุบไว้เท่านี้ก่อน สำหรับใครที่ยังไม่เคยไปวิทยาเขตวังท่าพระด้วยการนั่งรถไฟ และอยากจะเดินทางโดยวิธีนี้ไปอ่านวิธีการเดินทางอย่างละเอียดกันได้ที่ “ศิลปากรเดียวกัน ตอน ไปท่าพระ” ลองดูได้นะคะ ใช้เวลาแค่ 1 วัน ก็หมือนได้เที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศให้ไม่เบื่อแล้ว ลองดูค่ะ ออกเดินทางกัน รับรองสนุกแน่!!!!

จริณ.